เจมี่ เร้ดแนปป์ อดีตแข้งดังหนุนหลังการตัดสินใจของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่กล้าดรอป ซน ฮึง-มิน ในเกมเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้

อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลี่ยน ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปรยไว้หลังจบเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ "ไก่เดือยทอง" บุกพ่ายต่อ สปอร์ติง ลิสบอน 0-2 ว่าไม่มีใครในทีมไม่ที่สามารถโดนดรอปไม่ได้ โดยชื่อของ ซน ฮึง-มิน เข้าข่ายที่จะถูกตัดชื่อจากผู้เล่นตัวจริง เนื่องจากดาวเตะเกาหลีใต้ ยังทำประตูไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้

ซึ่งเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา คอนเต้ โชว์ความเด็ดขาดด้วยการพักแข้งเลือดโสมไว้บนม้านั่งสำรอง แล้วส่งแนวรุกอย่าง ริชาร์ลิซอน, แฮร์รี่ เคน และ เดยาน คูลูเซฟสกี้ ลงเล่น

อย่างไรก็ตาม ระหว่างสกอร์ที่ "คลับไก่" นำอยู่ 3-2 คอนเต้ เปลี่ยนตัว ซน ลงสนามแทน ริชาร์ลิซอน ในนาที 59 แล้วจากนั้น 14 นาทีเจ้าของรางวัลดาวซัลโวร่วม พรีเมียร์ลีก ปีก่อนเบิกสกอร์แรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ ก่อนที่จะเบิ้ลอีก 2 ประตูในช่วงท้ายเกมจนเกิดเป็นแแฮตทริกพร้อมกับคว้าลูกฟุตบอลกลับบ้านไปครอบครอง

การตัดสินใจของ คอนเต้ สร้างความประทับใจให้แก่ เจมี่ เร้ดแนปป์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกูรูฟุตบอลช่อง สกาย สปอร์ตส์ เป็นอย่างมาก จนถึงกับเอ่ยปากชมกลางรายการหลังจบเกม

"แน่นอนว่าเขา(ซน ฮึง-มิน) ต้องรู้สึกโกรธ คุณเห็นเห็นแบบนั้นกับการที่เขาอยู่บนม้านั่งสำรอง" อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เผย

"เขาเป็นผู้เล่นที่พิเศษมาก ๆ และนั่นคือแนวทางตอบสนองเมื่อคุณถูกตัดชื่อออก แต่ สเปอร์ส ก็ยังมีตัวเลือกดี ๆ มากมาย ซึ่งคุณต้องเชื่อในสิ่งนั้น"

"ในช่วง 3, 4, 5 ปีมานี้ มักมีแค่ ซน และ (แฮร์รี่) เคน มาตลอด แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว"

"ตอนนี้มีตัวเลือกอื่น ๆ คุณมี ริชาร์ลิซอน, เคน, ซน, (เดยาน) คูลูเซฟสกี้ รวมถึงตัวเลือกเจ๋ง ๆ คนอื่นบนม้านั่งสำรอง และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องเชื่อ"

"นั่นเป็นตัวอย่างที่เพอร์เฟคในสิ่งที่ต้องทำในฐานะผู้เล่น แต่ก็รวมถึงตัวผู้จัดการทีมเองด้วย คุณต้องบอกว่า คอนเต้ ทำได้อย่างเหมาะสม เขาไม่กลัวว่าจะต้องดรอปใคร ทั้งที่เขา(ซน) คว้ารองเท้าทองคำมาเมื่อปีที่แล้ว"

"คุณพูดกันก่อนเกมเกี่ยวกับ เลสเตอร์ ซึ่งความมั่นใจของพวกเขาแทบจะแตกสลาย และมันก็เป็นเหมือนกับผู้เล่นในบางครั้ง ซน พูดก่อนเกมว่าเขาต้องกลับไปทำเรื่องพื้นฐาน และจบสกอร์ให้ถูกต้อง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นในวันนี้ มันเป็นแฮตทริกที่ยอดเยี่ยม และผลงานที่สุดทึ่ง"