เวย์น รูนี่ย์ ระบุ พฤติกรรมที่ผ่านมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมบอกว่าอดีตเพื่อนร่วมทีมชาวโปรตุกีสควรจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักและทำตัวเองให้พร้อมสำหรับการลงเล่นก็พอ
เวย์น รูนี่ย์ อดีตยอดกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่าพฤติกรรมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะ "ปีศาจแดง" ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

โรนัลโด้ กลายเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่ตอนที่ฤดูกาล 2022-23 ยังไม่เปิดฉาก หลังจากเขาต้องการย้ายทีมจนถึงขั้นให้ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์คู่ใจไปตระเวนคุยกับหลายๆ สโมสร แถมเขายังเคยปฏิเสธที่จะลงไปเล่นในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินเข้าอุโมงค์ไปทั้งที่ยังไม่จบการแข่งขันด้วย

หลังโดนถามว่าถ้ามี โรนัลโด้ อยู่ในทีมแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นทีมที่ดีขึ้นหรือไม่นั้น รูนี่ย์ ก็ตอบว่า "ไม่นะ ผมไม่คิดอย่างนั้น แน่นอนว่าเขากับ เมสซี่ ถือเป็น 2 นักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล และคุณจะเลือกเอาก็ได้ว่าใครที่เก่งกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะตัดสินใจยังไง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำมาตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาลนี้น่ะมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

"ผมเห็น รอย คีน คอยออกมาปกป้องเขา ทั้งที่จริงๆ แล้วคนแบบ รอย นั่นแหละที่จะไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้ รอย จะไม่มีวันยอมให้เกิดอะไรแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความยุ่งเหยิง ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต้องการสิ่งแบบนั้นในตอนนี้เมื่อพิจารณาถึงการที่พวกเขากำลังอยู่ในช่วงพยายามสร้างทีมกันขึ้นมาใหม่"

"สำหรับ คริสเตียโน่ สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงก้มหน้าก้มตาทำงาน และทำตัวเองให้พร้อมที่จะลงเล่นเมื่อผู้จัดการทีมต้องการคุณ ถ้าเขาทำอย่างนั้นได้แล้วน่ะเขาก็จะเป็นตัวเลือกที่มีคุณค่าให้กับทีม แต่ถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้นเขาก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความปั่นป่วน"

อดีตหัวหอกชาวอังกฤษแสดงความเชื่อด้วยว่า เอริค เทน ฮาก คือคนที่เหมาะสมสำหรับการทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง "ผมคิดว่า เทน ฮาก ทำได้ดีมากๆ เขาเข้ามาและแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเขาภายในทีม มันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 หรือ 3 ปีหลังสุดที่ผมเริ่มได้เห็นเอกลักษณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมไม่ได้เห็นอะไรแบบนั้นเลยในช่วง 2 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา"

"เขาแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและบุคลิกของตัวเองในการรับมือกับ คริสเตียโน่ ได้หลายครั้ง เขาคือคนที่เหมาะกับงานนี้ ผมคิดว่ามันต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่มันเป็นการก้าวไปในทางที่ถูกต้องเพื่อที่จะจบในท็อปโฟร์และได้กลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง"

"ผมสนิทกับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มากๆ จนทำให้ผมรู่ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่บ้าง และเรื่องที่ว่าเขาทำงานของตัวเองยังไง ผมรู้ว่าตอนนี้บรรดานักเตะและสตาฟฟ์มีความสุขมากกว่าที่พวกเขาเคยเป็นตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา"