แกรี่ เนวิลล์ กูรูชื่อดังของทาง สกายสปอร์ต เชื่อว่าการตัดสินใจซื้อ คาเซมิโร่ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัยนั้นไม่ได้อยู่ในแผนการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ของพวกเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

แข้งวัย 30 ปีย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวสูงถึง 60 ล้านปอนด์ หลังจากที่ทีม ปีศาจแดง ต้องพลาดการได้ตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง มาจาก บาร์เซโลน่า เมื่อช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ที่ผ่านมา

คาเซมิโร่ เพิ่งได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างเป็นทางการในสีเสื้อปีศาจแดง ในเกม ยูฟ่า ยูโรปาลีก ในการพบกับ เรอัล โซเซียดัด เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้

อย่างไรก็ดี เนวิลล์ ก็มองว่าแข้งรายนี้ไม่ใช่ตัวเลือกในตลาดซื้อขายตั้งแต่แรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด และเชื่อว่านี่เป็นการใช้เงินเพื่อสยบปัญหาของตระกูลเกลเซอร์ซึ่งเป็นเจ้าของทีมเท่านั้น

"แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการใช้เงินประมาณ 130-140 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายพวกเขาก็จ่ายไปมากถึง 230 ล้านปอนด์ แน่นอนว่าเราเคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้วสำหรับตระกูลเกลเซอร์"

"เมื่อเกิดปัญหามากมาย และเริ่มมีคนมาประท้วง พวกเขาก็จะใช้เงิน และพยายามทำให้แฟนบอลพึงพอใจ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสิ่งนี้เรียกว่า การซื้อแบบตื่นตระหนก"

"การย้ายมาของ คาเซมิโร่ และการยื่นซื้อ อันโทนี นั้นเกิดขึ้น 2 วันก่อนที่จะลงเตะกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขากำลังต้องการนักเตะใหม่ มันไม่ใช่แผนตั้งแต่ต้นที่วางเอาไว้ในช่วงซัมเมอร์ นี่เป็นการการใช้จ่ายเงินที่พวกเขาจำเป็นต้องทำเท่านั้น" เนวิลล์ กล่าว