แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ ในไตรมาสที่ 2 ของซีซั่นนี้นั้นพวกเขาทำกำไรได้ในระดับหนึ่ง ต่างกับช่วงเวลาเดียวกันของซีซั่นก่อนที่สถานการณ์เลวร้ายจนถึงขั้นขาดทุน แต่หนี้โดยรวมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาล 2022-23 หรือก็คือช่วงเวลา 3 เดือน หากนับย้อนตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2022 ขึ้นไปนั้น พวกเขาทำกำไรได้ 6.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 264.6 ล้านบาท)

ตัวเลขนี้ถือว่าต่างกับช่วงเวลาเดียวกันของซีซั่น 2021-22 แบบฟ้ากับเหว เพราะในไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาลก่อนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดทุนไป 1.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 58.8 ล้านบาท) ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 14.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 600.6 ล้านบาท) จนทำให้รายได้ด้านนี้พุ่งสูงไปอยู่ที่ 78.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,305.4 ล้านบาท)

ที่จริงแล้วรายได้โดยรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลดจาก 185.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,786.8 ล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาลก่อน มาอยู่ที่ 167.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,026.6 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 2 ประจำซีซั่นนี้ แต่ส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะในไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาลนี้นั้นพวกเขาได้เล่นเกมเหย้าน้อยกว่า 2 นัด จนส่งผลให้รายได้จากวันแข่งขันและค่าลิขสิทธิ์มันลดลงตามไปด้วย ทำให้ตรงจุดนี้ไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากนัก

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงจริงๆ คือเรื่องหนี้ เพราะการที่ตอนนี้ค่าเงินของสหรัฐอเมริกาแข็งค่าขึ้นนั้นทำให้หนี้โดยรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด พุ่งไปเป็น 535.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 22,499 ล้านบาท) เข้าไปแล้ว หลังเดิมทีมันอยู่ที่ 477.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20,038 ล้านบาท)