หลังจากเพิ่งอกหักน้ำตาร่วงได้เพียงแค่เหรียญเงินในซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา สำหรับทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี ซึ่งเป็นการพลาดท่าชวดแชมป์บอลชายซีเกมส์ 3 ครั้งติดต่อกันต่อจากปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์ และปี 2021 (เลื่อนมาจัดปี 2022) ที่เวียดนาม

ถึงจะผิดหวัง เสียใจ แต่มันก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องโฟกัสมากที่สุดของช้างศึก ยู-23 คือทัวร์นาเมนต์ข้างหน้าที่รออยู่ตลอดปี 2023 และต่อยอดไปถึงปี 2024 เพราะเป้าหมายสูงสุดของ ส.บอลไทย ลั่นเป้าไว้ว่าทีมชุดนี้ ต้องไปโลดแล่นบนฟลอหญ้าในโอลิมปิก 2024 ให้ได้

หลังจากนี้ภารกิจของทีมชาติไทย ยู-23 ปี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชหระ" อิสสระ ศรีทะโร จะมีรายการให้ทดลองทีมถึง 2 รายการ ก่อนลงเล่นคัดเอเชียนคัพช่วงปลายปี ซึ่งเป้าหมายแรกคือต้องคว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่กาตาร์ให้ได้สถานเดียว

แต่ก่อนจะถึง ณ เวลานั้น แข้งไทย ยู-23 จะต้องลงเล่นในศึกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์อาเซียน 2023 ระหว่างวันที่ 17-26 ส.ค.2566 ที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย (ร่วมกลุ่มเอ กับ กัมพูชา, บรูไน, เมียนมา) กับเป้าหมายทวงแชมป์คืนมาให้ได้ หลังจากหนที่แล้วปี 2022 ดันพ่าย เวียดนาม 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ

จากนั้นจะมีเวลาอีกราว ๆ 3 สัปดาห์ ก่อนจะยกพลบุกเมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อไปลุยศึกฟุตบอลชายในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ระหว่างวันที่ 19 ก.ย. - 8 ต.ค.2566 และภารกิจคือต้องเข้ารอบน็อคเอ้าท์ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพราะครั้งที่แล้วในปี 2018 ที่อินโดนีเซีย ดันร่วงตกรอบตั้งแต่แบ่งกลุ่ม

เมื่อเสร็จสิ้นลงฟาดฟัน 2 ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว จะมีเวลาเตรียมทีมราว 1 เดือนเต็ม คราวนี้ถึงเวลาลงเตะรายการที่สำคัญสุด ๆ กับศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชียน 2024 รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.2566 ที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย (ร่วมกลุ่มเอช กับ มาเลเซีย, บังกลาเทศ, ฟิลิปปินส์)

แน่นอนการแข่งขันรอบคัดเลือก ได้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 11 กลุ่ม โดยคัดทีมแชมป์กลุ่ม 11 ทีม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ไปรวมกับ "เจ้าภาพ" กาตาร์ เป็น 16 ทีมสุดท้าย เพื่อไปแข่งในรอบสุดท้ายในปีต่อไป

หากเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ "ช้างศึกยังบลัด" ชุดนี้ จะตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชียน 2024 ซึ่งจะโม่แข้งระหว่างวันที่ 15 เม.ย. - 3 พ.ค.2567 โดยในรอบสุดท้ายนี้จะคัดเลือกหาตัวแทนทวีปเอเชีย จำนวน 3.5 ทีมไปเล่นฟุตบอลชายในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ระหว่างวันที่ 26 ก.ค. - 11 ส.ค.2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อไป

แม้อาจจะดูว่าเวลาเหลืออีกหลายเดือน ทว่าอย่าชะล่าใจไป หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้า หรือได้นักเตะมารวมตัวฝึกซ้อมกันให้มากขึ้น โอกาสที่จะไปถึงจุดมุ่งหมายคือ "โอลิมปิก 2024" คงเลือนลางแน่นอน

เชื่อว่าหลังจากนี้ ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช ยู-23, สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, บริษัท ไทยลีก จำกัด ฯลฯ คงจะระดมมันสมองในการวางแพลนล่วงหน้า การจัดสรรโปรแกรมบอลลีก-ทีมชาติ โดยเฉพาะการคุยกับบรรดาสโมสรเพื่อขอตัวนักฟุตบอล ทุกสิ่งอย่างล้วนสำคัญหมดทั้งสิ้น