ลือกันให้แซดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกลงคว้าตัว อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางทีม ยูเวนตุส มาเสริมทัพได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังเปิดซีซั่นใหม่ได้อย่างเลวร้ายโดยพ่ายต่อ ไบรท์ตัน คารัง 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผีแดง ก็กุลีกุจอมองหามิดฟิลด์คนใหม่มาเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางอย่างเร็วจี๋โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่าทีม ม้าลาย ตกลงค่าตัวนักเตะกับ โรงละครแห่งความฝัน ได้อย่างลุล่วงแล้ว

อย่างไรก็ดี เร้ด เดวิลส์ จะต้องตกลงสัญญาส่วนตัวกับดาวเตะเฟรนช์แมนให้ได้ซะก่อน แถมมีการลือกันว่า เวโรนิก คุณแม่ซึ่งเป็นเอเยนต์ของนักเตะตั้งท่าปิดกั้นดีลนี้อย่างเต็มที่ซะด้วยเนื่องจากสตาร์วัย 27 ปีซึ่งเหลือสัญญากับ ยูเวนตุส อีกหนึ่งปีจัดเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้ค่าแรงสูงที่สุดในสังเวียนแข้ง อัลลิอานซ์ สเตเดี้ยม

ทำไปทำมา ดีลนี้อาจเป็นเหมือนกับ เฟรงกี้ เดอ ยอง สตาร์ทีม บาร์เซโลน่า ที่ส่อแววลากยาวอีกเช่นกันก็เป็นได้ แต่อย่างน้อย ผีแดง น่าจะใจชื้นขึ้นเยอะหลังตกลงค่าตัวนักเตะกับต้นสังกัดได้สำเร็จแล้ว

ในฐานะกองกลางตัวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงตั้งความหวังว่าจะได้อดีตเด็กในอะคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ รายนี้มาทำหน้าที่ปัดกวาดเกมรุกของคู่แข่งซึ่งชัดเจนตั้งแต่เกมเปิดซีซั่นว่าจนถึงขณะนี้แล้วทั้ง เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ต่างก็ไม่มีพัฒนาการเลยแม้แต่น้อย

เอาเป็นว่าหากเราจะมองในแง่บวกว่า ผีแดง กำลังจะได้ตัว ราบิโอต์ ในเร็ววันนี้ นี่คือ 3 ทางเลือกที่ เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ชาวเมืองทิวลิปสามารถส่งกองกลางตัวใหม่ลงบู๊ให้กับทีมได้

-4-3-3

ภายใต้ระบบสามกองกลาง ราบิโอต์ พร้อมทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำสุดซึ่งถือเป็นภารกิจโดยตรงของนักเตะที่สวมบทกองกลางตัวรับอยู่แล้ว

แม้โดยธรรมชาติ ดาวเตะทีมชาติ ฝรั่งเศส อาจไม่ใช่นักเตะที่ขยันวิ่งตะบึง หรือเล่นในสไตล์เข้าปะทะหนัก แต่เขาสามารถรับผิดชอบหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมกับการปักหลักอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์คอยทำหน้าที่เป็นเหมือนด่านป้องกันด่านหน้าให้กับแผงหลังซึ่งเชื่อกันว่าเขามีดีกว่าทั้ง เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่ ผีแดง ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ หรือว่ามีสกอร์นำหน้าคู่ต่อกร และหวังเล่นแบบปิดเกมเข้าว่า คริสเตียน เอริคเซ่น ก็อาจถูกขยับลงต่ำให้มาทำหน้าที่เหมือนนักเตะหมายเลข 6 คอยช่วยงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ ราบิโอต์ ก็ยังได้อันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ฉายเดี่ยวในฐานะมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมแต่เพียงผู้เดียว

-4-2-3-1

สำหรับระบบที่ว่านี้ แน่นอนว่า ราบิโอต์ จะได้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในสองกองกลางตัวรับของทีมซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบการเล่นในเกมที่ต้องดวลกับคู่ปรับที่แข็งแกร่งกว่า และหากเป็นอย่างนี้ เฟร็ด ก็น่าจะถูกเลือกให้เป็นคู่หูของสตาร์ใหม่มากกว่า แม็คโทมิเนย์ เมื่อพิจารณาถึงชั้นเชิง และฝีเท้า

กระนั้นก็ดี กองกลางที่จะต้องหลุดจากโผตัวจริงสำหรับระบบการเล่นนี้มีสิทธิ์ได้แก่ เอริคเซ่น เนื่องจาก แฟร์นันด์ส สมควรต้องอยู่ในสนามเพื่อทำหน้าที่เป็นกองกลางตัวรุกที่คอยให้การสนับสนุนสามหัวหอก

ต่อการแบ่งแยกหน้าที่กันระหว่าง ราบิโอต์ กับ เฟร็ด เชื่อแน่ว่าพ่อค้าแข้งจากแดนน้ำหอมถนัดที่จะเล่นอยู่ในพื้นที่ที่ต่ำกว่าดาวเตะทีมชาติ บราซิล ซึ่งมีพละกำลังที่จะกระชากบอลบุกขึ้นไปข้างหน้าเพื่อเติมเกมรุกให้กับทีมได้มากกว่า

-4-1-4-1

ว่ากันว่ามันน่าจะเป็นแบบแผนการเล่นที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมนำมาใช้ในอนาคตทันทีที่นักเตะสามารถปรับตัวให้เข้ากับปรัชญาของ เทน ฮาก ได้ไม่ช้าก็เร็วเนื่องจากกุนซือดัตช์ต้องการสร้างทีมให้เล่นในสไตล์บู๊สะบั้นหั่นแหลกจากจำนวนนักเตะตัวรุกที่เขามีให้เลือกใช้สอยอย่างเหลือเฟือ

ตามแบบแผนที่ว่านี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะได้สวมบทบาทหน้าเป้าแบบข้ามาคนเดียวตามถนัดเพื่อกดดันทีมคู่แข่งแบบเต็มร้อยจนโงหัวไม่ขึ้นแม้อาจเสี่ยงต่อการเปิดช่องให้โดนเล่นงานจากจังหวะโต้กลับก็ตาม

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ ราบิโอต์ จะเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับแค่คนเดียว ขณะที่ เอริคเซ่น กับ แฟร์นันด์ส จะขยับขึ้นสูงไปทำหน้าที่เป็นสองกองกลางตัวรุกโดยมี เจดอน ซานโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำหน้าที่เป็นปีกขวา และปีกซ้ายซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นรูปแบบการเล่นที่เน้นเดินหน้าและฆ่ามันอย่างที่คอบอลสายซาดิสต์โปรดปรานเป็นยิ่งนัก