ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ระบบยืดหยุ่นทุกรูปแบบ! 5 แนวทางที่ ลิเวอร์พูล สามารถใช้งาน แม็ค อัลลิสเตอร์

ระบบยืดหยุ่นทุกรูปแบบ! 5 แนวทางที่ ลิเวอร์พูล สามารถใช้งาน แม็ค อัลลิสเตอร์

Posted 12/06/2023 by siamsport

การได้ตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการยกเครื่องแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการนักเตะรายนี้มานานแล้ว เพราะศักยภาพของเขาน่าจะเข้ามาเติมเต็มแท็คติกที่เจ้าตัวต้องการนำมาใช้กับทีมในฤดูกาลใหม่

มิดฟิลด์แชมป์โลก ทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และทีมชาติอาร์เจนตินา ด้วยเหตุนี้ "หงส์แดง" จึงตัดสินใจคว้าตัวมาร่วมทัพ เพราะนักเตะมีเทคนิคทุกอย่างตามที่ คล็อปป์ ต้องการ

สำหรับการมากของ แม็ค อัลลิสเตอร์ น่าจะทำให้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน สามารถปรับระบบได้หลากหลายมากขึ้น เพราะนักเตะมีศักยภาพหลายอย่าง และมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะใช้ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ เหมือนกรณีที่เคยใช้กับ มาริโอ เกิทเซ่ สมัยที่ทำงานที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ฉะนั้นด้วยความสามารถของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะได้เห็นเขาทำหน้าที่ทั้งการเป็นจอมทัพ หรือโฮลดิ้งมิดฟิลด์ ก็ได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับทีม ในการที่จะมีระบบการเล่นที่ยืดหยุ่นในแต่ละเกมเพื่อให้คู่แข่งจับทางยากมากขึ้น

1. ระบบ : 4-2-1-3

สำหรับระบบแรกถือเป็นสิ่งที่คุ้นเคยสำหรับ คล็อปป์ โดยเขาจะเลือกจับ แม็ค อัลลิสเตอร์ ยืนสูงในแผงมิดฟิลด์ 3 คน ขณะที่ ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะยืนต่ำทั้งคู่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ ดาวเตะฟ้าขาว ได้เล่นเกมบุกอย่างเต็มที่ ขณะที่ในแนวรุก 3 คนที่อยู่หน้าแผงมิดฟิลด์ มีความเป็นไปได้สูงที่ "หงส์แดง" จะใช้งาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี้ กัคโป ส่วน แม็ค อัลลิสเตอร์ จะทำหน้าที่รับผิดชอบคอยเชื่อมเกมรุก และประสานงานกับแดนกลาง

2. ระบบ : 4-1-2-3

ถ้า กุนซือเลือดด๊อยท์ช อยากมีประสิทธิภาพในเกมบุกมากยิ่งขึ้นงานนี้เขาคงจัดไลน์อัพแผงมิดฟิลด์ด้วยออปชั่นสอง โดยหนึ่งในนักเตะอย่างกัปตันเฮนโด้ หรือ ฟาบินโญ่ คงจะต้องถอยลงมารับบทบาทเกมรับเต็มตัว ขณะที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ต้องขยับไปยืนทางฝั่งขวา ด้าน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยืนฝั่งซ้าย งานนี้ทั้งสองคนจะคอยทำหน้าที่เชื่อมเกมบุกกับ 3 ประสานแดนหน้า ซึ่งระบบนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อ "เดอะ เร้ดส์" ต้องการกดดันคู่แข่งมากยิ่งขึ้น

3. ระบบ : 4-1-4-1

ออปชั่นที่สามต้องบอกว่าเน้นเกมบุกมากกว่าออปชั่นที่สองเข้าไปอีก ในกรณีที่ ลิเวอร์พูล ต้องปะทะกับทีมที่เน้นตั้งรับลึก โดยแผนนี้จะทำให้ คล็อปป์ สามารถจัดส่งแนวรุกลงเล่นพร้อมกัน 4 คนรวมทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ ด้วย ขณะที่ ฟาบินโญ่ จะคอยช่วยเล่นเกมรับเต็มตัว ส่วน แข้งแชมป์โลก จะยืนทำหน้าที่อยู่ในแผงมิดฟิลด์เคียงข้างกับ 4 กองหน้าได้แก่ ดีโอโก้ โชต้า ซึ่งบทบาทนี้คล้ายคลึงกับที่เขาเคยเล่นให้กับ ไบรท์ตัน  ส่วน "บังโม" ยังคงยึดมั่นในตำแหน่งปีกขวา สำหรับ กัคโป ยืนทางซ้าย สำหรับ นูนเญซ ทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า

4. ระบบ 4-1-2-3

สำหรับระบบนี้จะคล้ายๆ กับระบบที่สอง โดยจะเห็นได้ว่าไลน์อัพในแผงมิดฟิลด์นั้น คล็อปป์ จะเลือกใช้งานสามคน โดยสองคนจะถูกดันขึ้นไปยืนสูงเพื่อที่จะได้เล่นเกมรุกมากขึ้น แต่สำหรับออปชั่นนี้ เอลเลียตต์ กับ สเตฟาน บายเซติช จะได้ทำหน้าที่ดังกล่าว ขณะที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ จะรับบทบาทแทน เฮนเดอร์สัน หรือ ฟาบินโญ่ ด้วยการยืนต่ำคอยเน้นเกมรับ แน่นอนว่านี่คือบทบาทที่เขาใช้ในการเติมเต็มการเล่นให้กับ "เดอะ ซีกัลส์" และยังสามารถเล่นแบบนี้ได้อีกกับ ลิเวอร์พูล

5. ระบบ 4-2-2-2

ถ้าหาก คล็อปป์ ต้องการเล่นกองหน้าสองตัว ก็ยังมีออปชั่นอื่นที่สามารถใช้งาน แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้ โดยในสถานการ์นี้มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์จะได้เป็นส่วนหนึ่งในแผงกลางคู่ร่วมกับ ฟาบินโญ่ ขณะที่ ซาลาห์ จะเล่นเป็นแนวรุกฝั่งขวา ส่วน หลุยส์ ดิอาซ ยืนฝั่งซ้าย สำหรับแผงหน้าจะเป็นหน้าที่ของ นูนเญซ กับ กัคโป ซึ่งนี่คือระบบที่นายใหญ่ชาวเยอรมันจะได้ใช้งานกองหน้าชั้นดีสองคนลงเล่นพร้อมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »