จิ้งจอกฟอร์มแรง! เลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มเฉียบบุกปราบ เวสต์แฮม 2-0 แมดดิสัน ซัดนำก่อนบาดเจ็บ ก่อนที่ บาร์นส์ จะยิงปิดกล่องพา "เดอะ ฟ็อกซ์" สร้างผลงานหรูคว้าชัย 4 จาก 5 เกมล่าสุด แถมเก็บคลีนชีต 6 จาก 7 เกมทุกรายการ มี 17 คะแนนรั้งอันดับ 12 ส่วนขุนค้อนแพ้ 3 นัดติดรั้งอันดับ 16 ก่อนจะพักเบรกยาวเพื่อหลีกทางให้บอลโลก แล้วกลับมาฟาดแข้งอีกทีช่วง "บ็อกซิ่งเดย์"

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม เจ้าบ้าน เวสต์แฮม อันดับ 15 เปิดรังรับมือ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14

เปิดฉากมาแค่ 8 นาทีแรก "จิ้งจอกสยาม" บุกมาขึ้นนำขุนค้อนก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะสวนกลับ บอลแทงทะลุมาถึง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ก่อนรอจังหวะให้สั้นๆกับ ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ปาดเลียดมาเสาแรกถึง ดาก้า ก่อนจ่ายต่อให้ เจมส์ แมดดิสัน ที่ยืนโล่งๆ เสาไกลกระทุ้งให้ทีมนำ 1-0

นาที 15 เดวิด มอยส์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง คัวร์ท ซูม่า เจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง นาเยฟ อาเกิร์ด แนวรับวัย 26 ปี ทีมชาติโมร็อคโก ลงเล่นแทน

นาที 21 เลสเตอร์ เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง หลัง แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ ลากจากกลางสนามขึ้นมาเองก่อนหลบ ลูกัส ปาเกต้า แล้วซัดนอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งจน ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ต้องปัดปลายมือออกหลังไป

อีกสองนาทีถัดมา เลสเตอร์ ต้องเสีย เจมส์ แมดดิสัน หลังมีอาการบาดเจ็บแต่ดูแล้วไม่หนักมากเนื่องจากเดินออกสนามเองได้ ก่อนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะส่ง เดนนิส ปราต ลงมาเล่นแทน

นาที 27 เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอได้ คราวนี้ สคามัคก้า จ่ายบอลเร็วให้ เบนราห์ม่า เข้าไปซัดเสาแรก แต่ยังไม่ผ่านมือ แดนนี่ วอร์ด แม้จะรับหลุดมือไปชน เว้าท์ ฟาส แต่ยังตามตะครุบบอลไว้ได้่

นาที 36 จาร็อด โบเว่น หลุดขึ้นไปก่อนหักย้อนมาให้ โทมัส ซูเช็ค วิ่งมาแปเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ทว่า ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ โบเว่น ก่อนทำให้ เจ้าบ้านขุนค้อนชวดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย

นาที 40 เคร็ก ดอว์สัน พุ่งไปเสียบ แพ็ตสัน ดาก้า ในเขตโทษ โดยทีแรกผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่หลังมีสัญญาณจากห้องควบคุมวีเออาร์ ทำให้ จาร์เร็ด จิลเล็ตต์ ผู้ตัดสินวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนาม แล้วเป่าให้ทัพจิ้งจอกได้จุดโทษ ทว่า ยูริ ตีเลมันส์ ดันยิงไปติดเซฟ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ทำให้ทัพจิ้่งจอกชวดได้เม็ดที่สองนำห่างอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำ เวสต์แฮม 1-0

กลับมาบู๊ต่อครึ่งหลัง นาที 46 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง เดแคลน ไรซ์ ไหลให้ ซาอิด เบนราห์ม่า ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ แดนนี่ วอร์ด

เจ้าบ้านโหมบุกเรื่อยๆ นาที 51 จาร์ร็อด โบเว่น เปิดเตะมุมเข้ามาในกรอบ 6 หลา จานลูก้า สคามัคก้า ได้โอกาสโขกแต่บอลเหินคานออกไป

นาที 72 เจ้าถิ่นทำเสียบอลเองก่อนโดน "จิ้งจอก" โต้กลับบอลถึง อโยเซ่ เปเรซ จ่ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังไปติดเซฟ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้

จนแล้วจนรอดเจ้าบ้านมาเสียเม็ดที่สองจนได้ นาที 78 เลสเตอร์ ได้บอลโต้กลับเร็ว บอลมาถึง อโยเซ่ เปเรซ แทงทะลุให้ บาร์นส์ ใช้ความเร็วพาบอลเข้าไปซัดผ่านตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าไปให้ "จิ้งจอกสยาม" นำห่าง 2-0

จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ เวสต์แฮม 2-0 สร้างผลงานหรูคว้าชัย 4 จาก 5 เกมล่าสุด แถมเก็บคลีนชีต 6 จาก 7 เกมทุกรายการ มีเพิ่มเป็น 17 คะแนนรั้งอันดับ 12 ส่วนขุนค้อนแพ้ 3 นัดติดรั้งอันดับ 16 ก่อนจะพักเบรกยาวเพื่อหลีกทางให้บอลโลก แล้วกลับมาฟาดแข้งอีกทีช่วง "บ็อกซิ่งเดย์"

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เวสต์แฮม (4-2-3-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - ธิโล เคห์เรอร์, เคร็ก ดอว์สัน, คัวร์ท ซูม่า (นาเยฟ อาเกิร์ด น.15), แอรอน เครสส์เวลล์ - โทมัส ซูเช็ค (ปาโบล ฟอร์นัลส์ น.75), เดแคลน ไรซ์ - จาร์ร็อด โบเว่น, ลูกัส ปาเกต้า, ซาอิด เบนราห์ม่า - จานลูก้า สคามัคก้า   

ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : แดนนี่ วอร์ด - ติโมธี คาสตาญ, แดเนี่ยล อมาร์ตีย์, เว้าท์ ฟาส, ลุค โธมัส - บูบาการี่ ซูมาเร่ (นอมปาลิส เมนดี้ น.69) - เจมส์ แมดดิสัน (เดนนิส ปราต น.24), ยูริ ตีเลมันส์ (วิลฟรีด เอ็นดิดี้ น.55), เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ (อโยเซ่ เปเรซ น.69), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - แพ็ตสัน ดาก้า (เจมี่ วาร์ดี้ น.69)

ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ผู้ตัดสิน : จาร์เร็ด จิลเล็ตต์