เกมรับห่วยกว่า เอฟเวอร์ตัน,โกนาเต้ ฝันร้าย! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด
Posted 03/01/2023 by siamsport
ไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับ "ผึ้งพิฆาต" เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล และต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ได้อย่างสนุกสะใจพระเดชพระคุณจากการทำศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ม.ค.
แม้ในแง่ของการทำเกมรุก หงส์แดง อาจเหนือกว่าชัดเจน แต่เมื่อฟุตบอลตัดสินกันที่ความเด็ดขาดในการสอยตาข่าย "เดอะ บีส์" ซึ่งโชว์พิษสงได้อย่างร้ายกาจจึงกำชัยไปได้อย่างยอดเยี่ยม 3-1 ทั้งๆที่ไม่มี ไอแวน โทนีย์ ศูนย์หน้าคนสำคัญลงสนาม
1.เจ้าบ้านระส่ำไร้ โทนีย์
เบรนท์ฟอร์ด หนีไม่พ้นได้รับข่าวร้ายเนื่องจาก โทนีย์ กองหน้าตัวอันตรายมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่สามารถลงเล่นได้
ต่อปัญหาดังกล่าว โธมัส แฟรงค์ กุนซือชาว เดนมาร์ค ตัดสินใจส่ง โยอัน วิสซ่า ลงเล่นแทนศูนย์หน้าอิงลิช ขณะที่การปรับทัพอีกจุดจากเกมบุกทุบ เวสต์แฮม 2-0 คือการใช้งาน วิทาลีย์ ฌาเนลต์ แทน จอช ดาซิลวา
กับการปราศจาก โทนีย์ ที่เจ็บเข่าเล็กน้อยถือเป็นข่าวดีที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เบาใจไปได้เยอะเนื่องจากถึงขณะนี้สตาร์ผิวสีซัดประตูในลีกซีซั่นนี้ได้ 12 ลูกแล้วเท่ากับสถิติตลอดซีซั่นก่อนของเขาจึงต้องถือว่าเจ้าตัวกำลังเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มโดยแท้
2.หงส์แดง เปลี่ยนทีมสามตำแหน่ง
สำหรับ ลิเวอร์พูล หากเทียบจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่เฝ้าบ้านชนะ เลสเตอร์ 2-1 เมื่อวันศุกร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ โรเตชั่นทีมสามจุดเพื่อรักษาความสดจากการลงเล่นในช่วงโปรแกรมหฤโหด
ในจำนวนนี้ คอสตาส ซิมิคาส , อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ฟาบินโญ่ ที่เกมชนะ เดอะ ฟ็อกซ์ หายหน้าไปเนื่องจากลูกชายคลอดได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรกก่อนหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ไม่ฟิตเต็มร้อย , โฌแอล มาติป และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยในรายของกัปตัน เฮนโด้ มีปัญหาได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
ขณะเดียวกัน โกนาเต้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดรองแชมป์โลก 2022 ได้ลงสนามให้ต้นสังกัดเป็นนัดแรกด้วยนับตั้งแต่กลับมาจากทัวร์นาเมนต์สำคัญที่ กาตาร์
3.อ็อกซ์ 100
จากการประกาศรายชื่อทีมของ เร้ด แมชีน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ยังอยู่ในโผตัวจริงต่อจึงทำให้อดีตขุนพล อาร์เซน่อล ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ เร้ด แมชีน เป็นเกมที่ 100 พอดี
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นการลงเล่นเกมลีกให้ต้นสังกัดในฐานะตัวจริงติดต่อกันของเขาสามนัดรวดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2020 ซึ่งคราวนั้น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกหกเกมติดต่อกัน
4.ครึ่งแรกสุดมัน แต่เจ้าบ้านเฮฝ่ายเดียว
ว่ากันตามจริง ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตได้น่ากลัวตามเคยโดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ สบโอกาสคลำเป้าตั้งแต่ต้นเกม ทว่า ดาบิด รายา โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมหลายหน
และทำไปทำมาหลังจากต่างก็แลกเกมรุกกันอย่างสนุกกลับกลายเป็นว่า เบรนท์ฟอร์ด ออกนำ 2-0 โดยที่กว่าพวกเขาจะได้สองประตูก็ต้องมีการเช็ค วีเออาร์ และริบสกอร์ไปเหมือนกัน
จากสถิติใน 45 นาทีแรก หงส์แดง ครองบอลได้เหนือกว่าลิบลับถึง 75:25% แต่เป็นเจ้าบ้านที่ได้ส่องยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิง 8 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้ง
ฉะนั้นแล้ว มันจึงเรื่องประสิทธิภาพในการยิงประตูของ ลิเวอร์พูล ที่มีปัญหา แต่ที่น่าหนักใจกว่าคือเกมรับซึ่งถึงตอนนี้เป็นเรื่องน่าช็อกอย่างยิ่งที่ เร้ด แมชีน เสียประตูในเกมลีกมากกว่า เอฟเวอร์ตัน ทีมร่วมเมืองไปซะแล้ว
พร้อมกันนี้ มีสถิติบ่งชี้ว่า เดอะ บีส์ ไม่เคยแพ้เกมลีกซีซั่นนี้ด้วยหากพวกเขาลงเล่นในรังตัวเอง และได้ประตูขึ้นนำทีมเยือนก่อน
และด้วยสกอร์นำ 2-0 ของ เบรนท์ฟอร์ด อ็อปต้า ได้คำนวณสถิติความน่าจะเป็นของผลลัพธ์นัดนี้หลังจบ 45 นาทีแรกออกมาดังนี้
เบรนท์ฟอร์ด ชนะ 75.6%
เสมอ16.6%
ลิเวอร์พูล ชนะ 7.8%
5.คล็อปป์ แก้เกมดีแต่ไม่ได้ผลลัพธ์
พลันที่เกมกลับสู่ครึ่งหลัง คล็อปป์ แก้เกมทันทีด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองพร้อมกันสามรายทั้ง มาติป ,โรเบิร์ตสัน และ นาบี้ เกอิต้า ที่ได้เสียบแทน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ ซิมิคาส
และแค่ห้านาที อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ก็โขกลูกโยนจากกราบขวาของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เข้าประตูตีไข่แตกให้ทีมเยือนได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นนิมิตรหมายว่า หงส์แดง มีโอกาสคัมแบ็คสูง
อย่างไรก็ดี เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้เสียขวัญแต่อย่างใด และช่วยกันเล่นได้อย่างแข็งแกร่งต้านทานเกมบุกที่บ้าคลั่งของ เครื่องจักรสีแดง ได้โดยตลอดจนกระทั่งมาสบโอกาสได้เม็ดสามในช่วงท้ายเกมจาก บริย็อง เอ็มเบวโม
จึงเท่ากับว่าการคืนสนามเกมแรกของ โกนาเต้ ปราการหลัง ลิเวอร์พูล จัดเป็นฝันร้ายของเขาอย่างแท้จริงเนื่องจากเจ้าตัวสกัดบอลเข้าประตูตัวเองให้เจ้าบ้านนำหน้า แถมยังทำลายความหวังที่จะแบ่งแต้มของทีมด้วยการเสียเหลี่ยมจนทำให้ เดอะ บีส์ ได้เม็ดสามอีกต่างหาก
ขณะเดียวกัน เบรนท์ฟอร์ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาประคับประคองสถานการณ์ได้อย่างไร้ที่ติจากสถิติไม่แพ้เลยในเกมลีกหากได้ประตูนำก่อน (ชนะ 15 เสมอ 4)
สำหรับ นูนเญซ กองหน้าค่าตัวแพงจอมทื่อของ หงส์แดง ยังเป็นพวกท่าดีทีเหลวอีกตามเคยเนื่องจากมีโอกาสทำสกอร์แต่ละเกมไม่ใช่น้อยๆ แต่ส่งบอลเข้าประตูไม่ค่อยได้เรื่องโดยถึงตอนนี้ดาวยิง อุรุกวัย ได้ชื่อว่าทิ้งโอกาสทองในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้มากกว่าพ่อค้าแข้งทุกรายไปแล้วรวม 15 ครั้งด้วยกัน
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล เองก็มีสถิติที่ อ็อปต้า ระบุว่าทิ้งโอกาสทองในซีซั่นนี้ไปอย่างมากมายมหาศาล 51 ครั้ง
ในทางกลับกัน ราย่า มือกาวเจ้าบ้านเซฟลูกอันตรายใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้มากกว่านายทวารทุกราย 15 ครั้งแล้วรวมถึงเกมชนะ ลิเวอร์พูล 4 ครั้งด้วย
สรุปสถิติ 90 นาที ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่า 73:27% และพลิกกลับมาได้ลุ้นยิงประตูมากกว่า 16:10 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบน้อยกว่า 7:6 ครั้งก่อนพ่ายไปแบบดูไม่จืด 3-1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รับห่วยจัด,สอบตกสี่ราย!ตัดเกรดแข้ง ลิเวอร์พูล เกมบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด เปิดหัวปี 2023
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทปี 2023 แบบสุดชอกช้ำ หลังบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอีกเกมที่เล่นได้น่าผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวรับที่พังสุดๆ ในช่วงครึ่งแรก และนี่คือผลสอบของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในแมตช์นี้หงส์น้ำตาตก! ลิเวอร์พูล เมาหมัดบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ชวดขึ้น ท็อปไฟว์
"หงส์แดง" น้ำตาตกจบ 45 นาทีแรกตามหลังถึง 2 ลูกแม้ครึ่งหลังไล่ตีไข่แตกสำเร็จจาก แชมเบอร์เลน แต่ก็เป็นเพียงประตูปลอบใจท้ายเกมโดน เอ็มเบวโม่ ซัลโวปิดกล่อง จบเกม บุกพ่าย "เบรนท์ฟอร์ด" 1-3 สะดุดพ่ายรอบ 5 นัดในลีกหลังซิวชัยมา 4 เกมติดหยุดอยู่ที่ 28 คะแนนชวดแซง สเปอร์ส ขึ้น ท็อปไฟว์ รั้งอันดับ 6 เหมือนเดิม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมาลิเวอร์พูล ถ้าเฮยึดท็อปไฟว์! "ซาลาห์"อาสาบุกลุย เบรนท์ฟอร์ด ขอเช็กฟิต "โทนี่ย์"
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เกมเมื่อท้ายปีเก่ามีดวงสุดเฮง เกมนี้ดาราขาประจำ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" นำบุก เบรนท์ฟอร์ด ที่กำลังแกร่งไร้พ่าย 5 นัดติดในลีกแม้หนักไปทางเสมอ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2566ฝากความหวังกับ นูนเญซ,ปรับแนวรับ! 2 ไลน์อัพที่ ลิเวอร์พูล อาจใช้เกมเยือน เบรนท์ฟอร์ด
ลิเวอร์พูล เตรียมทีมเข้าสู่ปีกระต่ายเดือดด้วยการเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 2 มกราคมนี้ โดยงานนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะใช้ผู้เล่นชุดที่เฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ เกมส่งท้ายปีเสือเกือบยกชุด และคงปรับเปลี่ยนเพียงไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้น
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์