มาตามนัด! ลิเวอร์พูล หวนซิวชัยรัวท้ายเกมทุบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไล่บี้ ท็อปโฟร์ 6 แต้ม
Posted 02/03/2023 by siamsport
ลิเวอร์พูล กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง เมื่อเปิดบ้านทุบ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้สองประตูสำคัญในครึ่งหลังจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นอกจากได้ชัยชนะแล้ว "หงส์แดง" ยังเก็บคลีนชีตจากการเล่นเกมลีก 4 แมตช์ติดต่อกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาก่อนทำศึก "แดงเดือด" รับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มแรงที่สนามแอนฟิลด์ สุดสัปดาห์นี้
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ต้องกระตุ้นแข้ง "หงส์แดง" ให้กลับมางัดฟอร์มเก่งให้ได้หากยังหวังติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ หลังแมตช์ล่าสุดทำได้เพียงแค่บุกเสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 แต่ข้อดีก็คือสามารถเก็บคลีนชีตได้ในเกมลีก 3 แมตช์ติดต่อกัน โดยเกมนี้พวกเขาจะได้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กลับมาคุมเกมรับร่วมกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ขณะที่แบ็กซ้าย คอสตาส ซิมิคาส ได้ลงตัวจริง ส่วนแนวรุก ดาร์วิน นูนเญซ ผ่านความฟิตลงทำหน้าที่หน้าเป้า โดยมี ดีโอโก้ โชต้า ได้ยืนทางฝั่งซ้ายแทน โคดี้ กัคโป
ด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟอร์มยังคงลุ่มๆ ดอนๆ สองแมตช์ล่าสุดในลีกเก็บได้แค่แต้มเดียวจากการบุกเสมอ ฟูแล่ม 1-1 แต่ข้อดีของพวกเขาก็คือความมั่นใจในการเล่นหลังเคยเปิดบ้านทุบ ลิเวอร์พูล เละเทะ 3-0 เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม โดยทัพ "หมาป่า" คาดหวังจะตอกย้ำความแค้นให้เจ้าบ้านอีกเกม และคว้าสามคะแนนพร้อมขยับตัวเองให้ออกจากโซนตกชั้นมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นเกมทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีโอกาสมากนัก จนกระทั่งนาทีที่ 3 โมฮาเหม็ด ซาลาร์ มีโอกาสกระชากบอลไปถึงกรอบเขตโทษก่อนจะทำชิ่งหนึ่งสองกับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และบอลทะลักไปถึง สเตฟาน บายเซติช ได้ซัดแต่ตรงตัวโชเซ่ ซา
อีกนาทีถัดมา วูล์ฟส์ มีโอกาสได้สวนกลับโดย ปาโบล ซาราเบีย ได้บอลในเขตโทษก่อนจะซัดเต็มเหนี่ยวแต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ บินปัดออกไปได้อย่างสุดยอด ขณะที่ในจังหวะเตะมุมทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้งแต่ดันโหม่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 6 บายเซติช ส่งบอลให้ ซิมิคาส ได้หลุดเข้าไปเปิดเลียบแต่โดน เคร็ก ดอว์สัน สกัดทิ้งได้ทัน อีกสี่นาทีต่อมา วูล์ฟส์ เสียบอลนอกกรอบเขตโทษของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ ฟาบินโญ่ ตัดสินใจไม่ดีว่าจะส่งหรือยิงสุดท้ายก็เลยโดนตัดออกหลัง
"หงส์แดง" เกือบโดนลงโทษในนาทีที่ 13 เมื่อ โกนาเต้ ส่งบอลไปเข้าเท้า มาเตอุส นูเนส ก่อนเขาจะส่งให้ ราอูล ฮิเมเนซ ที่พยายามยิงประตูแต่โดน ฟาน ไดค์ เข้ามาป้องกันได้หวุดหวิด
เข้าสู่นาทีที่ 16 บายเซติช พลาดท่าเสียบอลง่ายเกินไป ทำให้เขาจำเป็นต้องทำฟาวล์และโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังจากนั้นดูเหมือนเจ้าบ้านจะออกบอลไม่ค่อยแม่นทำให้โดนทีมเยือนได้สวนกลับเป็นครั้งคราว
ในนาทีที่ 19 ซาลาห์ กระชากบอลมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะผ่านเลียดเข้าไปตรงกลางให้กับ โชต้า ซึ่งพยายามตวัดยิงเร็วแต่โดนไม่ดีทำให้บอลหลุดออกเสาไกลอย่างน่าเสียดาย
"เดอะ เร้ดส์" เริ่มกลับมาครองเกมได้อีกครั้ง และพยายามหาช่องเพื่อหวังเจาะตาข่ายทีมเยือนให้ได้ ขณะที่ วูล์ฟส์ อาศัยการเล่นที่เหนียวแน่น และรอจังหวะสวนกลับทุกครั้งที่เจ้าบ้านเล่นพลาด
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกมทั้งสองทีมยังเล่นไม่แน่นอน จนกระทั่งนาทีที่ 32 นูนเญซ มีโอกาสได้ซัดแถวกรอบเขตโทษแต่ไปแฉลบกองหลังวูล์ฟส์ และเกือบทะลักไปถึง "บังโม" แต่ ซา พุ่งออกมารับได้ทันก่อนที่บอลจะหลุดออกเส้นหลัง
อกาสทองของ ลิเวอร์พูล ที่จะได้ประตูขึ้นนำที่สุดเกิดขึ้นในนาทีที่ 39 เมื่อ โชต้า ส่งบอลให้ นูนเญซ ได้เปิดบอลเข้ากลางให้ เอลเลียตต์ ขึ้นโหม่งโล่งๆ ระยะ 6 หลาแต่ดันสะบัดไม่ดีบอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 วูล์ฟส์ โดนตัดบอลตรงกลางสนาม ฟาบินโญ่ ได้บอลกระชากกินแดนเข้าไปก่อนจะส่งให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ครอสบอลไปให้ นูนเญซ ซึ่งพักอกคืนให้ เอลเลียตต์ ซัดเต็มข้อบอลกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ซา ไหวตัวทันพุ่งปัดออกหลังได้หวุดหวิด
จากจังหวะเตะมุม "หนุ่มเทรนต์" เปิดเข้ามาตรงกลางประตู และ ฟาน ไดค์ ได้โอกาสโหม่งเต็มหัวแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานแบบไม่มีลุ้น จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง
เริ่มครึ่งหลังดูเหมือน วูล์ฟส์ จะทำผลงานได้ดีกว่านิดหน่อย และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวได้เป็นครั้งคราว ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังคงพลาดเสียดายง่ายๆ ทำให้การเปิดเกมบุกไม่ต่อเนื่อง
นาทีที่ 55 นูนเญซ มีโอกาสได้บอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะค่อยๆ ลากบอลจี้แนวรับทีมเยือนจากนั้นก็ส่งให้ เอลเลียตต์ ที่ได้โอกาสยิงอีกครั้งแต่โดนไม่ดีทำให้ ซา รับได้สบายๆ
เกมผ่านมาครบ 1 ชั่วโมงสกอร์ยังคงเหมือนเดิม แต่รูปเกม "หงส์แดง" เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ ซาลาห์ เลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนส่งให้ เทรนต์ ที่ตวัดเร็วแต่สั้นไปหน่อยทำให้ถูกตัดออกไปก่อนจะถึง โชต้า
ในนาทีถัดมา "หงส์แดง" ได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โชต้า กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษและเบียดกับกับกองหลังวูล์ฟส์ล้มลง แต่บอลทะลักไปถึง นูนเญซ ที่ซัดเข้าไปไปเหลือซาก แต่น่าเสียดายที่โดนวีเออาร์ริบคืน เนื่องจาก หัวหอกชาวโปรตุกีส ไปทำฟาวล์ก่อน
"หงส์แดง" ไม่หมดกำลังใจพยายามเดินหน้าหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 73 เทรนต์ เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฟาน ไดค์ ขึ้นโหม่งบอลจะเข้าเสาไกลอยู่แล้ว แต่ ซา พุ่งปัดได้แต่ไปเข้าทาง โชต้า ที่ตวัดกลับเข้ากลางให้ ปราการหลังชาวดัตช์ ได้โหม่งอีกครั้งเป็นประตู ส่งเจ้าบ้านนำ 1-0
อีก 5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้ประตูนำ 2-0 เมื่อ ซิมิคาส เล่นชิ่งหนึ่งสองกับ โคดี้ กัคโป ก่อนที่ "กรีก สเกาเซอร์" จะกระชากบอลไปเกือบถึงเส้นหลัง จากนั้นก็เปิดเข้ากลางให้ "บังโม" ทำประตูได้สำเร็จ
ตอนนี้ทัพ "หมาป่า" อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว จำเป็นต้องเปิดเกมบุกเพื่อหวังจะทำประตูตีไข่แตกให้ได้ แต่ยังขาดประสิทธิภาพ ขณะที่ ลิเวอร์พูล พยายามเล่นให้แน่นอน และครองบอลเพื่อรอจังหวะสวนกลับ
เข้าสู่ช่วง 3 นาทีสุดท้ายสถานการณ์ยังคงเป็นของ คล็อปป์ แอนด์ โค. ส่วน วูล์ฟส์ มีลุ้นในช่วงทดเจ็บจากจังหวะเปิดเข้าไปในเขตโทษ แต่ห่าง ดีเอโก้ คอสต้า ทำให้บอลเข้าซอง อลีสซง สบายๆ
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 คว้าสามคะแนนสำคัญทำให้ทีมเก็บไป 39 คะแนนเท่ากับ ฟูแล่ม แต่ประตูได้เสียดีกว่า ส่งให้พวกเขารั้ง อันดับ 6 และห่างจาก สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 เหลือ 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 เกม
ที่สำคัญชัยชนะในแมตช์นี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าพลพรรค "หงส์แดง" ก่อนทำศึก "แดงเดือด" รับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เจมส์ มิลเนอร์ น. 89) , อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , คอสตาส ซิมิคาส, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 79) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น. 89) , ดิโอโก้ โชต้า (โคดี้ กัคโป น. 76)
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (4-2-3-1) : โชเซ่ ซา, เนลซอน เซเมโด้, เคร็ก ดอว์สัน, แม็กซ์ คิลแมน, อูโก้ บวยโน่ (รายัน เอต นูริ น. 24) , รูเบน เนเวส, มาริโอ เลอมิน่า, มาเตอุส นูเนส (ชูเอา โกเมส น. 64) , ชูเอา มูตินโญ่ (ดาเนียล โปเดนซ์ น.64) , ปาโบล ซาราเบีย (อดาม่า ตราโอเร่ น. 46) , ราอูล ฮิเมเนซ (ดีเอโก้ คอสต้า น. 79)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เชียร์ต่อเนื่อง2วัน2คู่ชมฟรี ทรูไอดียิงสด ลิเวอร์พูล บู๊ วูล์ฟส์ 1 มี.ค.นี้ และศึกแดงเดือด!
ศึกแดงเดือดที่แท้ทรูต้องดูที่ทรูไอดี ถ่ายทอดสดสุดยอดแมตช์แห่งปีของคู่รักคู่แค้น ส่งตรงจากประเทศอังกฤษ เอาใจเหล่าสาวกปีศาจแดงและหงส์แดง พลาดไม่ได้กับศึกแดงเดือด ระหว่างลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนวันที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 5 ทุ่มครึ่ง ทางช่อง ทรูพรีเมียร์ฟุตบอล 1แมนยู กำลังคึก! "ซานโช่-กาเซมีโร่" นำทัพรับ เวสต์แฮม เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีม
เอริค เทน ฮาก เพิ่งพา "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์ลีก คัพ โทรฟี่แรกของเกาะอังกฤษ พร้อมอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ 4 รายการ เกมนี้พร้อมส่ง ซานโช่ และกาเซมีโร่ ลงบู๊ในเกมรับมือ เวสต์แฮม ของ เดวิด มอยส์ ศึก เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 16 ทีม คืนวันพุธนี้หลายคนยังงง!โชต้าเผยอาการเดี้ยงตนสุดแปลก
ดีโอโก้ โชต้า ระบุ อาการเดี้ยงตรงน่องของตนมันเป็นอาการที่แปลกสุดๆ พร้อมยอมรับว่าหงุดหงิดมากๆ ตอนที่เห็นว่าทีมมีผลงานที่ย่ำแย่แต่กลับไม่สามารถลงไปช่วยทีมได้เบิร์นลี่ย์ดูดี, อาร์เซน่อลนอนมา! ชี้ 4 ตัวเต็งบอลน่าเชียร์ คืนวันพุธที่ 1 มี.ค. 66
คืนวันพุธต้อนรับเดือนใหม่กันด้วยบอลผู้ดีที่น่าสนใจทั้งลีกและถ้วย เราคัดสรรทีเด็ดมาให้แล้ว...
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
เขี่ยอินโดฯตกรอบ แข้งฟิลิปปินส์ โดนสโมสรอินโดฯยกเลิกสัญญา
ต้องจ่ายหากหวังแชมป์!ยอร์ค ชี้ อาร์เซน่อล ควรเซ็น อิซัค
ที่สุดของหัวใจ! ไกเซโด้ เผยครอบครัวไม่ยอมกินเพื่อซื้อสตั๊ดให้ตน
ไม่ต้องพูดถึงแชมป์!เป๊ป รับ แมนซิตี้ เสี่ยงชวดลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์