สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ควง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จัดคนละตุงพา แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังอัด เอฟเวอร์ตัน ไร้ปัญหา พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 56 แต้มขยับแซง นิวคาสเซิ่ล ขึ้นไปรั้งที่ 3 ก่อนชั่วคราว อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" ได้รับข่าวร้ายเมื่อต้องเช็กอาการบาดเจ็บของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เล่นต่อไม่ไหวถูกเปลี่ยนตัวออกไปในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 8 เมษายน 2566 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เอฟเวอร์ตัน

แมนฯ ยูไนเต็ด หวังชิงผงาดขึ้นไปรั้งอันดับสามเหนือ นิวคาสเซิ่ล ที่ลงเล่นคู่หลัง โดยกุนซือ เทน ฮาก ส่ง แม็กไกวร์ กัปตันทีมยืนหลังอีกครั้ง เช่นเดียวกับ มาลาเซีย รวมถึง วาน-บิสซาก้า ส่วน ชอว์ ชวดเพราะเจ็บ ขณะที่ ดาโล่ต์ กับ วาราน เป็นแค่สำรอง ด้านตัวหลักรายอื่นๆ อยู่ครบทั้ง บรูโน่ และ แรชฟอร์ด แถมข่าวดีคือ คริสเตียน เอริกเซ่น กลับมามีชื่อเป็นสำรองหลังหายหน้าไปตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม

- กังวลกับสถานะในทีม!สื่อแฉแม็คโทมิเนย์พร้อมลาแมนยูหากยังนั่งสำรอง
- ชอว์ หมดสิทธิ์! เทน ฮาก เผยข่าวดี เอริคเซ่น พร้อมบู๊ เอฟเวอร์ตัน
- ต้องเคารพสโมสร!มาร์ติเนซเร้าแข้งแมนยูสู้สุดตัวเพื่อทีม
ฟาก เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ ไดช์ เปลี่ยนตำแหน่งเดียว โดยให้ ซิมม์ส ที่เปลี่ยนลงมากระทุ้งประตูตีเสมอ เชลซี ท้ายเกมเมื่อกลางเดือนมีนาคม ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ขณะที่ ดูกูเร่ ชวดเพราะติดโทษแบน

ครึ่งแรกเล่นมาได้แค่ 3 นาที แมนยู เกือบขึ้นนำเร็ว มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้โอกาสพลิกตัวยิงด้วยขวาในเขตโทษยังติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดทิ้งออกหลัง

แมนยู เร่งเครื่องบุกใส่อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 8 มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวไปซัดจ่อๆในเขตโทษแต่ยิงไปตรงตัว พิคฟอร์ด ปัดทิ้งไปได้

จากนั้น เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสโต้กลับมาบ้าง นาที 19 เอลลิส ซิมส์ ได้โอกาสมาล่อเป้ายิงจ่อๆ แต่ผิดเหลี่ยมบอลผ่านหน้าปากประตูออกหลังไป

นาที 22 แมนยู ได้โอกาสทองอีกครั้ง จากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วางบอลจากแนวรับให้ อันโตนี่ หลุดเดี่ยวลากบอลไปยิงจ่อๆในเขตโทษ แต่ยังติดเซฟ พิคฟอร์ด

จนแล้วจนรอด แมนยู ก็ยังขึ้นนำไม่ได้ นาที 32 บรูโน่ ได้วิ่งมาซัดหน้ากรอบบอลติดไซด์ก้อยข้ามคานออกไป

จนกระทั่งนาที 36 แมนยู มาได้ประตูปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เจดอน ซานโช่ แทงทะลุขช่องให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หลุดเข้าไปยิงตามน้ำยัดเสาแรกเข้าไป

ช่วงทดเวลานาที 45+1 อันโตนี่ ได้หลุดขึ้นมาทางขวาอีกครั้ง ก่อนตั้งป้อมปั่นเน้นๆด้วยซ้าย แต่ พิคฟอร์ด พุ่งปัดทิ้งไปได้อีก ก่อนจะจบครึ่งแรก แมนยู นำ เอฟเวอร์ตัน 1-0

ครึ่งหลัง นาที 67 แมนยู เกือบได้ลูกสองจากจังหวะสวนกลับเร็ว มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ตักบอลไปที่เสาไกลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้โหม่งคนเดียวเน้นๆ พิคฟอร์ด ปัดทิ้งออกไป

จนกระทั่งนาที 71 แมนยู ทิ้งห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ไมเคิ่ล คีน พลาดเสียบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หน้าเขตโทษ ก่อนจะถวายพานมาที่กลางประตูให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ตัวสำรองซัดโล่งๆเข้าไป

นาที 79 เอฟเวอร์ตัน ลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ เชมุส โคลแมน ลองซัดนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา รับเข้าซอง

อย่างไรก็ตาม นาที 80 มาร์คัส แรชฟอร์ด มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องถูกถอดออกจากสนามแล้วเป็น เว้าท์ เวกฮอร์ทส  ถูกส่งลงเล่นแทน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย - มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (เฟร็ด น.76), สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ - อันโตนี่ (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.60), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่ (คริสเตียน เอริคเซ่น น.77) - มาร์คัส แรชฟอร์ด (เว้าท์ เวกฮอร์ทส น.80)

เอฟเวอร์ตัน (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไมเคิ่ล คีน, เจม์ ทาร์คอฟสกี้, เบน ก็อดฟรี่ย์, เชมัส โคลแมน - อิสดริสซ่า กาน่า เกย์ (เจมส์ การ์เนอร์ น.60) - อมาดู โอนาน่า (ทอม เดวีส์ น.60), อเล็กซ์ อิโวบี้, ดไวท์ แม็คนีล, เดมาไร เกรย์ - เอลลิส ซิมส์ (นีล โมเปย์ น.70)