ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ลิเวอร์พูล น่าผิดหวัง, แมนยู ไม่ธรรมดา!ตัดเกรด "บิ๊กซิกซ์" พรีเมียร์ลีก หลังพ้นโค้งแรก

ลิเวอร์พูล น่าผิดหวัง, แมนยู ไม่ธรรมดา!ตัดเกรด "บิ๊กซิกซ์" พรีเมียร์ลีก หลังพ้นโค้งแรก

Posted 20/09/2022 by siamsport

ตอนนี้ลีกต่างๆ ถึงช่วงเบรก จำเป็นต้องหลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติ ซึ่งก็รวมถึงศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จนถึงตอนนี้ แต่ละทีมฟาดแข้งกันไปแล้วราว 6-7 นัด ว่าแล้วในช่วงเงียบเหงาแบบนี้ จึงถือโอกาสตัดเกรดบรรดาทีมในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์" อันประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้,

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เสียหน่อย... มาดูกันสิว่า ทีมไหนทำผลงานได้แจ่มแจ๋ว, ดีเกินคาด, น่าพอใจ หรือ น่าผิดหวัง หลังจากที่การแข่งขันผ่านพ้นมาได้เกือบๆ 20% ของฤดูกาล 2022/23
- อาร์เซน่อล (อันดับ 1)

เชื่อเหลือเกินว่า ก่อนเปิดฤดูกาลคงไม่มีใครกล้าคิดว่า อาร์เซน่อล จะรั้งตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก หลังจากที่การแข่งขันผ่านพ้นไปได้ 7 นัด ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า รวมถึงการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ กาเบรียล เชซุส ที่เข้ามาช่วยยกระดับแนวรุกได้ทันที แถมแนวรับได้ วิลเลี่ยม ซาลิบา ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ หลังจากที่ปล่อยให้หลายสโมสรยืมตัวไปใช้งาน  

- รุกโหด-รับแน่น ! ตัดเกรดแข้ง อาร์เซน่อล เกมบุกทุบ เบรนท์ฟอร์ด
- ลุ้นแชมป์กับแมนซิตี้?!สิ่งที่อยากบอกหลังเห็นอาร์เซน่อลฟอร์มไฉไล
- ตัวอย่างรุ่นพี่ของ เอ็นวาเนรี! 5 แข้งประเดิมสนามเกม พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่อายุยังน้อย
ถึงแม้ปราชัยไปแล้ว 1 นัด จาก 7 เกมที่ลงเล่น แต่นั่นก็เป็นเกมยากที่ออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แพ้ 1-3) ส่วนอีก 6 เกม คว้าชัยรวด!!! ซึ่งมันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า "ไอ้ปืนใหญ่" ตอนนี้เก๋าขึ้นชัดเจน ต่อให้นักเตะส่วนใหญ่ในทีมยังเป็นแข้งพลังหนุ่ม อายุน้อยๆ ก็ตาม เพราะยามเจอกับทีมที่อ่อนกว่า พวกเขาไม่พลาดง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นจนถึงตอนนี้ ผลงานของ อาร์เซน่อล ถือว่าดีเกินคาดทีเดียว แต่ระยะยาว ค่อยว่ากัน  

เกรด : A

 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 2)

แชมป์เก่าของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงเป็นทีมที่น่ากลัว และมีมาตรฐานการเล่นที่สูงเสมอ แถมฤดูกาลนี้ได้เครื่องจักรสังหารตัวโหดอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ มาตอบโจทย์ตัวจบสกอร์ที่ทีมขาดหายไปในฤดูกาลก่อน และผลงานของ ฮาลันด์ ก็สุดยอดมากๆ โดยลงเล่นเกมลีก 7 นัด กระทุ้ง 11 ประตู รั้งเบอร์หนึ่งดาวซัลโวเวลานี้แบบสบายๆ

7 เกมที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ยังคงไร้พ่าย แต่มีสะดุดเสมอ 2 เกม ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก เพราะเป็นเกมเยือนทั้งสอง (เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-3 และ เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1) เกมรุกไม่น่าเป็นห่วง เพราะแค่ชื่อของ เออร์ลิง ฮาลันด์ กับ เควิน เดอ บรอยน์ คู่แข่งก็พากันหนาวแล้ว และตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" เป็นทีมที่ทำประตูได้มากสุดในลีก (23 ลูก) ด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ส่วนเกมรับ อาจมีบางนัดที่เสียประตูง่ายไปหน่อย แต่ก็เพิ่งโดนเจาะแค่ 6 ประตู ก็ถือว่าโอเค ภาพรวม แมนฯ ซิตี้ ถือว่าทำผลงานได้ดีตามคาด แถมในระยะยาว พวกเขาจะน่ากลัวกว่านี้ด้วย

เกรด : B+

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อันดับ 3)

ทีมของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ เป็นหนึ่งในสองทีมตอนนี้ ร่วมกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ยังแพ้ไม่เป็น แถมมีผลงานที่ดีคงเส้นคงวามากขึ้น เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องดูในระยะยาว แต่จาก 7 เกมที่ผ่านมา ถือว่า สเปอร์ส ทำได้ดีเลยล่ะ แถมตัวใหม่อย่าง อีวาน เปริซิช ก็ช่วยทีมได้ไม่น้อย ส่วน แฮร์รี่ เคน ดาวยิงคนสำคัญ ก็ทำประตูได้ต่อเนื่อง

ผลงานชนะ 5 เสมอ 2 ซึ่งเป็นการเสมอเกมนอกบ้านทั้งสองนัด ที่ออกไปเยือน เชลซี (2-2) และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (1-1) ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ "ไก่เดือยทอง" ออกสตาร์ตได้น่าประทับใจ ทั้งๆ ที่เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อนอย่าง ซน ฮึง-มิน เพิ่งมาทำประตูแรกของซีซั่นได้ในเกมล่าสุด ที่เปิดบ้านยำ เลสเตอร์ ซิตี้ 6-2 เมื่อคืนวันเสาร์ แถมเกมดังกล่าว "อาซน" กดแฮตทริกจากการลงสำรองเสียด้วย 

เกรด : A

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 5)

เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" พร้อมกับความกดดัน, การถูกคาดหวัง แถมยังต้องเจออาการงอแง อยากย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้... เท่านั้นยังไม่พอ ขุมกำลังภายในทีมยังมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ถือเป็นงานที่ท้าทายสุดๆ สำหรับ เทน ฮาก

 การเปิดฉากสองนัดแรกด้วยการแพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-2 ต่อด้วยบุกไปพ่าย เบรนท์ฟอร์ด แบบหมดสภาพ 0-4 ทำเอาแฟนๆ "ปีศาจแดง" ถึงกับขวัญเสีย และแอบเป็นกังวลว่า ไปๆ มาๆ ทีมอาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ ทว่า 4 เกมหลัง พวกเขาคว้าชัยรวด!!! ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับ เทน ฮาก ที่สามารถปรับจูนทีม และแก้ไขปัญหาได้เร็ว รวมถึงการมาของ ลิซานโดร มาร์ตีเนซ ที่ช่วยให้เกมรับดูแน่นอนมากขึ้น จึงขออนุญาตให้เกรดเดียวกับทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งบางคนอาจมองว่า "เกินปุยมุ้ย" แต่อย่าลืมนะครับว่า สองจากสี่เกมที่พวกเขาคว้าชัย คือการเอาชนะ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล... มาถึงตอนนี้ ผ่านพ้นไป 6 เกม รั้งอันดับห้า ตามหลังจ่าฝูงอย่าง "ไอ้ปืนใหญ่" 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ถือว่ามาดีเกินคาดอยู่นะ

เกรด : B+

- เชลซี (อันดับ 7)

"สิงห์บลูส์" มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่ตัวเจ้าของสโมสรยันขุมกำลังนักเตะ จึงพอเข้าใจได้ว่า ผลงานของทีมช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ อาจมีกระท่อนกระแท่นบ้างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหลังจากลงแข่งมา 6 เกม แพ้ไปแล้วสอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการบุกไปพ่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 0-3

ถึงแม้เกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (3 ก.ย.) แต่การบุกไปพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกไม่กี่วันให้หลัง ทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล ถูก ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของสโมสร เด้งพ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมทันที โดยที่ได้ แกรม พ็อตเตอร์ มารับงานแทน หลังจากที่ พ็อตเตอร์ พา ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาล สรุปแล้วผลงานโดยรวมของ เชลซี ช่วง 6 เกมแรก ถือว่าน่าผิดหวัง แม้มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้พอเข้าใจได้ แต่มันก็น่าจะดีกว่านี้   

เกรด : C

- ลิเวอร์พูล (อันดับ 8)

ก่อนเปิดซีซั่น "หงส์แดง" รองแชมป์เก่า ยังคงถูกมองเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ เพราะถึงแม้เสียตัวเก่งอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ไป แต่ขุมกำลังแกนหลักส่วนใหญ่ยังอยู่กันครบ ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่างก็เซ็นสัญญาฉบับใหม่ แถมได้ดาวยิงสุดฮอตอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ มาร่วมทีม ทำให้หลายๆ ฝ่ายมองว่า ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล อาจจะน่ากลัวกว่าเดิมด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม หลังลงแข่ง 6 เกม ผลงานของทีมถือว่าผิดคาดไปมาก เพราะถึงแม้ปราชัยแค่นัดเดียว (บุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2) แต่ชนะแค่ 2 เสมอปาเข้าไป 3 แถมเป็นการทำคะแนนหลุดมือในการเจอกับทีมอย่าง ฟูแล่ม, คริสตัล พาเลซ และ เอฟเวอร์ตัน... เอาง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดอะไรมาก จะเห็นว่า มีแค่เกมเปิดบ้านยำโหด บอร์นมัธ 9-0 เท่านั้น ที่ ลิเวอร์พูล เล่นได้ดี เล่นได้เป็น ลิเวอร์พูล ที่เราคุ้นเคย นอกนั้นเล่นต่ำกว่ามาตรฐานทั้งหมด ซึ่งก็รวมถึงเกมเปิดบ้านพลิกเชือด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ด้วย

พอเข้าใจได้ว่า ปัญหานักเตะตัวหลักพากันล้มเจ็บ โดยเฉพาะแดนกลาง ทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นไม่ดีเหมือนเดิม แถม นูนเญซ ยังหวังพึ่งอะไรไม่ได้ แต่ด้วยผลงานชนะแค่ 2 จาก 6 เกม ถือว่าน่าผิดหวัง และยิ่งน่าผิดหวังกว่าเดิม เมื่อดูรายชื่อทีมคู่แข่งที่เจอมา เพราะทีมอย่าง ลิเวอร์พูล ควรทำได้ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ควรอยู่ในระดับที่มีคะแนนเบียดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์... ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าฟอร์มการเล่นคือ ความมุ่งมั่นของนักเตะหลายๆ คน ที่ดูเหมือนไม่ได้อยู่ในระดับเดิม ซึ่งแฟนๆ "หงส์แดง" ก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อพ้นโปรแกรมทีมชาติรอบนี้       

เกรด : C-

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »