ในที่สุดเวลาที่แฟนบอลรอคอยก็มาถึงซะที โดยศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/2023 กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง งานนี้ ลิเวอร์พูล มีคิวออกไปเยือน ฟูแล่ม ในแมตช์แรกของฤดูกาล วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคมนี้ งานนี้บอกเลยว่า “หงส์แดง” พร้อมจัดเต็มสูบแม้พวกเขาจะมีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บหลายคนก็ตาม แต่ด้วยขุมกำลังที่เหลืออยู่ยังคงดูน่าเกรงขามกว่าเจ้าบ้าน นอกจากนี้สาวก “เดอะ ค็อป” คงอยากเห็น ดาร์วิน นูนเญซ ลงโชว์ฝีเท้าอีกครั้งไม่ว่าจะในฐานะตัวจริงหรือตัวสำรองก็ตาม ขณะที่ข่าวดีของทีมเยือนคงหนีไม่พ้นการที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ กลับมาฟิตพร้อมเสาเฝ้าอีกครั้ง

1.นูนเญซ ยังต้องปรับตัวอีกสักพัก
แม้ว่า ดาร์วิน นูนเญซ จะค่อยๆ ปรับตัวกับแนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล ได้แล้วก็ตาม ล่าสุดก็มีส่วนในการนำ “หงส์แดง” คว่ำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าโล่การกุศล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำหรับเกมพรีเมียร์ลีก ดูเหมือน คล็อปป์ ยังไม่อยากส่งดาวยิงชาวอุรุกวัยลงเล่นตัวจริงทันทีในแมตช์เปิดซีซั่น เพราะเขาต้องการให้นักเตะได้เรียนรู้ และศึกษาสไตล์ของเกมลีกสูงสุดแดนผู้ดี ฉะนั้นเชื่อว่าเกมนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน น่าจะใช้งาน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นหน้าเป้าตั้งแต่ต้นเกม ขณะที่ นูนเญซ คงได้รับโอกาสลงในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งตอนนั้นเขาคงเข้าใจระบบและวิธีการเล่นในลีกอังกฤษ รวมทั้งรู้ว่าจะต้องเล่นยังไงเมื่อเจอเกมลีกที่เน้นเรื่องสภาพร่างกายและความแข็งแกร่งเป็นหลัก

2. พ่อหมีกลับมาแล้ว
หนึ่งในข่าวดีสำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ โดย คล็อปป์ ยืนยันว่า นายทวารทีมชาติบราซิล ไม่มีอาการบาดเจ็บอีกแล้ว และพร้อมที่จะกลับมายืนเฝ้าเสาเป็นมือ 1 ในแมตช์เปิดซีซั่นวันเสาร์นี้ ก่อนหน้านี้ “พ่อหมี” ไม่ได้ลงเล่นเลยนับตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ประเทศไทย และแน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่แฟนบอล “หงส์แดง” หวาดหวั่นอย่างมาก เพราะ ควีวิน เคลเลเฮอร์ มือ 2 ก็โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ดังนั้นทีมจึงเหลือโกลที่มีประสบการณ์แค่คนเดียวก็คือ อาเดรียน เท่านั้น ฉะนั้นการที่ อลีสซง กลับมาซ้อมได้อย่างเต็มที่นั่นคือสัญญาณที่ดีเยี่ยมของทีม

3. ปัญหานักเตะบาดเจ็บส่งผลกระทบตั้งแต่เปิดซีซั่น
สิ่งที่ คล็อปป์ ไม่อยากเจอเลยนั่นก็คือขุมกำลังโดนปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว เพราะแข้ง “หงส์แดง” 8 รายต้องอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายแถมแข้งบางคนเป็นพวกตัวหลักที่ทีมจำเป็นต้องใช้ซะด้วย ไล่ตั้งแต่ เคลเลเฮอร์, คัลวิน แรมซี่ย์, เคด กอร์ดอน และ ดีโอโก้ โชต้า ไม่ได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเลยเพราะต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอสตาส ซิมิคาส, เคอร์ติส โจนส์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หมดสิทธิ์ช่วยทีมเนื่องจากโดนโรคเดี้ยงเล่นงานในช่วงระหว่างออกทัวร์ปรีซีซั่น ส่วน นาบี เกอิต้า ซึ่งพลาดเกมอุ่นเครื่องแพ้ สตราส์บูร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากป่วยแต่น่าจะได้ร่วมเดินทางไปกับทีมเยือนถิ่นคราเว่น ค็อตเทจ แต่จะได้ลงเล่นหรือไม่ต้องลุ้นจนนาทีสุดท้าย

4. คาร์วัลโญ่-เอลเลียตต์ ลุ้นเจอทีมเก่า
หนึ่งในไฮไลต์ที่แฟนบอลลิเวอร์พูล อยากเห็นก็คือดาวรุ่งพุ่งแรงทั้ง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต์ มีโอกาสได้ลงสนามในแมตช์นี้ แต่คงไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เพราะทั้งสองคนยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกซักระยะ แต่กระนั้นพวกเขาเคยเป็นเด็กปั้นของ “เจ้าสัวน้อย” แน่นอนว่าทั้งคู่คงได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลทีมเก่าอย่างเต็มที่แน่นอน (แต่จะดีหรือไม่ดีต้องลุ้นกันไป) สำหรับ คาร์วัลโญ่ ต้องบอกว่าเป็นคีย์แมนสำคัญที่ช่วย ฟูแล่ม เลื่อนชั้นได้สำเร็จ ก่อนจะโบกมือลามาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ ฉะนั้นเขาน่าจะยังคงเป็นที่รักของสาวก “เจ้าสัวน้อย” อยู่บ้าง แต่ไม่ใช่แค่ฝั่งเจ้าบ้านเท่านั้น เพราะ ลิเวอร์พูล ก็มีเด็กเก่าที่ไปเล่นกับ ฟูแล่ม นั่นก็คือ แฮร์รี่ วิลสัน แต่น่าเสียดายที่นักเตะบาดเจ็บก็เลยพลาดแมตช์นี้ไปโดยปริยาย

5. ลิเวอร์พูล ผลงานดีในเกมแรกของซีซั่น
“เดอะ เร้ดส์” มักจะทำผลงานได้ดีเยี่ยมในศึกพรีเมียร์ลีกนัดแรกมาตลอด โดยพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะได้เรียบร้อยในช่วง 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา แถมยังยิงประตูกระจุยไม่น้อยกว่า 3 ลูกซะด้วย นอกจากนี้ทีมเยือนยังพบความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า เพราะพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นจากการเล่นเกมลีก 19 แมตช์หลังสุด (ชนะ 16 เสมอ 3) นับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ยังไม่หมดแค่นั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังยิงประตูให้กับต้นสังกัดในแมตช์แรกของลีกได้ตลอด 5 ซีซั่นให้กับสโมสร อย่างไรก็ตามทีมของคล็อปป์ ก็อย่าได้ประมาท ฟูแล่ม เด็ดขาด เพราะเจ้าบ้านไม่แพ้ “หงส์แดง” ในเกมลีกฤดูกาล 2020/2021 โดยเสมอ 1-1 ในคราเว่น ค็อตเทจ และบุกชนะ 1-0 ที่แอนฟิลด์ มาแล้ว