สำหรับตอนนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องเตรียมควานหากุนซือคนใหม่เพื่อมาแทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เพิ่งโดนปลดออกจากตำแหน่งหลังทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยภารกิจสำคัญก็คือการนำทัพ "จิ้งจอกสยาม" หลุดพ้นจากโซนตกชั้นให้ได้

ความพ่ายแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีปี 2016 หล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น และนั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายระหว่าง ร็อดเจอร์ส กับบอร์ดบริหารขาดสะบั้น จนนำไปสู่การแยกทางกันในที่สุด

จากสถานการณ์ในเวลา เลสเตอร์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องหาผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อเข้ามากอบกู้วิกฤติของทีมในช่วงโค้งสุดท้ายซีซั่นนี้ โดยเป้าหมายสำคัญก็คือนำสโมสรอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกต่อไป

แน่นอนว่าช่วงนี้มีกุนซือหลายคนที่มีโปรไฟล์น่าสนใจที่อาจจะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ของทีมได้ โดยบางรายมีประสบการณ์โชกโชนทั้งพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการ บางรายอาจจะไม่ได้มีโทรฟี่ประดับบารมีแต่ผลงานก็น่าสนใจเช่นกัน

ราฟาเอล เบนิเตซ
สำหรับกุนซือชาวสแปนิช ต้องบอกเลยว่ามีประสบการณ์ระดับท็อปในแวดวงลูกหนังโดยเฉพาะในอังกฤษ โดยเขาผ่านมากุมบังเหียนสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล, เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาแล้ว ปัจจุบันเขายังไม่ได้รับงานคุมทีมนับตั้งแต่โดน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ไล่ออกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

โปรไฟล์ของ ราฟา ต้องบอกเลยว่ายาวเหยียดเพราะบนเวทียุโรปก็เคยทำงานกับ บาเลนเซีย, เรอัล มาดริด และนาโปลี รวมทั้งอีกหลายสโมสร ฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมชื่อของเขาจึงเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้ขี่หลัง "สุนัขจิ้งจอก"

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เบนิเตซ อาจจะต้องเจองานหนักในการฉุด เลสเตอร์ ขึ้นมาจากโซนตกชั้น เพราะตอนนี้เหลืออีกไม่กี่เกมเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาห่างจากอันดับ 17 แค่ 1 คะแนนเท่านั้น ฉะนั้นทุกอย่างยังสามารถเป็นไปได้เสมอ

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
กุนซือชาวนอร์เวย์ อาจจะไม่ได้ประสบการณ์โชกโชนเหมือนกับ เบนิเตซ แต่เขาก็ผ่านการทำงานในระดับพรีเมียร์ลีก มาแล้ว โดยเฉพาะตอนที่คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมก็ฟอร์มใช้ได้ แต่การไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ทำให้เขาต้องโดนปลดไปโดยปริยาย

ตำนานกองหน้าซูเปอร์ซับ "ผีแดง" เข้ามากุมบังเหียนสโมสรอันเป็นที่รักแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ โดยในช่วงแรกๆ เขาสร้าง แมนฯ ยูฯ ได้ยอดเยี่ยม แต่ผลงานก็ไม่ได้โดดเด่นตามที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" คาดหวังเอาไว้

อย่างไรก็ตามตลอดช่วงเกือบ 3 ปีที่กุมบังเหียนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจ้าตัวเกือบนำทีมคว้าแชมป์ได้ โดยทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ปี 2021 แต่น่าเสียดายเป็นได้แค่พระรองเท่านั้น

ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล
ฮาเซนฮึทเทิ่ล ต้องตกงานเมื่อช่วงต้นฟดูกาลนี้หลังจากที่ไม่สามารถผลิตผลงานชั้นยอดให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ อย่างไรก็ตามเขายังถือเป็นกุนซือขัดตาทัพที่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับ "เดอะ ฟ็อกซ์" ได้เช่นกัน

กุนซือชาวออสเตรีย สร้างทัพ "นักบุญ" ให้กลายเป็นสโมสรที่มีสไตล์การเล่นสนุกสนานมีความดุดันกล้าได้กล้าเสีย แต่น่าเสียดายที่ผลงานของเขามันไม่ค่อยสำฤทธิ์ผลจนสุดท้ายต้องโดนเฉดหัวออกจากตำแหน่ง

ฮาเซนฮึทเทิ่ล ผ่านประสบการณ์ในการทำงานกับ แอลเบ ไลป์ซิก โดยถึงขนาดนำทีมจบอันดับ 2 ศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในซีซั่นแรกที่คุมทีม แม้ว่าชื่อของเขาอาจจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจแฟนบอลเลสเตอร์ แต่ถ้าดึงตัวมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ในระยะสั้น ก็ถือว่าเขาเป็นโค้ชที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ลูเซียง ฟาฟร์
สำหรับรายนี้ก็มีประสบการณ์โชกโชนเช่นกัน โดยเฉพาะการคุมทีมในยุโรป โดยโค้ชชาวสวิสสร้างผลงานดีมีคุณภาพทั้งกับการทำงานในลีกบ้านเกิด, เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ฉะนั้นนี่คือกุนซือที่ เลสเตอร์ ต้องให้ความสนใจเช่นกัน

ผลงานของ ฟาฟร์ ตอนที่คุมโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ระหว่างปี 2011-2015 ถือว่าโดดเด่นเป็นสง่าที่สุด โดยเขาสามารถเปลี่ยนแปลงทัพ "สิงห์หนุ่ม" จากทีมต้องหนีตกชั้นกลายเป็นทีมมีลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

อย่างไรก็ตามผลงานกับ โบรุเซีย ดอร์ทมุนด์ และ นีซ ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ กระนั้นด้วยการที่ผ่านการทำงานมาอย่างหลากหลาย นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งคนที่จะเข้ามาช่วยให้ เลสเตอร์ หลุดพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายได้

แฟร้งค์ แลมพาร์ด
หนึ่งในบุคคลที่ได้รับการคาดหมายว่าอาจจะเข้ามานั่งเก้าอี้ร้อนในถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ก็คือ แลมพาร์ด โดยปัจจุบันเขายังว่างงาน และแน่นอนว่าหาก "เดอะ ฟ็อกซ์" อยากได้ตัวเขามาทำงาน เจ้าตัวก็พร้อมอ้าแขนรับโอกาสนี้ทันที

"แลมพ์ส" เคยทำงานกับ เชลซี และผลงานก็ถือว่าน่าพอใจแม้จะไม่บรรลุความปรารถนาของบอร์ดบริหารในเรื่องความสำเร็จก็ตาม ขณะที่การคุมทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ถือว่าน่ายกย่องเพราะเขาช่วยทีมอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ แลมพาร์ด ไม่สามารถช่วย เอฟเวอร์ตัน ได้ และนั่นทำให้เขาต้องโดนปลดออกจากตำแหน่ง กระนั้นด้วยความเป็นคนหนุ่มไฟแรงและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาพร้อมที่จะรับงานท้าทายแบบนี้ ถ้า เลสเตอร์ กล้าที่จะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กับเจ้าตัว