หลังจากที่มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) กลุ่มทุนสหรัฐฯ พร้อมที่จะขายสโมสรลิเวอร์พูล แน่นอนว่าสิ่งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากให้กับทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเตะตัวหลักบางคนที่อาจโดนหางเลขต้องอำลาถิ่นแอนฟิลด์เลยทีเดียว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสื่อหลายสำนักรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า "เอฟเอสจี" พร้อมพิจารณาทุกข้อเสนอที่ยื่นเข้ามาเพื่อซื้อ "หงส์แดง" หลังจากที่พวกเขาเข้ามาเทคโอเวอร์เมื่อ 12 ปีก่อนจากสองปลิงมะกัน ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์

การที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ซึ่งนำโดย จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ พร้อมปล่อยวาง ลิเวอร์พูล ทำให้เกิดกระแสว่ามีอภิมหาเศรษฐีมากมายจับจ้องสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และยินดีทุ่มไม่อั้นเพื่อให้ได้เข้ามาบริหารยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์

แน่นอนว่าการเข้ามาของเจ้าของทีมคนใหม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเงินทุนในการเสริมทัพ ฉะนั้นนี่อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้เล่นบางคนต้องเก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นแอนฟิลด์ เพราะไม่อยากโดนแช่แข็งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง

นาบี เกอิต้า

เกอิต้า ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อปี 2018 โดยนักเตะได้รับการคาดหวังสูงมากๆ แถมยังได้สวมเสื้อหมายเลข 8 ซึ่งเป็นของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม แต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับไม่สามารถระเบิดฟอร์มได้เลย

ช่วงเวลาที่ เกอิต้า อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ ต้องบอกว่าโชคร้ายสุดเพราะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาได้ลงเล่นกับต้นสังกัดในเกมพรีเมียร์ลีกไปกว่า 25 เกมในซีซั่นแรก ยังไม่หมดแค่นั้นเขาต้องบาดเจ็บซ้ำอีกครั้งช่วงปรีซีซั่น ทำให้หมดสิทธิ์ช่วยทีมยาว

จากสถานการณ์เหล่านี้ส่งผลให้เขาแทบไม่อยู่ในแผนการสร้างทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกต่อไป ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรน่าแปลกถ้า ลิเวอร์พูล จะมองหาการเสริมทัพในแดนกลางใหม่ และการขาย เกอิต้า ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับทีม

เคอร์ติส โจนส์

นักเตะรายนี้เคยได้รับการคาดหวังว่าจะเป็น "นิว เจอร์ราร์ด" โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกยิงสุดงามที่ตะบันใส่ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนมกราคม 2020 ยิ่งทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" วาดฝันว่าเขาจะเป็นอนาคตใหม่ของทีม

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน โจนส์ ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่ามีตรงไหนที่จะก้าวขึ้นมาเหมือนกับ "สตีวี่จี" แถมโอกาสในการลงเล่นทีมชุดใหญ่ก็ไม่ค่อยสม่ำเสมอ โดยเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ได้ลงสนามแค่ 27 เกมในทุกรายการ และยิงเพียงประตูเดียวเท่านั้น

คล็อปป์ เป็นกุนซือที่พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งเสมอ แต่ โจนส์ ไม่สามารถคว้าโอกาสเหล่านั้นได้เลย  กระนั้นก็ยังพอเข้าใจได้บ้างว่านักเตะเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บหลายครั้ง ทำให้การพัฒนาฝีเท้าถูกจำกัดไปโดยปริยาย

ฉะนั้นหากทีมต้องมองหาผู้เล่นกองกลางคนใหม่ โจนส์ คงต้องมองหาสโมสรใหม่เพื่อที่จะทำให้เขาได้มีโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เพราะขืนอยู่กับทีมต่อไปมีแต่สนับก้นเท่านั้นที่จะอยู่ติดตัวเขาในทุกๆ เกม

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ดูเหมือนว่าแผงกองกลางมีโอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดเมื่อเจ้าของใหม่เข้ามา โดยหนึ่งในนั้นที่มีสิทธิ์จากสโมสรไปก็คือ เฮนเดอร์สัน หลังจากที่นักเตะดูเหมือนจะประสบปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นและสภาพความฟิตในฤดูกาลนี้

มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานโดดเด่นมีคุณภาพให้กับ "เดอะ เร้ดส์" มานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาคือกัปตันทีมแห่งประวัติศาสตร์ที่ได้ชูโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรกในรอบ 30 ปีให้กับสโมสรซะด้วย

กระนั้น "เฮนโด้" ไม่ได้หนุ่มแน่นดุดันเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไปแล้ว ด้วยวัย 32 กะรัตตำแหน่งหลักของเขาก็คือซุ้มม้านั่งสำรอง และบางเกมอาจไม่ถูกส่งลงสนามด้วยซ้ำ

ถ้า กุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินใจที่จะปรับปรุงแดนกลางแน่นอนว่า เฮนเดอร์สัน คงต้องอำลาทีม เพราะรายชื่อแข้งที่ คล็อปป์ อยากได้มีทั้ง ยูริ ตีเลอมันส์, บรูโน่ กิมาเรส และ จู๊ด เบลลิงแฮม นั่นคงเป็นการบ่งบอกชัดเจนว่ากัปตันคงไม่ใช่อนาคตของทีมอีกต่อไป

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์จริงๆ ที่เห็น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ สตาร์ทตัวจริงในช่วงต้นฤดูกาลนี้ พร้อมทั้งตะบันไป 6 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่กระนั้นเวลาของเขากับ "หงส์แดง" น่าจะใกล้หมดลงแล้ว

"บ็อบบี้" ย้ายมาจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อปี 2015 พร้อมตะบันไป 106 ประตูจาก 346 เกม แต่ปัจจุบันเขาอายุ 31 ปีแล้ว และ คล็อปป์ ต้องการที่จะสร้างทีมใหม่ด้วยบรรดาผู้เล่นที่อายุไม่เยอะ ซึ่งจะเห็นได้จากการเสริมทัพนักเตะอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ คาลวิน แรมซี่ย์

แม้ ฟีร์มีโน่ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม แต่สตาร์ชาวบราซิเลียนอาจจะต้องหลีกทางให้กับพวกดาวรุ่งทั้งหลาย และหน้าที่ของเขาก็เพียงแค่คอยประคับประคองรุ่นน้องเหล่านั้น

หากเจ้าของใหม่ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์พร้อมทุ่มงบประมาณให้ กุนซือเลือดด๊อยท์ช ได้จับจ่ายใช้สอย แน่นอนว่าเขาคงไม่ปฏิเสธที่จะทุ่มเงินเพื่อดึงกองหน้าฟอร์มแรงมาช่วยไล่ล่าตาข่าย ซึ่งนั่นหมายความว่าเวลาของ ฟีร์มีโน่ ในถิ่นแอนฟิลด์คงสิ้นสุดเพียงแค่ฤดูกาลนี้