เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ สวมบทฮีโร่ซัดจุดโทษเป็นประตูชัยในช่วงทดเวลา 90+5 พา แมนฯ ซิตี้ ที่เหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกบดชนะ ฟูแล่ม 2-1 ขยับแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูง ก่อนที่ "ปืนใหญ่" ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ วันพรุ่งนี้

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงพบ ฟูแล่ม ทีมอันดับ 7 ของตาราง

แมนฯ ซิตี้ บุกเฉือนชนะ เลสเตอร์ มา 1-0 ในลีก ก่อนจะเปิดบ้านต้อน เซบีย่า ในยูซีแอลไป 3-1 ทำให้พวกเขาไม่แพ้ใครมา 4 นัดติดรวมทุกรายการ

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ สลัดอาการเจ็บกลับมาอยู่ในม้านั่งสำรองไปก่อน พร้อมให้โอกาสกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงล่าตาข่าย ประสานงานแนวรุกร่วมกับ แจ็ค กรีลิช และ เควิน เดอ บรอยน์

ครึ่งแรกเปิดฉากมา แมนซิตี้ กระหน่ำบุกใส่ทันที และเกือบขึ้นนำเร็วหลังผ่าน 3 นาที จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ตักบอลให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โฉบมาโหม่งเปลี่ยนทางบอลไม่ตรงกรอบ

หลังจากนั้นนาทีที่ 9 อิลคาย กุนโดกัน ไหลบอลต่อให้ เดอ บรอยน์ ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมา

จนกระทั่งนาทีที่ 16 ความพยาายมของเจ้าถิ่นก็มาสัมฤทธิ์ผลนำ 1-0 จากจังหวะที่ กุนโดกัน แทงทะลุช่องให้ อัลวาเรซ หลุดเดี่ยวไปยิงแสรกหน้า แบรนด์ เลโน่ บอลเสยเพดานตาข่ายเข้าไป

อย่างไรก็ตาม นาที 26 แมนซิตี้ มาเจอจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อ ชูเอา กานเซโล่ ไปสกัดใส่ แฮร์รี่ วิลสัน ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเป็นตัวสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ ฟูแล่ม ทันทีพร้อมแจกใบแดงโดยตรงให้กับแบ็กชาวโปรตุกีส ก่อนจะเป็น อันเดรียส เปเรยร่า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ ฟูแล่ม ตามตีเสมอเป็น 1-1

แม้เจ้าถิ่นจะผู้เล่นน้อยกว่า แต่ยังบุกใส่ต่อเนื่อง และเกือบขึ้นนำอีกครั้งในนาที 42 แจ็ค กรีลิช ลากบอลจากซ้ายตัดเข้ากลางแล้วปั่นด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาไกลไปนิดเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ เสมอ ฟูแล่ม 1-1

ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62 ฟูแล่ม เกือบพลิกขึ้นนำเมื่อ แฮร์รี่ วิลสัน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนดีดไซร์ก้อยด้วยซ้ายบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

จากนั้น นาที 63 เป๊ป ส่งสองอาวุธหนักลงมาเปลี่ยนเกมทั้ง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และ ฟิล โฟเด้น ลงมาเล่นแทน ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ แจ็ค กรีลิช

นาที 64 แมนซิตี้ ได้ฟรีคิกก่อนจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์ หลอกยิงไปที่เสาแรกบอลหลุดกรอบออกไปแบบหวุดหวิด

นาที 74 แมนซิตี้ พลาดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ อิลคาย กุนโดกัน ตักบอลเข้าเขตโทษให้ ฮาลันด์ สอดมาโหม่งระยะเผาขนไม่เหลือ แต่ทว่าผู้ตัดสินเช็ก VAR ยึดประตูคืนเนื่องจากดาวยิงชาวนอร์เวย์เหลื่อมล้ำหน้าไปก่อนแล้ว 

อย่างไรก็ตามมามีดราม่าเกิดขึ้นนาที 90+4 เมื่อ แอนโทนี่ โรบินสัน ไปสกัดใส่ เดอ บรอยน์ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ แมนซิตี้ ทันที ก่อนจะเป็น ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ ฟูแล่ม 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้มขยับแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, มานูเอล อคานจี, ชูเอา กานเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - อิลคาย กุนโดกัน, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ น.63), แจ็ค กรีลิช (ฟิล โฟเด้น น.63)

ฟูแล่ม (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เคนนี่ เตเต้, อิสซ่า ดิย็อป, ทิม รีม, แอนโทนี่ โรบินสัน - แฮร์ริสัน รีด, ชูเอา ปาลินญ่า - แฮร์รี่ วิลสัน, อันเดรียส เปเรยร่า, วิลเลี่ยน - คาร์ลอส วินิซิอุส