"เรือใบสีฟ้า" รวมพลังปลุกความดุดัน ครึ่งหลัง โหมกระหน่ำรัวแซง "ไก่เดือยทอง" 4-2 จากผลงานของ มาห์เรซ ยิง 2 จ่าย1 พาทีมหวนซิวชัยรอบ 3 นัดยึด รองจ่าฝูง เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนนขยับจี้ "ปืนใหญ่" เหลือ 5 แต้ม ส่วนทาง "สเปอร์ส" พ่าย 2 เกมติดรั้งอันดับ 5 เหมือนเดิม

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2566 "เรือใบสีฟ้า" รองจ่าฝูง ต้อนรับ "ไก่เดือยทอง" ทีมอันดับ 5 ของตาราง

แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การทำงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สะดุดแพ้มา 2 เกมติดรวมทุกรายการเริ่มจากแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน ในลีก คัพ 0-2 ก่อนจะมาแพ้ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 ในเกมลีกล่าสุด

ทางด้าน สเปอร์ส ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ แพ้ให้กับ อาร์เซน่อล มาเหมือนกัน 0-2 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ตอนนี้ชนะได้แค่ 2 นัดรวมทุกรายการจาก 5 เกมหลังสุด

เปิดฉากครึ่งแรก 10 นาที "เรือใบสีฟ้า" ทำได้ดีกว่าจากลูดสูตรลูกเตะมุมทางขวา ริยาด มาห์เรซ หยอดบอลข้ามมาเสาไกลให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ สอดมาตบเข้ากรอบ 6 หลาติด คริสเตียน โรเมโร่ ขวางไว้ได้ทัน

6 นาทีต่อมา "ไก่เดือยทอง" ตอบโต้บ้าง โรดริโก้ เบนตานกูร์ แทงบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ แฮร์รี่ เคน ขยับหนีมาตะบันตามน้ำยัดเสาแรกหลุดออกหลังก่อนมีธง ล้ำหน้า ยกตามขึ้นมา

 30 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น โหมต่อเนื่องได้ลุ้นซัดหลายครั้งแต่ยังไม่ตรงกรอบทั้งคู่ อิลคาย กุนโดกัน เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายโยกตัดเข้าในปั่นด้วยขวาโค้งผ่านหน้าประตูหลุดออกหลัง

6 นาทีต่อมา สเปอร์ส พลาดโอกาสทอง เบน เดวิส เติมเกมรุกสอดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายยกเร็วมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าหัว ซน ฮึง-มิน โขกแฉลบหลัง นาธาน อาเก้ ย้อยเข้ามือ เอแดร์ซอน

ต่อมานาทีที่ 39 แมนฯ ซิตี้ ตอบโต้ทันควัน แจ็ค กรีลิช เก็บบอลทางซ้ายฝากข้ามมาให้ ริโก้ ลูอิส ตะบันด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาแฉลบ ซน ฮึง-มิน หวิดเสียบเสาแรกติดเซฟ อูโก้ โยริส

ช่วงท้าย "เรือใบสีฟ้า" พยายามเร่งเครื่อง เออร์ลิง ฮาลันด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษแต่เสียดายเปิดไม่ผ่าน อูโก้ โยริส ก่อนจังหวะต่อเนื่องได้ลอยมาโขกหน้ากรอบ 6 หลาหลุดข้ามคาน นิดเดียว

แต่แล้วนาทีที่ 45 ทีมเยือน ทะยานออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ เอแดร์ซอน ออกบอลสั้นให้ โรดรี้ ไม่ทันระวังตัวโดน โรดริโก้ เบนตานกูร์ สอดมากดดันบอลเด้งไหลเข้าทาง เดยัน คูลูเซฟสกี้ หาช่องซัดตุงตาข่าย

ไม่หนำใจนาทีที่ 45+2 "ไก่เดือยทอง" ขยับหนี 2-0 อย่างเหลือเชื่อคราวนี้เป็น แฮร์รี่ เคน ขยันไปปั๊มบอลจาก จี้เข้าเขตโทษฝั่งขวาตะบันยัดไปติดเซฟ เอแดร์ซอน ปัดมาเข้าทาง เอเมอร์ซอน โรยัล เก็บส้มหล่นโขกสวนไม่พลาด

หมดครึ่งเวลาแรก แมนฯ ซิตี้ 0 สเปอร์ส 2

นาทีที่ 51 "เรือใบสีฟ้า" ตามตีไข่แตกอย่างรวดเร็ว ริยาด มาห์เรซ หนีเข้าเขตโทษฝั่งขวายกมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง อิลคาย กุนโดกัน โขกไม่ดีแต่ดึง อูโก้ โยริส อกมาจากหน้าปากประตูบอลไหลเป็นใจเข้าทาง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เก็บงานไม่พลาด

2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น ตามตีเสมอ 2-2  อิลคาย กุนโดกัน ยกบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ริยาด มาห์เรซ โฉบมาโขกชงข้ามมาเสาสองถึง เออร์ลิง ฮาลันด์ ขวิดตามน้ำสวนตัว อูโก้ โยริส เสยเพดานตาข่ายงามหยด

ต่อมานาทีที่ 56 แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องเป็นพายุ ริยาด มาห์เรซ เก็บหน้าเขตโทษสับหลอก เอริค ดายเออร์ ได้ช่องอัดด้วยขวาบอลติดไซค์ก้อยปปลิ้นหนีเสาแรกออกหลัง

60 นาทีผ่าน "ไก่เดือยทอง" แลกหมัดคืนบ้าง แฮร์รี่ เคน ป้ายบอลออกขวาให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ จี้เข้าเขตโทษก่อนหักข้อข้ามมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง อีวาน เปริซิช ตั้งเท้าซัดแบบไร้ตัวประกบติดบล็อค ริโก้ ลูอิส แฉลบชนเสา

นาทีที่ 64 "เรือใบสีฟ้า" ขยับแซงนำ 3-2 จากบอลทางขวาของ ริยาด มาห์เรซ เผาเครื่อง อีวาน เปริซิช หมุนเข้าเขตโทษสับขาหลอก เบน เดวิส ได้ช่องซัดยัดไส้แฉลบเบียดโคนเสาแรกซุกก้นตาข่าย

ท้ายเกมนาทีที่ 82 เจ้าถิ่น หวิดได้จุดโทษ โรดรี้ เอร์นานเดซ โขกบอลไปโดนแขน ริชาร์ลิซอน โชคร้าย ไซม่อน ฮูเปอร์ ใจแข็งไม่เป่าให้แถมไม่มีสัญณานจากห้อง วีเออาร์

แต่แล้วนาทีที่ 90 แมนฯ ซิตี้ ปิดกล่องเป็น 4-2 จนได้ เอแดร์ซอน ทิ้งบอลยาวขึ้นมาเข้าทาง เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ จับพลาดเด้งเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ตามมาฉกเข้าไปยกข้าม อูโก้ โยริส อย่างเหนือชั้น

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ 4 สเปอร์ส 2

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, ริโก้ ลูอิส, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก้ - อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ เอร์นานเดซ - ริยาด มาห์เรซ, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, แจ็ค กรีลิช - เออร์ลิง ฮาลันด์

สเปอร์ส (3-4-2-1) : อูโก้ โยริส - คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ดายเออร์, เบน เดวิส - เอเมอร์ซอน โรยัล, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, โรดริโก้ เบนตานกูร์, อีวาน เปริซิช - เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน