เอริค คันโตน่า ระบุ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ยอมเข้าใจว่าตัวเขาเองไม่ใช่คนที่จะเล่นเหมือนสมัยยังหนุ่มๆ ได้ พร้อมบอกว่า โรนัลโด้ ควรจะยอมรับว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะได้ลงเล่นทุกนัดแล้ว และเน้นไปที่การช่วยดาวรุ่งมากกว่า
เอริค คันโตน่า ตำนานดาวเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ยอมตระหนักว่าตัวเองไม่ได้มีสภาพเหมือนคนวัยหนุ่มอีกต่อไป

ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 โรนัลโด้ กลายเป็นข่าวฉาวอย่างต่อเนื่องจากการที่เขาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายครั้งในตอนที่ยังอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเช่นการพยายามหาทางย้ายไปอยู่กับทีมอื่นที่ได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ไม่ยอมเดินไปปรบมือให้แฟนๆ และการปฎิเสธคำสั่งของ เอริค เทน ฮาก ที่อยากเปลี่ยนเขาลงไปเล่นในช่วงท้ายเกม เป็นต้น

ในเวลาต่อมา โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์เชิงตำหนิ "ปีศาจแดง" หลายอย่าง รวมถึงจวก เทน ฮาก ด้วย เพราะไม่พอใจที่ตัวเองโดนลดบทบาท พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าเขายังเล่นในระดับสูงได้ ซึ่งนั่นนำไปสู่การยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมร่วมกันระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ โรนัลโด้ ก่อนที่สุดท้ายแข้งชาวโปรตุกีสจะเซ็นสัญญากับ อัล-นาสเซอร์ ทีมในซาอุดิอาระเบีย

คันโตน่า เผยกับ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นประจำเมืองแมนเชสเตอร์ว่า "เขากลับมาอยู่ที่นี่ แต่ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ ยูไนเต็ด แบบเดียวกับตอนที่เขาย้ายออกไป และบางครั้งเขาก็ไม่ตระหนักว่าหลายอย่างมันปเลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นเขาอาจจะแปลกใจที่หลายอย่างมันไม่เหมือนเดิม"

"ผมคิดว่าช่วงบั้นปลายของอาชีพการค้าแข้งนั้นมันจะมีนักเตะที่แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือตัวผมเองน่ะตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปตั้งแต่ตอนที่ยังอายุน้อย ทำให้มันเป็นอีกกรณีหนึ่ง ในทางตรงกันข้ามมันมีนักเตะที่อยากเล่นไปจนถึงอายุ 40 ปี ซึ่งตรงนี้จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม แบบหนึ่งคือคนที่อยากลงเล่นทุกนัดเพราะพวกเขายังคิดว่าตัวเองมีอายุ 25 ปีอยู่ กับอีกแบบคือคนที่เข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้มีอายุ 25 ปีอีกแล้ว และมีหน้าที่หลักๆ คือการช่วยเหล่าดาวรุ่ง"

"พวกเขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถลงเล่นทุกนัดได้ พวกเขารู้ว่าจะได้เล่นเพียงบางเกม หน้าที่ของคนกลุ่มนี้คือการช่วยเหล่าดาวรุ่ง อย่างเช่นกรณีของ (ซลาตัน) อิบราฮิโมวิช ที่ยังอยู่กับ มิลาน, ไรอัน กิ๊กส์ หรือ (เปาโล) มัลดินี่ ที่เคยอยู่ในสถานะนั้นตอนที่ยังอยู่กับ มิลาน"

"ผมคิดว่า โรนัลโด้ ไม่ตระหนักว่าเขาไม่ได้มีอายุ 25 ปีอีกต่อไปแล้ว และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนั้นด้วย เขาแก่ขึ้น และแทนที่จะมาไม่พอใจกับการที่ไม่ได้ลงเล่นบางนัดน่ะ เขาควรจะเข้าใจและยอมรับว่า -โอเค ฉันไม่ได้อายุ 25 ปีอีกแล้ว ฉันไม่สามารถลงเล่นทุกนัดได้ แต่ฉันจะช่วยนักเตะดาวรุ่งและบอมรับสถานการณ์ของฉัน นั่นคือสถานการณ์ของฉันในตอนนี้- มากกว่า"

"มันก็เหมือนกับทุกอย่างในโลกนี้นั่นแหละ คุณจะเจอบางคนที่ยอมรับว่าพวกเขาแก่ขึ้น คุณต้องยอมรับถึงเรื่องนั้น มันไม่ใช่แค่ในเรื่องฟุตบอลเท่านั้น แต่รวมถึงทุกเรื่องเลย ผมเองยังต้องยอมรับเลยว่าผมไม่สามารถวิ่งให้เร็วเหมือนเดิมได้ในตอนที่ตัวเองมีอายุ 30 ปี ผมต้องยอมรับว่าสักวันหนึ่งผมจะต้องตาย แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก แต่เราต้องทำใจยอมรับมัน ช่วงบั้นปลายของอาชีพการค้าแข้งมันก็มีสภาพเหมือนกับตอนที่คุณกำลังจะตายนั่นแหละ มันเหมือนการตายนิดๆ เมื่อถึงจุดนั้นแล้วคุณต้องเริ่มทำเรื่องอื่นๆ คุณจะแก่ขึ้นก่อนที่จะตาย คุณต้องยอมรับว่าตัวเองแก่ขึ้น คุณไม่สามารถทำเรื่องต่างๆ เหมือนที่ผ่านๆ มาได้"

"แน่นอน คุณสามารถร้องเพลงจนถึงอายุ 80 ปีได้ คุณยังทำการแสดงจนถึงอายุ 80 ปีได้ แต่นักฟุตบอลหรือนักกีฬาน่ะรู้ดีว่าหลังจากคุณมีอายุ 30 ปี หรือ 33 ปีแล้วนั้น สภาพร่างกายของคุณจะเจอปัญหามากขึ้นในทุกๆ วัน คุณต้องยอมรับเรื่องแบบนั้น ไม่ก็เลิกเล่นไปเลย หรือไม่อย่างนั้นก็เน้นไปที่การช่วยดาวรุ่ง ผมจะพูดยังไงดีล่ะ มันก็เหมือนกับการส่งต่อนั่นแหละ เหมือนที่คุณจะส่งต่อของบางอย่าง 4 ครั้งในการวิ่ง 100 เมตร (คันโตน่า หมายถึงการวิ่งผลัด 4x100 เมตร) ล่ะมั้ง ?"