ไร้ฮาลันด์ไร้ปัญหา! เดอบรอยน์ยิง1จ่าย1 แมนซิตี้แซงดับลิเวอร์พูล ตามปืน5แต้ม
Posted 01/04/2023 by siamsport
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำไปก่อน แต่มารัวคืนทีเดียว 4 ประตูรวดแซงดับ ลิเวอร์พูล กระจุย โดยที่ เควิน เดอ บรอยน์ ทั้งยิงทั้งจ่าย ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ลดช่องว่างจาก อาร์เซน่อล เหลือ 5 คะแนน ก่อนที่ "ปืนใหญ่" ดวล ลีดส์ คู่ถัดไป
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำทีมเรือใบสีฟ้าระเบิดฟอร์มคว้าชัย 6 แมตช์รวดทุกรายการ โดยเฉพาะ 2 เกมหลังไม่เสียประตูแถมรัวสนั่นใส่ แอร์เบ ไลป์ซิก 7-0 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก และ เบิร์นลี่ย์ อีก 6-0 ในเอฟเอ คัพ ส่วนบนเวทีพรีเมียร์ลีกเวลานี้ตามจ่าฝูง อาร์เซน่อล 8 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้มีคิวนำทัพ ลิเวอร์พูล ลงแข่งตั้งแต่ออกไปแพ้ เรอัล มาดริด ตกรอบน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางเดือนมีนาคม ส่งผลให้เหลือลุ้นเพียงทำอันดับท็อปโฟร์โดยตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 7 แต้มแต่แข่งน้อยกว่าถึง 2 นัด
แมนฯ ซิตี้ ไร้ดาวยิงตัวเก่งอย่าง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ที่ฟิตไม่ทัน และเป็น ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ลงประจำการแดนหน้าแทน
ส่วน ลิเวอร์พูล ส่ง ดีโอโก้ โชต้า ออกสตาร์ตตัวจริงแทนที่ของ ดาร์วิน นูนเญซ ประสานงานแนวรุกร่วมกับ โม ซาลาห์ และ โคดี้ กัคโป
ครึ่งแรกเปิดฉากมาเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ขึงเกมบุกใส่ต่อเนื่อง และมาได้ลุ้นครั้งแรกในนาทีที่ 10 จากลูกยิงหน้าเขตโทษของ โรดรี้ ได้ตะบันด้วยขวาบอลไปตรงตัว อลีสซง
จากนั้นนาที 15 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูขึ้นนำสุดจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษแล้วเป็น ริยาด มาห์เรซ ปั่นด้วยซ้ายหนีกำแพงบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล โต้กลับมานาที 17 และมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า หลุดเดี่ยวมาในเขตโทษ แล้วแตะถวายพานให้ โม ซาลาห์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายคนเดียวโล่งๆส่งบอลตุงตาข่าย
แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องและตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 27 จากจังหวะสวนกลับบอลไปถึง แจ็ค กรีลิช ทางฝั่งซ้ายก่อนไหลถวายพานมาที่กลางประตูให้ อูฌลี่ยน อัลวาเรซ ได้ชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูไม่เหลือ
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
ครึ่งหลังเล่นมาได้แค่นาทีเดียว แมนฯ ซิตี้ พลิกแซงนำเป็น 2-1 จากจังหวะขึ้นเกมจากแดนกลาง แจ็ค กรีลิช เปลี่ยนแกนไปฝั่งขวาให้ ริยาด มาห์เรซ กระชากไปเปิดเรียดมาที่กลางประตูให้ เควิน เดอ บรอยน์ ชาร์จโล่งๆไม่เหลือ
เท่านั้นไม่พอนาที 54 เจ้าถิ่นขยับหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะต่อบอลกันในเขตโทษ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ซัดไปติดบล็อก เทรนท์ เคลียร์ไม่ขาดกลายเป็นถวายพานให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้ยิงล่อเป้าไม่พลาด
นาที 60 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ลูก 4 เมื่อ แจ็ค กรีลิช ได้บรรจงปั่นด้วยขวาไปเสาไกล แต่ อลีสซง พุ่งปัดออกหลัง
นาที 74 สกอร์ขยับหนีห่างเป็น 4-1 จากจังหวะทำชิ่งระหว่าง กรีลิช และ เดอ บรอยน์ ทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะตบคืนมาให้ กรีลิช ยิงคนเดียวจ่อๆระยะเผาขนไม่เหลือ
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ ถล่ม ลิเวอร์พูล 4-1 ลดช่องว่างจาก อาร์เซน่อล เหลือ 5 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ - เควิน เดอ บรอบน์, โรดรี้ , อิลคาย กุนโดกัน - แจ็ค กรีลิช (โคล พัลเมอร์ น.89), ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, แจ็ค กรีลิช
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอตตาส ซิมิกาส น.70) - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดาร์วิน นูนเญซ น.70), โคดี้ กัคโป, ดีโอโก้ โชต้า (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.70)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
3 คะแนนลุ้นแชมป์กับลุ้นท็อปโฟร์! เจาะ 5 ข้อก่อนเกม ลิเวอร์พูล เยือน แมนซิตี้
ลิเวอร์พูล เตรียมทำศึกสำคัญในการลุ้นอันดับท็อปโฟร์ เมื่อต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 1 เมษายนนี้ โดยพวกเขาหมดสิทธิ์ใช้งาน หลุยส์ ดิอาซ แต่ ดาร์วิน นูนเญซ น่าจะพร้อมไล่ล่าตาข่าย ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งมีสถิติที่ดีเยี่ยมในการรับมือ "หงส์แดง" ในบ้านตัวเอง ยังต้องลุ้นว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ จะฟิตพร้อมช่วยทีมได้หรือไม่ โดยเกมนี้มีความหมายกับทั้งสองทีมอย่างมาก เพราะเจ้าบ้านต้องการสามคะแนนเพื่อเบียดกับ อาร์เซน่อล ในการลุ้นแชมป์ลีก ส่วน "เดอะ เร้ดส์" ต้องการชัยชนะเพื่อต่อลมหายใจสำหรับโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซาลาห์, ฟาน ไดค์ นำทัพ!คาด 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล เกมเยือน แมนซิตี้
คืนวันเสาร์นี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมสุดสำคัญในศึก พรีเมียร์ลีก เพราะจะต้องออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูง ที่ยังคงหวังคว้าแชมป์ ซึ่งถึงแม้เป็นเกมสุดหิน แต่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มองถึงชัยชนะแน่นอน ซึ่งนั่นก็เพื่อเพิ่มโอกาสในการลุ้นติดท็อปโฟร์ และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-3-3 ที่ คล็อปป์ น่าจะเลือกใช้งานในเกมบิ๊กแมตช์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ thisisanfield.com)แมนฯ ซิตี้ ห้ามพลาด! ลุ้น"ฮาลันด์"เร่งฟิต,ลิเวอร์พูล วางสามประสานบุกลุยบิ๊กแมตช์
"เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ เกมนี้สำคัญพลาดไม่ได้เมื่อมีคิวเล่นก่อน อาร์เซน่อล แถมต้องเช็กฟิต "ฮาลันด์" ลงช่วยไหวหรือไม่รอรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มล่าสุดในลีกย้อนไปนัดพ่ายทีมบ๊วย สามประสาน "ซาลาห์,กัคโป,นูนเญซ" พร้อมบุกลุยชิงสามแต้ม ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566กระหายแต้มทั้งคู่! เลสเตอร์ลุ้นแซงขึ้นที่ 12 ใช้ "อิเฮียนาโช่" ซัด, พาเลซ มี "ซาฮา" นำตะบัน
ต้องการคะแนนด้วยกันทั้งคู่เพื่อถอยห่างโซนตกชั้น.."จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ หากคว้าชัยมีโอกาสขยับจากที่ 17 ขึ้นไปที่ 12 โดย เคเลชี่ อิเฮียนาโช่จะนำปิดสกอร์เกมบุกถิ่น "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 1 เม.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier 4 (เวลา : 21.00 น.)
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์