โฆเซ่ เอ็นรีเก้ ระบุ จนถึงตอนนี้มีนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่เข้าข่ายสอบผ่านแค่ 3 รายเท่านั้น แถมยังกางปีกป้อง เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" คนปัจจุบันด้วย

โฆเซ่ เอ็นรีเก้ อดีตแบ็กซ้ายชาวสแปนิชของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าจนถึงตอนนี้มีแค่ อลีสซง เบ็คเกอร์, หลุยส์ ดิอาซ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ถือว่าอยู่ในกลุ่มนักเตะ "หงส์แดง" ที่เล่นได้ดีในฤดูกาล 2022-23

ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้สุดยอดจนมีลุ้นแชมป์ถึง 4 รายการ แถมพวกเขายังได้แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ประจำปี 2022 จากการชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย แต่หลังจากนั้นฟอร์มโดยรวมของเขาไม่สวยหรูเท่าที่ควรจนทำให้เก็บชัยชนะได้แค่ 2 เกมจากการลงเล่น 7 นัดในทุกรายการเท่านั้น

- ต้องดีกว่านี้! ดิอาซ รับประตูที่ยิงได้ไร้ค่าถ้า ลิเวอร์พูล พ่าย
- ฟีร์มีโน่ คัมแบ็ก, เชซุส หลุด! ตีเต้ แบโผ 26 แข้งบราซิลอุ่นเกือก กานา, ตูนิเซีย
- ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญหน้ากับบททดสอบครั้งใหญ่
เอ็นรีเก้ เผยว่า "การที่ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ย่ำแย่มันไม่ได้มาจากฟูลแบ็กแค่อย่างเดียว ถ้าคุณลองพิจารณาผลงานของทั้งทีมน่ะมันก็มีเพียง อลีสซง เบ็คเกอร์, หลุยส์ ดิอาซ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เท่านั้นที่เล่นได้ดี ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานทั้งหมด"

"ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ถือเป็น 2 ฟูลแบ็กที่เก่งที่สุดของโลก และการที่คนอื่นๆ ที่เหลือในทีมต่างก็พร้อมใจกันฟอร์มตกน่ะมันก็กลายเป็นการส่งผลเสียต่อทั้งคู่ตามไปด้วย"

อดีตแข้งวัย 36 ปีกล่าวปกป้อง เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ด้วยว่าต้องเจองานหนักกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน เพราะขุมกำลังของทีมถือว่าแย่ลง พร้อมบอกว่าทุกคนไม่ควรตั้งความคาดหวังว่า คล็อปป์ จะทำให้ทีมมีลุ้นแชมป์ครบทั้ง 4 รายการได้เหมือนซีซั่นที่แล้ว "เจอร์เก้น คล็อปป์ พิสูจน์ตัวเองมาได้ปีแล้วปีเล่า และมันไม่มีทางเลยที่เขาควรจะต้องเจอกับแรงกดดัน (ของการโดนปลด)"

"คุณไม่สามารถโต้แย้งถึงสิ่งที่เขาทำให้กับ ลิเวอร์พูล และสิ่งที่เขากำลังจะทำให้สโมสรต่อไปหลังจากนี้ได้ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีขุมกำลังที่แย่กว่าฤดูกาลก่อน ดังนั้นมันเลยไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ที่หลายคนคาดหวังว่า คล็อปป์ จะทำให้ทีมมีลุ้นแชมป์เยอะเหมือนกับฤดูกาลก่อนได้ ปัญหาที่ชัดเจนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มของ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ก็คือเรื่องที่นักเตะหลายคนขาดความกระตือรือร้นนั่นแหละ"