เจ้าป่ารอดตกชั้น-ส่งแชมป์ให้เรือใบ! อโวนิยี่ ฮีโร่ซัดชัย พา ฟอเรสต์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ อาร์เซน่อล 1-0 การันตีอยู่รอดปลอดภัยแล้วหลังมี 37 แต้ม แม้เหลือโปรแกรมแข่งอีกหนึ่งเกม โดยไม่ต้องสนผลการแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน, ลีดส์ และเลสเตอร์ ซึ่งความพ่ายแพ้ของ "ปืนใหญ่" ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที ซึ่งนับเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 และแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 9 ของสโมสร

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองท้ายก่อนปิดซีซั่น เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 เจ้าบ้าน ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 16 เปิดสนาม ซิตี้ กราวน์ด รับการมาเยือนของรองจ่าฝูง อาร์เซน่อล ซึ่งเกมนี้หาก "เจ้าป่า" คว้าชัยได้จะการันตีอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลนี้ พร้อมส่งให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที

เปิดฉากมาช่วง 10 นาทีแรก เป็นเจ้าบ้านที่บุกกดดันเข้าใส่ทัพปืนอย่างหนักแต่ยังทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

นาที 11 "ปืนใหญ่" หวิดได้ลุ้นหลัง ทรอสซาร์ แทงทะลุช่องให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปซัดเข้ามือ เกย์ลอร์ นาวาส ที่ออกมาปิดมุมพอดี

นาที 16 เกือบเป็น อาร์เซน่อล ที่ได้ลุ้นขึ้นนำหลัง บูกาโย่ ซาก้า เปิดคอนเนอร์ทางด้านขวามาในกรอบ บอลโดน แซร์ช โอริเย่ร์ โขกสกัดไปเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ที่เติมมาเสาไกลโขกหล่นบนคานอย่างน่าเสียดาย

เมื่อทำไม่ได้ กลายเป็นว่า นาที 19 ฟอเรสต์ มาชิงขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ โอเดการ์ด จ่ายบอลพลาดโดน มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ตัดบอลได้ก่อนสวนกลับเร็วควบบอลขึ้นมาแล้วไหลให้ ไทโว อโวนิยี่ ซัดผ่าน อารอน แรมส์เดล เข้าไปให้ "เจ้าป่า" ขึ้นนำ 1-0

นาที 27 อาร์เซน่อล เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลังลูกสูตรจาก ซาก้า เปิดเตะมุมเข้ากลางมาให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ยิงโล่งๆ ไม่คนประกบแต่ซัดด้วยซ้ายหลุดข้างออกไปอย่างน่าเสียดาย

อีกสองนาทีต่อมา เชซุส ได้ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบแต่บอลก็เหินสูงออกไปแบบหมดลุ้น

ช่วงทดเจ็บ นาที 45 +5 ซาก้า เปิดเตะมุมเข้ามาบอลจังหวะสุดท้ายเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ ได้เก็บตกแถวสองแต่ยิงหลุดกรอบออกไป

จบครึ่งแรก ฟอเรสต์ ขึ้นนำ อาร์เซน่อล 1-0

ครึ่งหลัง นาที 48 ฟอเรสต์ เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองขึ้นนำ จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกฟรีคิกของเจ้าถิ่นบอลเลยมาถึง ดานิโล่ ทางขวาตบมาเสาแรกให้ เฟลิเป้ ก่อนโดน แรมส์เดล พุ่งปัดปลายนิ้วออกหลังหวุดหวิด

นาที 60 อาร์เซน่อล เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง กาเบรียล มากัลเญส ตักบอลทะลุให้ บูกาโย่ ซาก้า หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังไม่ผ่านมือ นาวาส ที่ปัดออกมาได้

อีกสามนาทีถัดมา มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนสองคนรวดส่ง คีแรน เทียร์นี่ย์ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงแทน ยาคุบ คีวีออร์ และกรานิต ชาคา

นาที 67 อาร์เซน่อล เล่นกันพลาดอีกและเกือบเสียประตูหลัง ปาร์เตย์ ส่งคืนหลังไปติด เบน ไวท์ ก่อนจะโดน มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ฉกไปซัดเสาแรกแต่ยังดีที่ยิงเข้าข้างตาข่าย

ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล แทบจะหาโอกาสยิงเข้ากรอบไม่ได้เลย นาที 90 เจ้าบ้านได้ลุ้นหลัง ชีค คูยาเต้ โขกต่อมาให้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ แต่ยิงไม่ผ่านมือ แรมส์เดล

ช่วงทดเจ็บ "ปืนใหญ่" บดอย่างหนักหวังจะทำประตูตีเสมอ แต่ไม่เป็นผลหลังผู้ตัดสินเป่าจบเกมเป็น ฟอเรสต์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ อาร์เซน่อล 1-0 การันตีอยู่รอดปลอดภัยแล้วหลังมี 37 แต้ม แม้เหลือโปรแกรมแข่งอีกหนึ่งเกม โดยไม่ต้องสนผลการแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน, ลีดส์ และเลสเตอร์ ซึ่งความพ่ายแพ้ของ "ปืนใหญ่" ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฟอเรสต์ (3-4-2-1) : เกย์ลอร์ นาวาส - โจ วอร์รอลล์, มุสซ่า เนียกาเต้, เฟลิเป้ - แซร์ช โอริเย่ร์, ไรอัน เยตส์, โอเรล ม็องกาล่า, เรนาน โลดี้ - มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, ดานิโล่ - ไทโว อโวนิยี่

อาร์เซน่อล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล - เบน ไวท์, ยาคุบ คีวีออร์, กาเบรียล มากัลเญส, กรานิต ชาคา - มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, จอร์จินโญ่ - บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เชซุส, เลอันโดร ทรอสซาร์

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์