จากสถานการณ์ล่าสุด คาดว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม เชลซี คนใหม่ไม่ช้าก็เร็ว

หลังปลด แกรม พ็อตเตอร์ ออกจากตำแหน่ง และดึง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กลับมาคุมทีมเป็นคำรบสองแบบขัดตาทัพ สิงห์บลูส์ เดินเกมทาบทามกุนซือชื่อดังไปแล้วหลายราย แต่สุดท้ายอดีตนายใหญ่ สเปอร์ส ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋า

หลังว่างงานนับตั้งแต่ถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เศรษฐีเมืองน้ำหอมตะเพิด เป็นที่เชื่อกันว่าผู้จัดการทีม อาร์เจนไตน์ กระหายกลับมาใช้ชีวิตในลอนดอน และตกเป็นข่าวลือกับ ไก่เดือยทอง ที่ต้องการนายใหญ่คนใหม่เช่นกัน แต่เหมือนกับว่า แดเนี่ยล เลวี่ บิ๊กทีมตราไก่กระหายลองของใหม่มากกว่าน้ำพริกถ้วยเก่า และแว่วๆว่าพร้อมดึง ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ อดีตโค้ชทีม บาเยิร์น มิวนิค มารับภาระแทน อันโตนิโอ คอนเต้

ในส่วนของ โปเช็ตติโน่ เชื่อว่าเขาจะเป็นกุนซือคนที่ใช่สำหรับ ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของทีม เชลซี ซึ่งตัดสินใจผิดพลาดมาตลอดนับตั้งแต่เทคโอเวอร์สโมสรดังของเมืองผู้ดีด้วยเหตุผลดังนี้

1. โปรเจ็คต์ที่ลงตัว

อย่าลืมว่า โบลีห์ ลงทุนเสริมทัพให้ เชลซี แบบไม่กลัวล่มจมในช่วงเปิดตลาดสองหนที่ผ่านมาซึ่งแสดงให้เห็นว่า พอช จะได้รับการสนับสนุนเรื่องเม็ดเงินอย่างไม่เป็นปัญหา

ขณะเดียวกัน แน่นอนว่านักธุรกิจชาวอเมริกันต้องการเห็นทีมได้ชูโทรฟี่แทนที่จะแขวนตัวเองอยู่ในอันดับกลางตาราง พรีเมียร์ลีก อย่างที่เป็นอยู่ถึงขนาดมีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงชนิดไม่เห็นฝุ่นถึง 36 แต้ม

แม้จะถูก เปแอสเช ไล่ออก แต่ โปเช็ตติโน่ ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือฝีมือดีของวงการ และเขาหวังได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกระทั่งมี เชลซี อ้าแขนต้อนรับ

อีกทั้งยามนี้ สิงห์บลูส์ กำลังตกต่ำอย่างหนัก พวกเขาจึงเป็นตัวเลือกที่จะทำให้นายใหญ่เลือดฟ้าขาวได้โชว์กึ๋นอย่างเต็มที่หลังจาก พ็อตเตอร์ ตกม้าตายอย่างน่าอนาถทั้งๆที่มีขุมกำลังดีเยี่ยมไม่แพ้สโมสรอื่นอยู่ในมือ

ยิ่งไปกว่านั้น พอช เคยสร้างผลงานพา เซาธ์แฮมป์ตัน คว้าอันดับที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก มาแล้วในซีซั่น 2013/14  ก่อนผละไปกุมบังเหียน สเปอร์ส และพา ไก่เดือยทอง ทะลุเข้าชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019

ฉะนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่า พอช ช่ำชองในการสร้างทีมที่ไร้ความสำเร็จให้ก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ ประกอบกับยามนี้ทั้งเขา และ เชลซี ต่างก็ตกอยู่ในสภาพเลียบาดแผลด้วยกันทั้งคู่ มันจึงเป็นการจับคู่ที่ลงตัวอย่างเหมาะเจาะดีแท้

2. เชลซี พร้อมให้เวลา

คงเพี้ยนน่าดูหากจะมีใครกล้าบอกว่า พอช จะเข้ามาพลิกชะตาของ เชลซี ได้แบบทันทีทันใดในเมื่อ สิงห์บลูส์ ยุคใหม่ในกำมือของ โบลีห์ เต็มไปด้วยปัญหาจนเกินจะเยียวยา

กับการคุมทีม สเปอร์ส ในซีซั่นแรก กุนซือละตินพาทีมเมืองกรุงขยับจากอันดับหกคว้าอันดับห้าในตารางลีกซึ่งแน่นอนว่ายังไม่อาจโควต้าฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ แต่ ไก่เดือยทอง เลือกที่จะให้เวลากับเขาอย่างอดทนจนในที่สุดทีมดังแห่งกรุงลอนดอนก็ผงาดขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่อีกรายของ พรีเมียร์ลีก ในเวลาห้าปีที่ พอช เป็นกุนซือ

สำหรับ เชลซี ณ เวลานี้พวกเขาจำเป็นต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อย่างช่วยไม่ได้แม้ในอดีตหมาดๆพวกเขาจะเป็นทีมที่น่าเกรงขาม แต่พลันที่ โรมัน อบราโมวิช ถูกการเมืองบีบให้ขายสโมสร สิงห์บลูส์ ก็กลายสภาพเป็นแมวน้อยจากการบริหารงานของบอร์ดชุดใหม่

และเพื่อพยายามพาทีมกลับไปมีลุ้นคว้าความสำเร็จ พอช ก็น่าจะได้รับเวลาให้ทำงานไม่น้อยกว่าสามซีซั่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ขณะเดียวกัน ในวัยเพียง 51 ปี เขาจึงเป็นกุนซือหนุ่มที่มีไฟลุกโชน และหากได้รับอิสระในการทำงานก็เชื่อได้เลยว่า พอช จะพาอีกสโมสรของมหานครลอนดอนสร้างชื่อได้แน่

และที่สำคัญ โบลีห์ น่าจะเล็งแต่งตั้งผู้จัดการทีมในระยะยาวด้วยเหมือนที่เขามอบสัญญาให้กับ พ็อตเตอร์ งานนี้จึงมีแนวโน้มน่าเชื่อได้ว่าอดีตกุนซือทีม สเปอร์ส จะไม่ทำให้เศรษฐีแยงกี้ต้องผิดหวังเหมือนในรายของอดีตนายใหญ่ทีม ไบรท์ตัน ที่ได้จับงานชิ้นใหญ่ในเวลาที่เขายังไม่พร้อมทั้งด้วยวัยวุฒิ และคุณวุฒิ

3. แฟนบอลสนับสนุน

ในฐานะที่เคยเป็นผู้จัดการทีม สเปอร์ส มาก่อน โปเช็ตติโน่ น่าจะถูกกองเชียร์ เชลซี แอนตี้หลังมีข่าวโยงกับสังเวียนแข้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์

อย่างไรก็ดี กลายเป็นว่าปฏิกริยาของสาวก สิงห์บลูส์ ไม่ได้เป็นแบบนั้นแม้ทั้งสองทีมจะเป็นคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนก็ตามที

มีการวิเคราะห์กันว่าเหตุที่กองเชียร์ เชลซี ให้การต้อนรับ โปเช็ตติโน่ เนื่องจากชื่นชอบสไตล์ฟุตบอลของเขาจากที่เคยกุมบังเหียน ไก่เดือยทอง

แต่ขณะเดียวกัน มันเป็นเหมือนดาบสองคมเช่นกันเนื่องจากหาก พอช เริ่มงานด้วยการพาทีมออกสตาร์ตได้อย่างเลวร้าย  ความเป็นอริของสองทีมเมืองกรุงจะส่งผลในทางลบอย่างมหาศาลต่อนายใหญ่ อาร์เจนไตน์ อย่างไม่ต้องสงสัย

4. นักเตะโปรดปราน

ไม่เพียงแฟนบอลเท่านั้นที่ส่งสัญญาณต้อนรับ โปเช็ตติโน่ แต่นักเตะ เชลซี ก็เห็นดีเห็นงามด้วยหลังมีข่าวแพร่ออกมาว่าพวกเขากำลังจะได้ยอดโค้ชเลือดฟ้าขาวมาเป็นเจ้านายคนใหม่

จากที่ เดอะ เทเลกราฟ ระบุ ดาวเตะ สิงห์บลูส์ ตื่นเต้นไปตามๆกันหลังได้ยินว่าสโมสรพร้อมดึง พอช มาคุมทีมเนื่องจากทุกคนเล็งเห็นความสามารถของเขาอยู่ก่อนแล้ว

สมัยคุมทีม ไก่เดือยทอง พอช เองก็ได้รับความศรัทธาจากตัวนักเตะถึงขนาดพร้อมวิ่งทะลุกำแพงเพื่อเขา แต่กับ เชลซี เราไม่ได้เห็นสิ่งนี้ในยุคของ พ็อตเตอร์ ซึ่งยังไร้บารมี รวมทั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ด้วยที่กลับมาพาทีมแพ้สี่นัดรวด

5. ความเหมือนที่แตกต่าง

หากมองกันอย่างผิวเผิน โปเช็ตติโน่ เป็นผู้จัดการทีมอีกรายที่บุคลิกในสไลต์เจ้านายที่แสนดี

ไม่ต่างอะไรกับ พ็อตเตอร์ อดีตกุนซือ เชลซี ซึ่งไม่เคยตำหนินักเตะเลยจนกลายเป็นการไม่ได้รับความเคารพในห้องแต่งตัวเนื่องจากเขาไม่มีลูกเฮี้ยบให้ลูกทีมต้องยำเกรง

แต่สำหรับ โปเช็ตติโน่ เขามีทั้งสองบุคลิกซึ่งแม้ส่วนใหญ่เราจะได้เห็นเขามีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย แต่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาสามารถระเบิดอารมณ์ใส่นักเตะได้เช่นกันขณะสั่งการบริเวณริมสนามซึ่งเป็นสิ่งที่กองเชียร์ เชลซี ไม่ได้เห็นจาก พ็อตเตอร์

นอกจากจะมีทั้งพระเดชและพระคุณแล้ว อีกปัจจัยที่ โปเช็ตติโน่ เหนือกว่า พ็อตเตอร์ คือประสบการณ์ดังจะเห็นว่ากุนซืออิงลิชเพิ่งเริ่มสร้างชื่อกับ นกนางนวล ได้ แต่เลือกรับงานช้างกับ เชลซี จนล้มไม่เป็นท่าด้วยกันทั้งคู่ และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่เขาจะได้รับงานชิ้นใหม่หลังล้มเหลวกับ สิงห์บลูส์ อย่างสิ้นเชิง

ต่างไปจาก พอช ที่เริ่มจับงานชิ้นเล็กกับ เอสปันญ่อล ได้อย่างน่าประทับใจโดยพาทีมหนีตายได้สำเร็จก่อนจบซีซั่นในอันดับกลางตาราง รวมทั้งพา เซาธ์แฮมป์ตัน ผงาดขึ้นมาเป็นทีมที่น่าจับตามองก่อนประสบความสำเร็จกับทั้ง สเปอร์ส และ เปแอสเช ซึ่งเขาไม่พลาดพาทีมเงินถังคว้าแชมป์ ลีกเอิง

6. งานถนัดปั้นดาวรุ่ง

วัดกันที่ขุมกำลัง เชลซี ถือเป็นทีมที่สะสมนักเตะเอาไว้ในสังกัดมากมายทั้งสตาร์ดัง ตลอดจนดาวรุ่งที่ส่อแววมีอนาคต

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า พอช  เป็นโค้ชที่ช่ำชองการปลุกปั้นนักเตะหนุ่มเช่นกันโดยเฉพาะกับ สเปอร์ส ซึ่งเขาเคี่ยวเข็ญให้ แฮร์รี่ เคน กลายเป็นดาวซัลโวตัวฉกาจ แถมยังเซ็นสัญญาคว้า ซน ฮึง มิน ดาวยิงกิมจิในวัย 23 ปีที่ไม่มีใครรู้จักให้กลายมาเป็นหนึ่งในปีกชั้นยอดของ ไก่เดือยทอง

ไม่เพียงเท่านั้น เดเล่ อัลลี่ , แฮร์รี่ วิงส์ , แดนนี่ โรส และแม้กระทั่ง ไรอัน เมสัน กุนซือขัดตาทัพของ สเปอร์ส ก็ล้วนผ่านการปลุกปั้นจากเขามาแล้วทั้งสิ้น

ฉะนั้นแล้ว เชลซี จะไม่ผิดหวังแน่หากดึง โปเช็ตติโน่ มาคุมทีมเนื่องจากพวกเขามีพ่อค้าแข้งอายุไม่เกิน 25 ปีอยู่ในสังกัดมากมายไม่ว่าจะเป็น เมสัน เมาท์ , โนนี่ มาดูเอเก้ , คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ คาร์นีย์ ชุควูเอเมก้าอย่างไรก็ดี โปเช็ตติโน่ อาจล้มเหลวไม่อาจจัดการกับสตาร์ดังในทีม เปแอสเช ได้ดีพอ เขาจึงมีโอกาสได้แก้ตัวกับ เชลซี ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับเขาไปในตัวด้วยกับการมีข่าวจ่อล้างบางนักเตะอาวุโสแบบยกชุดในช่วงซัมเมอร์เพื่อสร้างทีมขึ้นมาใหม่

7. ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก?

เท่าที่ผ่านมา เชลซี มีข่าวพัวพันกับกุนซือหลายรายทั้ง หลุยส์ เอ็นรีเก้ , รูเบน อโมริม , นาเกิลส์มันน์ , และ ฯลฯ ก่อนจะมาลงเอยกับ โปเช็ตติโน่  ตามกระแสข่าวล่าสุด

แม้อดีตนายใหญ่ทีมชาติ สเปน กับกุนซือทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะเป็นตัวเลือกสองรายแรกที่ผ่านการเจรจากับ โบลีห์ ไปแล้ว แต่ก็ถูกกาชื่อทิ้งไปแล้วเช่นกันก่อนที่ นาเกิลส์มันน์ จะตกเป็นข่าวเซย์โน เชลซี หลังเข้ารับการสัมภาษณ์งานทั้งๆที่เคยถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าเหนือกว่า พอช ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดี มีข่าวอีกกระแสแฉว่าอดีตกุนซือ เสือใต้ ไม่ใช่เป้าหมายของ เชลซี มาตั้งแต่แรก การเจรจาจึงล้มเหลว และกลายมาเป็น โปเช็ตติโน่ ที่จ่อได้รับงานแทน

ในรายของโค้ชหนุ่มจากแดนไส้กรอก แม้จะประสบความสำเร็จกับการพาทีมโนเนมอย่าง ฮอฟเฟ่นไฮม์ รอดตกชั้นทะยานไปเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ และพา แอร์เบ ไลป์ซิก เข้าถึงรอบตัดเชือกถ้วยหูใหญ่ในซีซั่น 2019/20  แต่การกระเด็นออกจากทีมใหญ่อย่าง บาเยิร์น กลางคันอาจสะกิดให้ เชลซี มองหาตัวเลือกรายอื่นแทน และไม่แคล้วเป็น โปเช็ตติโน่ ที่ลงล็อกกับ เชลซี ในทุกๆด้าน