เผลอแป๊ปเดียวศึกเจลีก 2022 ประเทศญี่ปุ่น ลีกลูกหนังอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ถึงตรงนี้หากไม่นับทีมที่ยังมีโปรแกรมตกค้าง จะเหลือเพียงแค่ 8 นัด สุดท้ายเท่านั้น ที่ให้ทั้ง 18 สโมสร ได้กอบโกยแต้ม

แต่ทีมที่หนักคงหนีไม่พ้น "โลมามหากาฬ" คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ต้นสังกัดของ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เสียท่าสะดุดบุกพ่าย โชนัน เบลมาเร่ 1-2 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเป็นการแพ้ในลีกรอบ 5 เกม แถมอันดับร่วงลงมารั้งที่ 3 ของตารางทันที

- "สุภโชค" หวังลงสนามเพิ่มขึ้นลั่นใส่เต็มที่ทุกนัดเพื่อซัปโปโร
- โอนิกิ รับต้องทบทวนตัวเองหลังพ่าย โชนัน
- เกิดขึ้นไม่บ่อย!อวิสป้าปล่อยให้นาโกย่าทำประตูฟรีๆ (มีคลิป)
อย่างไรก็ตามในทางทฤษฎี พวกเขายังอยู่ในเส้นทางของการไล่ล่าป้องกันแชมป์อยู่ เพราะมาถึงตอนนี้น่าจะเหลือเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้น ที่จะขับเคี่ยวแย่งแชมป์เจลีก 2022 ไม่ว่าจะเป็นจ่าฝูง ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า (50 แต้ม 28 นัด), โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (49 แต้ม 25 นัด) และคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ (49 แต้ม 26 นัด)

ทีมที่ได้เปรียบที่สุด คงต้องยกให้กับ "มารินอส" เพราะพวกเขามีโปรแกรมตกค้างในมือถึง 3 เกม หากว่าเก็บชัยเรียบจะทำให้มีคะแนนขึ้นมาเป็น 58 แต้ม ส่วน "ฟรอนตาเล่" หากชนะในเกมตกค้าง 2 นัด จะมีแค่ 55 แต้มเท่านั้น

นั่นหมายความว่าจากนี้ไปพลพรรค "โลมามหากาฬ" จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว หากเกิดฟอร์มสะดุดอีก และมารินอสไม่พลาดเลย โอกาสป้องกันแชมป์ของฟรอนตาเล่สำหรับฤดูกาล 2022 น่าจะจบลงทันที

โปรแกรม 8 เกมที่เหลือของฟรอนตาเล่ จะมีเกมในบ้าน 4 เกม และออกไปเยือน 8 เกมด้วยกัน ประกอบด้วย 10 ก.ย.65 พบ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า (เหย้า), 14 ก.ย. พบ นาโกย่า แกรมปัส (เยือน), 17 ก.ย.65 พบ คาชิว่า เรย์โซล (เยือน), 1 ต.ค.65 พบ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร (เยือน), 8 ต.ค.65 พบ ชิมิสึ เอส-พัลส์ (เหย้า), 12 ต.ค.65 พบ เกียวโต ซังงะ (เหย้า), 29 ต.ค.65 พบ วิสเซล โกเบ (เหย้า) และ 5 พ.ย.65 พบ เอฟซี โตเกียว (เยือน)

เท่านั้นไม่พอนอกเหนือจากลุ้นให้ฟรอนตาเล่อย่าสะดุดอีก แฟนบอลชาวไทยยังต้องลุ้นโอกาสลงสนามของ "เจ-ชนาธิป" เช่นเดียวกัน เพราะอย่างที่ทราบเพลย์เมคเกอร์กัปตันทีมชาติไทย วัย 28 ปี ไร้ชื่อเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันแล้ว

ตลอด 3 เกมที่ผ่านมาดูเหมือนว่า "โทรุ โอนิกิ" กุนซือใหญ่ฟรอนตาเล่ จะได้กลุ่มมิดฟิลด์ที่ลงตัว โดยเลือกใช้แผงกองกลาง 3 คนทั้ง เชา ชมิดท์, เคนโตะ ทาจิบานาดะ, ยาสุโตะ วากิซากะ เหมือนกันทั้งหมด แถมยังมีตัวสำรองอย่าง เรียวตะ โอชิมะ อีก ส่งผลให้ชื่อของ "เจ-ชนาธิป" หลุดโผไปโดยปริยาย

นี่คือสิ่งที่แฟนบอลไทยอย่างเรา ต้องให้กำลังใจ "เจ-ชนาธิป" เป็นอย่างมาก เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก ยิ่งหากสุดสัปดาห์นี้เกมที่ฟรอนตาเล่ จะเปิดบ้านรับมือ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ยังไม่มีชื่ออีก อาจจะยิ่งทำให้กัปตันทีมชาติไทย กดดันเข้าไปใหญ่เป็นแน่

อยากฝากท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ควรอย่างยิ่งที่ต้องส่งแรงใจ แรงเชียร์ ให้ฮึดสู้ และกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงให้ได้อีกครั้ง อย่าทำเหมือนแฟนบอลบางราย ที่เอะอะจะให้ "กลับบ้านเถอะ" อย่างเดียว กว่านักเตะไทยจะมีโอกาสอันล้ำค่า ออกไปพิสูจน์ฝีเท้าแดนอาทิตย์อุทัยไม่ใช่เรื่องง่าย แถมกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างฟรอนตาเล่อีกด้วย

เชื่อว่าตัวของ "เจ-ชนาธิป" ระดับนักเตะอาชีพที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาทั่วสารทิศ จะไม่มีคำว่าท้อ และพยายามฝึกปรืออย่างหนักเพื่อรีดฟอร์มเก่งในสนามซ้อม จนไปเข้าตา "โทรุ โอนิกิ' บันดาลให้เลือกใช้เขาอีกครั้งเป็นแน่ ขอเอาใจช่วย "เจ-ชนาธิป" ผู้ที่สร้างชื่อเสียงวงการฟุตบอลไทย จนเป็นที่ประจักษ์ในสายตาแฟนบอลญี่ปุ่นด้วย !