ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเก็บชัยชนะในแมตช์พบ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ให้ได้ เพื่อไล่กดดัน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการลุ้นอันดับท็อปโฟร์ต่อไป

"สาลิกาดง" และ "ปีศาจแดง เพิ่งเก็บชัยชนะได้ทั้งสองทีมในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ทำแต้มหนี "หงส์แดง" 4 คะแนน ฉะนั้นในบุกถิ่น "จิ้งจอกสยาม" ลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว้า 3 แต้มกลับบ้านให้ได้ ไม่อย่างนั้นความฝันที่จะกลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ค่อยมลายสลายสิ้นแหงๆ

การเยือนถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่นกัน เนื่องจาก เลสเตอร์ ต้องการคะแนนเพื่อโอกาสในการอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ที่สำคัญในการพบกันของทั้งสองทีมที่นี่เจ้าบ้านคว้าชัยชนะ 5 เกมจาก 8 แมตช์หลังสุด

แน่นอนว่าแมตช์นี้ ลิเวอร์พูล กับ เลสเตอร์ ต้องสู้อย่างเต็มที่เพื่อสามคะแนนเพราะมันมีความหมายกับอันดับบนตารางลีกของทั้งสองทีมอย่างมาก ฉะนั้นงานนี้พวกเขาคงต้องจัดชุดที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

"หงส์แดง" ได้พักร่างกายแบบเต็มสูบเนื่องจากไม่มีแมตช์ต้องลงสนามถึง 9 วันเต็มๆ ทำให้พวกเขามีโอกาสได้เดินทางไปพักเบรกที่นครบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์ จะได้ผู้เล่นที่มีความสดเต็มที่ และพร้อมที่จะลงสนามใส่เต็มสูบใส่ทัพ "เดอะ ฟ็อกซ์" ในแมตช์มันเดย์ไนท์

ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์

ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครที่จะฝากผีฝากไข้ได้ดีที่สุดเท่ากับ อลีสซง อีกแล้ว เพราะด้วยแนวรับที่ยังเปราะบาง การมี นายด่านชาวบราซิเลียน ซึ่งเป็นแข้ง "หงส์แดง" คนเดียวในซีซั่นนี้ที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก มาครบทุกนาที ยืนตะหง่านอยู่ตรงเสาประตูคงทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" อุ่นใจ

กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

ด้วยการที่ทั้งสี่คนได้พักร่างกายมาเต็มที่แน่นอนว่าพวกเขามีความสดสุดๆ และพร้อมที่จะลงสนาม โดย "หนุ่มเทรนต์" คงได้รับบทบาท "อินเวิร์ต ฟูลแบ็ก" อีกครั้ง เพราะนี่คือตำแหน่งที่ทำให้เขางัดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้น โกนาเต้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิในการเล่นเกมรับ เพื่อทำหน้าที่ช่วย อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เวลาที่ดันเกมรุก ส่วน ฟาน ไดค์ แม้ช่วงที่ผ่านมาฟอร์มจะหลุดไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นเซนเตอร์แบ็กที่ไว้วางใจได้ที่สุดของทีม ขณะที่แบ็กซ้าย โรเบิร์ตสัน ยังพอพึ่งพาได้บ้างแม้การเล่นเกมรุกจะไม่ค่อยดุดันเหมือนก่อนและจังหวะเปิดบอลก็ไม่ค่อยแม่นมากนัก แต่เกมรับไว้ใจได้เสมอ

กองกลาง : เคอร์ติส โจนส์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

คล็อปป์ คงให้โอกาส โจนส์ ได้แสดงศักยภาพอีกครั้ง หลังช่วงที่ผ่านมาเขาพัฒนาฝีเท้าขึ้น โดยในจังหวะการเล่นเกมบุกถือว่าอันตรายเลยทีเดียว ขณะเดียวกันก็ยังช่วยเกมรับได้ดี และยังครองบอลได้เหนียวแน่น ซึ่งแน่นอนว่าฟอร์มของเขาช่วยแบ่งเบาภาระให้กับ ฟาบินโญ่ ส่วนผู้เล่นมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายคงเป็นหน้าที่ของ กัปตันเฮนโด้ เพราะ นายใหญ่ชาวเยอรมัน อยากได้ความเก๋าของนักเตะมาช่วยประคองทีม อย่างไรก็ตามด้วยความที่ "เดอะ เร้ดส์" ต้องการ 3 คะแนน มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ คล็อปป์ อาจเลือกเน้นเกมบุกเต็มตัว โดยใช้งาน โคดี้ กัคโป ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุก เพื่อเป็นการเพิ่มความดุดันในเกมบุกของทีม

กองหน้า : ดีโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ตามสูตรของ "บอส" แน่นอนว่าสามประสานในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นทั้ง 3 คน เพราะพวกเขารักษาผลงานได้คงเส้นคงวาที่สุด โดยในรายของ "บังโม" คงมุ่งมั่นเต็มที่เพราะเขาขาดแค่ประตูเดียวก็จะถึงหลักยิงได้ 20 ลูกใน พรีเมียร์ลีก ได้เป็นฤดูกาลที่ 5 จาก 6 ซีซั่นหลังสุด อย่างไรก็ตาม นี่คือเกมที่ต้องการชัยชนะอย่างมาก งานนี้อาจได้เห็น คล็อปป์ จัดแนวรุกลงเล่นพร้อมกัน 4 คนโดยขยับให้ กัคโป ยืนต่ำ เพื่อส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า