"ปีศาจแดง" เหนื่อยไม่น้อยแต่ยังทำผลงานได้ตามเป้าได้ เอริคเซ่น ทั้งยิง-ทั้งจ่ายก่อนเป็น การ์นาโช่ ลงเป็นตัวสำรองสวมบทฮีโร่ซัดทดเจ็บนาทีสุดท้ายเบียด ฟูแล่ม 2-1 พาทีมหวนซิวชัยในลีกเก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนนยึดอันดับ 5 ตาม สเปอร์ส พื้นที่ ท็อปโฟร์ 3 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด

สนาม : คราเวน ค็อตเทจ, ลอนดอน (ฟูแล่ม)

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 "เจ้าสัวน้อย" ทีมอันดับ 9 ต้อนรับ "ปีศาจแดง" ที่รั้งอันดับ 5 ของตาราง

ฟูแล่ม ไม่ชนะใครมา 2 เกมติดต่อกันในลีกหลังจากที่ออกไปพ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ 1-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้เจ้าบ้านมี 19 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 14 เกมในฤดูกาลนี้

ทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านเชือด แอสตัน วิลล่า 4-2 ในเกม คาราบาว คัพ อังกฤษ รอบ 3 ปีศาจแดง จึงผ่านเข้ารอบ 4 ไปเจอกับ เบิร์นลี่ย์ ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดออกไปพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 1-3 ทำให้ทีมเยือนมี 23 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 13 เกมในฤดูกาลนี้

เปิดฉากครึ่งแรก 5 นาที ฟูแล่ม ทักทายก่อน วิลเลี่ยน หลุดขึ้นมาทางซ้ายจี้เข้าเขตโทษหักย้อนตั้งให้ การ์ลอส วินิซิอุส ซัดแฉลบปลายเท้า ไทเรลล์ มาลาเซีย ไปติดเซฟ ดาบิด เด เคอา

นาทีที่ 9 "ปีศาจแดง" ตอบโต้บ้าง ลุค ชอว์ ตักบอลกระดอนพื้นโค้งมาเข้าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด เก็บในเขตโทษฝั่งซ้ายแปะตั้งให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ดึงหาช่องแฉลบเท้า อิสซ่า ดิย็อป เปลี่ยนทางไปติดเซฟ แบรนด์ เลโน่

แต่แล้วนาทีที่ 14 แมนฯ ยูไนเต็ด ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ถอยมาเก็บจี้ขึ้นมาดีดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สอดมาปั่นโดนไม่เต็มกลายเป็นไหลไปเสาสองเข้าทาง คริสเตียน เอริคเซ่น ชาร์จเข้าไปไม่พลาด

ต่อมานาทีที่ 25 เจ้าถิ่น พลาดโอกาสทอง อันเดรียส เปเรยร่า หมุนหนี ลิซานโดร มาร์ติเนซ หลุดขึ้นมาทางขวาปาดบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ แฮร์รี่ วิลสัน เหยียดเท้าชาร์จไปติดเซฟ ดาบิด เด เคอา

3 นาทีต่อมา ฟูแล่ม เร่งเครื่อง วิลเลี่ยน ถอยมาเชื่อมทิ้งยาวออกขวาให้ แฮร์รี่ วิลสัน แหวกขึ้นมาโยกตัดเข้าในได้ช่องปั่นด้วยซ้ายก็ยังไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา ทุบทิ้งออกมาได้ทัน

30 นาทีผ่าน แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้บ้าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตามมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายแปะเร็วให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดล่อเป้าติดเซฟ แบรนด์ เลโน่

ท้ายครึ่งแรก "ปีศาจแดง" หวิดบวกสกอร์เพิ่ม ลุค ชอว์ ตามมารับบอลทางซ้ายตวัดตามน้ำโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัว อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โฉบมาขวิดข้ามคานนิดเดียว

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 ทีมเยือน ได้เสียวเพิ่ม ไทเรลล์ มาลาเซีย ดึงบอลคืนหลังให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เก็บในเขตโทษฝั่งขวาปาดเข้าในถวายพานถึง คริสเตียน เอริคเซ่น ชาร์จหลุดออกหลังเหลือเชื่อ

หมดครึ่งเวลาแรก ฟูแล่ม 0 แมนฯ ยูไนเต็ด 1

นาทีที่ 48 แมนฯ ยูไนเต็ด ออกหมัดก่อน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถอยไปเชื่อมบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายทิ้งขึ้นมาให้ แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ แบรนด์ เลโน่ ควักออกมาเข้าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด ซ้ำอีกรอบก็ยังไม่ผ่านนายด่านชาว เยอรมัน

ต่อมานาทีที่ 52 ฟูแล่ม ตอบโต้บ้าง แฮร์รี่ วิลสัน พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาครอสแฉลบ ลุค ชอว์ ข้ามมาเสาไกลเข้าทาง การ์ลอส วินิซิอุส หมุนตัวอัดด้วยซ้ายหน้ากรอบ 6 หลาติดเซฟ ดาบิด เด เคอา

จากจังหวะต่อเนื่องคราวนี้เป็น ทอม แคร์นี่ย์ ตั้งป้อมครอสทางซ้ายบอลโค้งข้ามมาเสาไกลตกใส่หัว ทิม รีม โขกเต็มแรงแบบไร้ตัวประกบติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ควักข้ามคานเหลือเชื่อ

นาทีที่ 61 เจ้าถิ่น ตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากบอลสวนกลับทางซ้าย วิลเลี่ยน ฉกพาแหวกขึ้นมาดีดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ทอม แคร์นี่ย์ อัดเข้ากรอบ 6 หลาถึง แดเนียล เจมส์ ชาร์จเข้าไปไม่พลาด

70 นาทีผ่าน ฟูแล่ม โหมชุดใหญ่ ชูเอา ปาลินญ่า โชว์ลีลาจักรยานกาศไปติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ชกทิ้งออกมาเข้าทาง แดเนียล เจมส์ เก็บงานซัดลอดบล็อคเสียดายเบาไม่ดีพอเป็นประตู

ท้ายเกมนาทีที่ 82 ลุค ชอว์ เติมเกมรุกทางซ้ายได้ช่องตักเข้าเขตโทษย้อยมาเข้าหัว สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ โขกบนเส้น 6 หลาแบบไร้ตัวประกบข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง

แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 "ปีศาจแดง" มาได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะประสานงานสุดสวย คริสเตียน เอริคเซ่น เบิ้ลบอลเร็วเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ใช้ความเร็วสอดมาทิ่มผ่าน แบรนด์ เลโน่ ตุงตาข่าย

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ฟูแล่ม 1 แมนฯ ยูไนเต็ด 2

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

ฟูแล่ม (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่ - บ็อบบี้ รีด, อิสซ่า ดิย็อป, ทิม รีม, แอนโทนี่ โรบินสัน - ทอม แคร์นี่ย์ (โจชัว โอโนมาห์ น.92), ชูเอา ปาลินญ่า - แฮร์รี่ วิลสัน (แดเนียล เจมส์ น.59), อันเดรียส เปเรยร่า, วิลเลี่ยน - การ์ลอส วินิซิอุส

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - ไทเรลล์ มาลาเซีย, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ - คาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น, แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า (สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.55), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.72)

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์