อังกฤษ มาพร้อมกับขุมกำลังที่แข็งแกร่งนำโดย แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นต้น โดยงานนี้กุนซือแกเร็ธ เซาธ์เกต หมายมั่นปั้นมือจะนำ "สิงโตคำราม" คว้าแชมป์กลุ่มให้ได้ ขณะที่อันดับ 2 ต้องบอกว่าสูสีกันมากๆ ทั้ง เวลส์, สหรัฐอเมริกา สำหรับ อิหร่าน แม้จะดูโอกาสน้อยที่สุดแต่ก็สามารถเป็นม้ามืดในกลุ่มนี้ได้เช่นกัน

เวลส์

ต้องบอกเลยว่านี่คือประวัติศาสตร์แห่งวงการลูกหนังเวลส์ เมื่อพวกเขาสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปีเลยทีเดียว ทัพ "มังกรแดง" ได้ตั๋วไปบุกดินแดนตะวันออกกลางจากการเอาชนะ ยูเครน ในรอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป จะว่าไปแล้ว เวลส์ ในยุคของกุนซือร็อบ เพจ ก็ถือว่าเป็นทีมที่มีผู้เล่นประสบการณ์จัดจ้านไม่ธรรมดา และน่าจะเป็นหนึ่งในชาติม้ามืดที่อาจสร้างความตื่นตะลึงให้กับเกมเวิลด์ คัพ ครั้งนี้

สตาร์ประจำทีม - แกเร็ธ เบล

แกเร็ธ เบล ปัจจุบันค้าแข้งกับ ลอสแองเจลิส เอฟซี ทีมชื่อดังแห่งลีกอเมริกา แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 33 ปีแล้วแต่ศักยภาพยังยอดเยี่ยม ล่าสุดก็เพิ่งช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์เอ็มแอลเอส คัพ สำหรับการเล่นให้ เวลส์ เจ้าตัวลงสนามไปแล้ว 108 เกมพร้อมตะบันไป 40 ประตู ทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นดาวซัลโวตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยประสบการณ์ที่เล่นในลีกระดับสูงกับ เรอัล มาดริด และพาทีมคว้าแชมป์มากมาย นี่จะเป็นอีกครั้งที่ เบล จะได้แสดงให้เห็นศักยภาพระดับโลก แม้จะอยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้งก็ตาม

โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 50 เปอร์เซนต์

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐฯ ถือเป็นขาประจำในเกมเวิลด์ คัพ โดยพวกเขาผ่านเข้ามาเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ 11 ครั้งแล้ว สำหรับทัพ "ลุงแซม" ภายใต้การคุมทัพของ เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ ถือว่าน่าสนใจมากๆ โดยจะเน้นเรียกตัวผู้เล่นจากลีกในประเทศมากกว่า นอกจากนี้เขายังใช้งานผู้เล่นที่มีสองสัญชาติเข้ามาติดทีมชาติ ทั้งแซร์จินโญ่ เดสต์ (เนเธอร์แลนด์), ยูนุส มูซาห์ (อังกฤษ-กาน่า),  จิโอ เรย์น่า (อังกฤษ)และ ริคาร์โด เปปิ  (เม็กซิโก) ผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมชาติในยุคนี้ อย่าง ไทเลอร์ อดัมส์,เวสตัน แมคเคนนี่ และ ทิโมธี เวอาห์ โดยมีผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างคริสเตียน พูลิซิช, จอร์แดน มอร์ริส และแอร่อน ลอง ประคองทีม

สตาร์ประจำทีม - คริสเตียน พูลิซิช

คริสเตียน พูลิซิช ปีกสารพัดประโยชน์ที่สามารถหุบเข้ามาเล่นกลางรุกได้แบบแยบยลมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมพร้อมการจ่ายบอลที่น่าทึ่งปัจจุบันต้นสังกัดคือ "สิงห์บลูส์" เชลซี เวลาที่ทีมตันหนทางก็ใช้ พูลิซิช นี้แหละคอยลงมาเปลี่ยนเกมได้อยู่เสมอ ถือเป็นกำลังหลักของแนวรุกแยงกี้คนนึงที่ขาดไม่ได้ ฟุตบอลโลกที่ครั้งนี้หวังว่าจะได้เห็นเขาโชว์ลีลาปล่อยของบนพื้นหญ้าที่กาตาร์ได้ไม่มากก็น้อย

โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 55 เปอร์เซนต์

อังกฤษ

แกเร็ธ เซาธ์เกต ปลุกปั้น อังกฤษ ชุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาสามารถนำทัพ "สิงโตคำราม" ทะลุเข้ารอบตัดเชือก ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย จากนั้นก็ทะลุชิง ยูโร 2020 แต่พ่ายจุดโทษ อิตาลี สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ อังกฤษ หมายมั่นปั้นมือที่จะประสบความสำเร็จให้ได้ ด้วยขุมกำลังที่เต็มไปเปี่ยมไปด้วยศักยภาพและประสบการณ์ ผสมผสานกับนักเตะดาวรุ่ง มีความเป็นไปได้เช่นกันที่พวกเขาคว้าโทรฟี่เวิลด์ คัพ มาครอบครอง หลังจากที่เคยทำได้ครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อปี 1966

สตาร์ประจำทีม -  แฮร์รี่ เคน

แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าร่างยักษ์ที่มีทักษะการจบสกอร์ที่ดีได้ทั้งลูกโหม่งและเท้าขวาอันทรงพลังที่ซัดให้ทีมชาติไปแล้วถึง 51 ประตูรวมทุกรายการ และฤดูกาลนี้ในลีกเขาถึงแม้ฟอร์มต้นสังกัตอาจจะไม่ดีแต่ฟอร์มส่วนตัวของเขาก็ยังคงประสิทธิภาพตามเดิมยังสามารถยืนยัดซัดประตูช่วยสเปอร์สได้อยู่เสมอ ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ปีนี้แฟนๆสิงโตคำรามก็ยังหวังว่าตัว เคน จะระเบิดฟอร์มออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเพื่อพาอังกฤษไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้

โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 80 เปอร์เซนต์

อิหร่าน

ทัพ "นักรบแห่งเปอร์เซีย" เป็นชาติแรกของเอเชีย ที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย อิหร่าน ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอ ใน รอบสาม โซนเอเชีย  จากสถิติชนะ 8 แพ้เพียงนัดเดียว ปัจจุบัน  คารอส เครอส กลับมาคุมอิหร่าน เป็นคำรบสอง พวกเขาเป็นชาติที่แข็งแกร่งมากๆ โดยภายใต้การกุมบังเหียนของ เครอส เขาเคยพาทีมไป  ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเมื่อปี  2014 และ 2018 อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ก็หวังจะล้างอาถรรพ์ ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ให้ได้ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ 6 ครั้งจอดป้ายเพียงรอบแรกเท่านั้น

สตาร์ประจำทีม - ซาร์ดอร์ อัซมูน

เรียกได้ว่าถ้าหานักเตะที่มีชื่อเสียงและเล่นบอลอยู่ลีกยูโรปที่มาพร้อมความสามารถเฉพาะตัวที่มากมายก็ต้องเป็น ซาร์ดอร์ อัซมูน เจ้าของฉายา "เมสซี่แห่งเตหะราน" กองหน้าสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้ง หน้าเป้า,กลางรุกและ ปีก โดยปัจจุบัน อัซมูน เล่นให้กับต้นสังกัดอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน ถึงแม้ว่าโอกาสที่ได้ลงยังจะน้อยนิดแต่เวลาลงสนามมาสามารถสร้างความแตกต่างให้ทีมได้เสมอ โดยเฉพาะในทีมชาติที่มักจะโดนดึงลงมาเล่นเป็นกลางรุกโดยส่วนใหญ่ เป็นที่น่าจับตาอย่างมากสำหรับกองหน้าสายเลี้ยงคนนี้ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์หวังว่าจะได้เห็นเขาโชว์ลีลาและทำประตูได้