"เราไม่สามารถให้ใครแทนเขาได้" นี่คือประโยคที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช เอ่ยถึง เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ หลังจากที่นักเตะชาวอาร์เจนไตน์ ตัดสินใจโบกมือลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2021

ช่วงเวลานั้น "เรือใบสีฟ้า" พยายามที่จะเซ็นสัญญานักเตะระดับไอคอนของโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทัพเพื่อหวังที่จะเติมเต็มช่องว่างในแนวรุกที่หายไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็พลาดได้ตัว

อย่างไรก็ตามด้วยบุญพาวาสนาส่ง หรือเป็นเพราะบุพเพสันนิวาสนำพาพวกเขาได้มีโอกาสผูกมิตรสัมพันธ์กับ เออร์ลิง ฮาลันด์ และคว้าตัวเขามาเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ได้สำเร็จในช่วงซัมเมอร์นี้ แถมค่าตัวก็ถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับศักยภาพของนักเตะ

หัวหอกชาวนอร์เวย์ไม่ใช่แค่เข้ามาไล่ล่าตาข่ายให้กับแมนฯ ซิตี้ เท่านั้น แต่มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านักเตะรายนี้เป็นจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปของทีม ซึ่งเมื่อได้มาแล้วยิ่งทำให้ "เรือใบสีฟ้า" กลายเป็น "เรือเหาะมหัศจรรย์" ในบัดดล

แน่นอนว่าทีมของเป๊ปยังคงแข็งแกร่งและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาก่อนที่ ฮาลันด์ จะย้ายมาสมทบ แต่การขาดหน้าเป้าธรรมชาตินับตั้งแต่ที่ "กุน" อำลาทีมไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เห็นได้ชัดว่าทำให้ แมนฯ ซิตี้ อ่อนยวบไปบ้าง และต้องลุ้นกับ ลิเวอร์พูล จนถึงเกมสุดท้ายกว่าจะได้แชมป์

ผลงานของ ฮาลันด์ ในตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าเขาคือคนที่ เป๊ป รอมานาน หลังจากที่เจ้าตัวตะบันไปแล้ว 19 ประตูจาก 12 เกมในทุกรายการ และแน่นอนว่าตัวเลขคงจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะยังมีเกมให้ลงเล่นอีกเพียบในซีซั่น 2022/2023

การพลาดได้ตัว เมสซี่ และ โรนัลโด้ ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นโชคดีของ แมนฯ ซิตี้ เพราะทำให้พวกเขาได้ ฮาลันด์ มาร่วมทัพ แต่เส้นทางของพวกเขามาบรรจบกันที่ เอติฮัด ได้ยังไง ไปดูกัน

พลาดได้ตัว เมสซี่

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในช่วงแรกๆ ว่า เป๊ป มีข่าวพัวพันกับ เมสซี่ มาตลอด และไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรเลยที่ สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ อยากจะย้ายมาร่วมงานกับกุนซือคู่ใจที่เมืองแมนเชสเตอร์

ตอนนั้น เมสซี่ ยังอยู่กับ บาร์เซโลน่า โดยทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ไม่สามารถต่อสัญญาแบบใหม่กับนักเตะได้หลังจบฤดูกาล 2020/2021 โดยเหตุผลมาจากปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน สุดท้ายเจ้าตัวก็ได้กลายเป็นแข้งฟรีเอเจ้นต์

มันไม่ใช่เรื่องที่ช็อกอะไรเลยกับข่าวลือที่ว่า เป๊ป และ เมสซี่ จะย้ายมาร่วมงานกันอีกครั้ง หลัง อเกวโร่ ตัดสินใจโบกมือลาต้นสังกัด งานนี้เชื่อว่าแฟนบอบ "เรือใบสีฟ้า" คงตื่นเต้นที่จะได้เห็นทั้งคู่ทำงานด้วยกันอีกครั้งที่เอติฮัด สเตเดี้ยม

เป๊ป และ เมสซี่ ประสบความสำเร็จด้วยกันมากมายทั้งคว้าแชมป์ ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ซูเปอร์โกปา เอด เอสปันญ่า, ซูเปอร์คัพ และ คลับ เวิลด์ คัพ ดังนั้นการกลับมาร่วมงานกันคงเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์สุดๆ

อย่างไรก็ตามบทสรุปสุดท้าย เมสซี่ เลือกที่จะย้ายไปเล่นกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กระนั้นมีรายงานว่า แมนฯ ซิตี้ พยายามที่จะเซ็นเขาในปี 2021 แต่ทีมดันไปทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว แจ็ค กรีลิช มาจากแอสตัน วิลล่า ก่อนที่ บาร์ซ่า จะประกาศแยกทางกับ ดาวเตะเลือดอาร์เจนไตน์ ทำให้ส่งผลกระทบกับแผนทันที

 โรนัลโด้ หลุดมือ

อีกหนึ่งไอคอนวงการลูกหนังที่ แมนฯ ซิตี้ พยายามเซ็นสัญญาก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งแน่นอนว่าหากนักเตะเลือกที่จะกลับเมืองแมนเชสเตอร์ แต่ดันไปสวมชุดสีฟ้าคงทำให้แฟนบอล "ปีศาจแดง" แทบกระอักเลือดแหงๆ

ตอนนั้นการย้ายไปเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ คงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดสำหรับสตาร์ลูกหนังชาวโปรตุกีส หลังจากที่เขาได้สร้างชื่อจนกลายเป็นตำนานให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง

อย่างไรก็ตามเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว "เรือใบสีฟ้า" พยายามที่จะมองหน้านักเตะเพื่อเข้ามาแทนที่ อเกวโร่ โดยล็อกเป้าเอาไว้ที่ "ซีอาร์ เซเว่น" ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวลือเพราะมีรายงานตรงกันจากสื่อหลายสำนักเลยทีเดียว

ตอนนั้นสถานการณ์ดูเหมือนว่า โรนัลโด้ พร้อมที่จะสลับขั้วเปลี่ยนฝั่งจากสีแดงเป็นสีฟ้า แถมเตรียมร่วมงานกับอดีตกุนซือบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นสโมสรแย่งความยิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด ในศึกลา ลีกา ซะด้วย แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ "โด้" และ "เป๊ป"

ช่วงเวลานั้นความเป็นไปได้ที่ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส จะย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เริ่มชดเจนยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องระดมบุคคลสำคัญอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และตำนานแข้ง "เร้ด เดวิลส์" ช่วยกันเกลี้ยกล่อมจน "โด้" ใจอ่อนยอมกลับมาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คำรบสอง

มันชัดเจนมากๆ ว่า อดีตนายใหญ่ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า และ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค อยากได้ตัว ดาวเตะวัย 37 ปีอย่างมาก แม้สุดท้ายเขาต้องผิดหวังไม่ได้ร่วมงานกับนักเตะชั้นยอดรายนี้ก็ตาม

บุพเพสันนิวาสบรรจงกับฮาลันด์

เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ครองความเป็นสุดยอดนักเตะของโลกนี้มานานหลายสิบปี แต่ตอนนี้ด้วยวัยของพวกเขาทำให้หลายๆ อย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ขณะเดียวกันพวกนักเตะรุ่นใหม่ฝีเท้าจัดจ้านก็แจ้งเกิดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ที่โดดเด่นเหนือชาวบ้านก็คือ เออร์ลิง ฮาลันด์

ฮาลันด์ เป็นที่หมายปองของยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปหลังจากที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ดอร์ทมุนด์ แต่สุดท้ายกลายเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถโน้มน้าวให้นักเตะเก็บเสื้อผ้ามาอยู่กับทีมได้สำเร็จ

มันแทบจะดูเหมือนเป็นพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสจริงๆ เพราะ หัวหอกวัย 22 ปี มีคุณพ่อซึ่งก็คือ อัลฟ์ อิงเก้-ฮาลันด์ เคยเป็นนักเตะของสโมสรแห่งนี้ และตัวเขาก็เคยถ่ายภาพที่สวมเสื้อของ "เรือใบสีฟ้า" เยอะแยะมากมาย

นักเตะสลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญา 5 ปีเมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีค่าตัวในการย้ายทีมแค่ 51 ล้านปอนด์ (ราว 2,244 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งตรงบอกเลยว่า ฮาลันด์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวมันช่างคุ้มค่ากับที่สโมสรจ่ายไปจริงๆ

เช่นเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ยอมรอคอย ฮาลันด์ 1 ซีซั่นจนสุดท้ายก็ได้มาสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยกัน !!!