การแต่งตั้งและปลดผู้จัดการทีมในวงการฟุตบอลเป็นเรื่องปกติ และแน่นอนว่าในฤดูกาล 2022/2023 มีกุนซือหลายคนที่ต้องโบกมือลาต้นสังกัดเพื่อเซ่นผลงานน่าผิดหวัง แต่ก็ยังมีเทรนเนอร์บางคนที่ตอนนี้ยืนอยู่บนปากเหว มีสิทธิ์โดนเฉดหัวออกจากตำแหน่งได้ทันทีเช่นกัน

หากเกิดกรณีที่ต้องมีการสั่งปลดกุนซือแบบสายฟ้าแลบ บอกเลยว่าตอนนี้มีโค้ชฝีมือระดับอ๋องหลายคนที่ยังคงว่างงานอยู่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไร้ฝีมือ แต่เพราะกำลังรองานที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่

งานนี้บอกเลยว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออาชีพกับลิเวอร์พูล หรือผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ที่ผลงานไม่เข้าเป้า อาจต้องหนาวๆ ร้อนๆ เพราะหากเกิดเหตุที่ต้นสังกัดตัดสินใจสั่งปลด พวกเขาสามารถหาตัวตายตัวแทนจากกุนซือว่างงานเหล่านี้ได้ทันที

5. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ รับงานกุมบังเหียน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังจากพักสมองไปปีกว่านับตั้งแต่แยกทางกับ สเปอร์ส โดย "พอช" พยายามสร้าง "เปแอสเช" ให้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปแต่ไม่สำเร็จ เพราะต่อให้เขานำทีมคว้าแชมป์ลีก เอิง มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าตัวได้อยู่ในตำแหน่งนายใหญ่ต่อไป

กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ยังคงมีข่าวพัวพันกับหลายๆ สโมสรในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับ "ไก่เดือยทอง" อย่างไรก็ตามตอนนี้ โปเช็ตติโน่า ยังเลือกที่จะไม่รับงาน เพราะเขาต้องการที่จะอยู่กับสโมสรที่เหมาะสมที่สุด และมีโอกาสประสบความสำเร็จในลีก รวมทั้งฟุตบอลถ้วยยุโรป

ผลงานที่เคยนำ สเปอร์ส ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังคงน่าประทับใจอยู่เสมอ และสำหรับเจ้าตัวดูเหมือนว่าเขายังไม่จบภารกิจในเกาะอังกฤษ ฉะนั้นถ้ามีโอกาสคงจะกลับไปสานฝันให้กับตัวเองอีกครั้ง

4. อันเดร วิลลาช-โบอาช

กุนซือชาวโปรตุกีส สร้างชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดตอนที่กุมบังเหียน เอฟซี ปอร์โต้ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นทายาทของ โชเซ่ มูรินโญ่ จากนั้นก็ได้รับโอกาสคุม เชลซี ตามด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก่อนจะไปหาความท้าทายในลีกประเทศรัสเซีย และจีน จากนั้นก็หวนกลับยุโรปเพื่อคุม โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 2019

วิลลาช-โบอาช ถือเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากพอสมควร โดยเคยนำ ปอร์โต้ คว้า 3 แชมป์ ได้แก่ พรีเมยร่า ลีกา โปรตุเกส โปรตุกีส คัพ และ ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2010/2011 จากนั้นก็ได้แชมป์ตอนที่กุมบังเหียน เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซีย ฉะนั้นโปรไฟล์ของเจ้าตัวก็คือว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย

สำหรับตอนนี้ วิลลาช-โบอาช อยู่ในช่วงพักงานในวงการฟุตบอล แต่หันไปลองของใหม่นั่นก็คือการเข้าร่วมการแข่งขันขับรถแรลลี่โดยเจ้าตัวเคยเข้าร่วมแข่งแรลลี่หฤโหดดาการ์ แรลลี่ เมื่อปี 2018 และดูเหมือนเขาจะหลงใหลกีฬาด้านความเร็ว จนยังไม่อยากกลับมาทำงานคุมทีมฟุตบอล

3. ราฟาเอล เบนิเตซ

ต้องยอมรับว่านี่คือหนึ่งในผู้จัดการทีมที่มีโปรไฟล์ชั้นยอดเลยทีเดียว โดยเขามีโอกาสได้กุมบังเหียนสโมสรชั้นนำมากมาย อย่าง บาเลนเซีย, ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด เป็นต้น ที่สำคัญ เบนิเตซ ถือเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จเรื่องโทรฟี่แชมป์ด้วย

ความสำเร็จที่สร้างชื่อให้ "ราฟา" ดังกระฉ่อนโลกก็คือการนำ บาเลนเซีย หักปากกาเซียนคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน  2 สมัย ก่อนจะมากอบโกยความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล โดยคว้าแชมป์มากมายรวมทั้งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ !

เบนิเตซ ไปอยู่กับสโมสรไหนมักจะนำทีมได้แชมป์ แต่น่าเสียดายที่ประวัติการทำงานของเจ้าตัวมาเสียนิดหน่อยตอนที่กุมบังเหียน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน และสุดท้ายต้องโดนปลดจากตำแหน่ง กระนั้นด้วยประสบการณ์ที่โชคโชนเชื่อว่าเขายังคงได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรแน่นอน

2. โธมัส ทูเคิ่ล

กุนซือจอมโวยวาย ประสบความสำเร็จตอนที่กุมบังเหียนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะได้รับโอกาสสำคัญเข้ามาคุมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเจ้าตัวนำทีมคว้าแชมป์ ลีก เอิง 2 สมัยและทะลุชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น

หลังจากที่แยกทางกับ "เปแอสเช" ทูเคิ่ล ได้มีโอกาสรับหน้าที่คุม เชลซี ซึ่งที่นี่เองทำให้เขาสร้างโปรไฟล์สุดยอดเมื่อนำ "สิงโตน้ำเงินคราม" คว้าแชมป์ "บิ๊กเอียร์" อย่างยิ่งใหญ่ จากนั้นก็สอยแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ตามด้วย ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ

น่าเสียดายที่ผลงานของเจ้าตัวไม่ค่อยคงเส้นคงวา กอปรกับนิสัยที่เป็นคนโผงผางไม่เกรงใจเจ้าของทีม นั่นทำให้อนาคตของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ จบลงเร็วเหลือเกิน แต่ตำนานที่เจ้าตัวสร้างเอาไว้กับทีมยังคงทำให้สาวก "สิงห์บลูส์" คิดถึงอยู่เสมอ

1. ซีเนดีน ซีดาน

ซีดาน ไม่ใช่แค่เป็นนักเตะระดับตำนานทีมชาติฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ในฐานะผู้จัดการทีมยังนำ เรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย

อดีตเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 1 ของโลก นำ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน นอกจากนี้ยังมีโทรฟี่น้ำพริกน้ำปลาอย่าง ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ คลับ เวิลด์ คัพ เป็นต้น

แม้ว่าจะมีช่วงล้มลุกคลุกคลานกับ "โลส บลังโกส" อยู่บ้าง แต่เจ้าตัวก็ยังคงนำความสำเร็จมาให้กับสโมสร ดังนั้นการที่เขาว่างงานในเวลานี้ จึงเป็นที่หมายปองของบรรดาสโมสรเงินหนาที่พร้อมทุ่มเงินให้กับ "ซิซู" สร้างทีมเพื่อความสำเร็จในอนาคต

ในช่วงที่ผ่านมามักจะมีข่าวลือว่า ซีดาน จะหันไปทำงานคุมทีมชาติ โดยเฉพาะกับ ฝรั่งเศส แต่หลังจากที่ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ต่อสัญญาใหม่กับทัพ "ตราไก่" งานนี้ ตำนานยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด คงจะกลับใจหันมาทำงานในระดับสโมสรอีกครั้ง