ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โคตรเดือด! นิวคาสเซิ่ลชวดชัย แมนซิตี้ ตายยากรัว2เม็ดไล่เจ๊าสุดมันส์ ส่งปืนนำฝูงเดี่ยว

โคตรเดือด! นิวคาสเซิ่ลชวดชัย แมนซิตี้ ตายยากรัว2เม็ดไล่เจ๊าสุดมันส์ ส่งปืนนำฝูงเดี่ยว

Posted 22/08/2022 by siamsport

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล เปิด เซนต์ เจมส์ พาร์ค รับการมาเยือนของ แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้

“สาลิกาดง” ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ทำทีมไร้พ่ายในสองนัดแรก คว้าชัยเหนือ ฟอเรสต์ 2-0 ก่อนเกมล่าสุดจะเสมอกับ ไบรท์ตัน 0-0 เกมนี้จัดทัพเต็มสูบ จัดสามแนวรุกทั้ง มิเกล อัลมิรอน, คัลลั่ม วิลสัน และ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง โดยมี บรูโน่ กิมาไรช์ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ โชลินตอน

ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” ทำผลงานพาทีมชนะสองเกมรวด ชนะ เวสต์แฮม 2-0 และล่าสุดไล่ถล่มน้องใหม่ บอร์นมัธ 4-0 เกมนี้ปรับทัพส่ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลงตัวจริงประสานเกมรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น และ เออร์ลิง ฮาลันด์ โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ปั้นเกมรุกเหมือนเดิม

เริ่มเกมได้ 3 นาทีแรก แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะยิงไกลนอกกรอบของ โรดรี้ เอร์นานเดซ แต่บอลพุ่งเหินคานออกไป

และนาทีที่ 5 “เรือใบสีฟ้า” ทะยานขึ้นนำทันที 1-0 จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตักบอลเข้ามาในกรอบให้ อิลคาย กุนโดกัน จับบอลลงก่อนวอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ
นาที 11 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ลุ้นประตูที่สองหลัง เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปในกรอบทางขวาก่อนซัดมุมแคบแต่ยังไปติดขา นิค โป๊ป

นาที 17 นิวคาสเซิ่ล ทิ้งโอกาสทองที่จะไล่ตีเสมอหลัง อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง หักบอลมาให้ มิเกล อัลมิรอน ยิงโล่งๆ แต่สตาร์ทีมชาติปารากวัยซัดด้วยซ้ายไม่จับเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 20 สเวน บ็อตมัน ไปฟาวล์ใส่ ฮาลันด์ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ จะซัดฟรีคิกข้ามกำแพงทางเสาไกล ก่อนจะโดน นิค โป๊ป พุ่งเซฟออกไป

นาที 28 แฟนๆ “ทูน อาร์มี่” เฮกันลั่นสนามหลัง นิวคาสเซิ่ล มาได้ประตูไล่ตีเสมอ แมนซิตี้ 1-1 จากความยอดเยี่ยมของ แซงต์-มักซิแม็ง ที่กระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนครอสมากลางประตู โจ วิลล็อค พุ่งไปถึงบอลเลยไปโดน มิเกล อัลมิรอน เปลี่ยนทางบอลเข้าไป ผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ ยืนยันแล้วให้ประตูเจ้าถิ่นหลังบอลไปชนขา อัลมิรอน ไม่เป็นแฮนด์บอลแต่อย่างใด

นาที 38 เซนต์ เจมส์ พาร์ค แทบแตก! หลัง “สาลิกาดง” เป็นฝ่ายพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากความสุดยอดของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง เลี้ยงบอลตะลุยฝ่าแนวรับซิตี้เข้ามาให้ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเข้าไปแตะบอลหลบก่อนจิ้มผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าไป

จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล แซงนำ แมนฯ ซิตี้ 2-1

กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง นาที 52 ลูกทีมของ เป๊ป ชวดได้ประตูตีเสมอหลัง ดิอาส เติมขึ้นสูงก่อนจ่ายให้ ฮาลันด์ เลี้ยงตัดหน้ากรอบกระโหลกก่อนซัดไปติดมือ นิค โป๊ป บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

อีกนาทีถัดมา “สาลิกาดง” มาได้ลุ้นฟรีคิก ก่อนที่ คีแรน ทริปเปียร์ จะวิ่งมาซัดฟรีคิกข้ามกำแพงเข้าไปอย่างสวยงาม หมดสิทธิ์ที่ เอแดร์ซอน จะป้องกันให้ นิวคาสเซิ่ล นำห่างแชมป์เก่า แมนฯซิตี้ 3-1 ในนาทีที่ 54

ทว่านาที 60 แมนฯซิตี้ มาพังประตูไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม กานเซโล่ ครอสมาเสาไกลถึง โรดรี้ ดีดบอลมาให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ หวดเต็มแรงเสยตาข่ายเข้าไป เป็นประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกของสตาร์ทีมชาตินอร์เวย์

อีกสองนาทีถัดมา ทัพเรือใบเกือบได้ลุ้นตีเสมอ หลัง เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุแนวรับสาลิกาให้ ฮาลันด์ สปีดฉีกกองหลังเข้าไปซัดติดมือ นิค โป๊ป

แต่แล้ว นาที 64 ลูกทีมของ เป๊ป ทำได้สำเร็จเมื่อไล่ตีเสมอ นิวคาสเซิ่ล 3-3 จากความสุดยอดของ เดอ บรอยน์ ที่จ่ายบอลสุดเหนือชั้นให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนยิงแบบเยือกเย็นผ่านตัว นิค โป๊ป เข้าไป

นาที 73 คีแรน ทริปเปียร์ เข้าเสียบใส่ เดอ บรอยน์ จากด้านหลังตัดเกม ผู้ตัดสินวิ่งมาชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทว่าหลังวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์เช็ก วีเออาร์ ข้างสนามแล้วมองว่าเป็นการสกัดไม่รุนแรงทำให้กลับคำตัดสินเปลี่ยนจากใบแดงเป็นแค่ใบเหลือง

นาที 78 ซิตี้ เกือบพลิกแซงหลัง ฮาลันด์ ได้ซัดด้วยซ้ายในกรอบ 6 หลาแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม นิวคาสเซิ่ล เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 3-3 แบ่งไปทีมละคะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โป๊ป – คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, สเวน บ็อตมัน, แดน เบิร์น (เอมิล คราฟธ์ น.90+5) – โจ วิลล็อค (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.70), บรูโน่ กิมาไรช์, โชลินตอน – มิเกล อัลมิรอน (เจค็อบ เมอร์ฟี่ย์ น.83), คัลลั่ม วิลสัน (คริส วู้ด น.69), อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้ (รูเบน ดิอาส น.21) , ชูเอา กานเซโล่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน – ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิง ฮาลันด์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »