อย่าเกิดอีก! สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC พิจราณาบทลงโทษผู้เล่นและสต๊าฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย เพิ่ม พร้อมแบนคนละ 6 เกม บวกปรับเงินอีกเกือบครึ่งล้านบาท

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 จนเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนจรรยา ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อลงโทษผู้ก่อเหตุ โดยมี พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน เป็นตัวโต๊ะ

ก่อนจะมีมติลงโทษผู้เล่นรวมถึงโค้ช 5 คน ได้แก่

ประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู
มายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม
ภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม
*ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ในนาม ทีมชาติไทย ทุกชุด คนละ 1 ปี

โสภณวิชญ์ รักญาติ นักฟุตบอล
ธีรภักดิ์ เปรื่องนา นักฟุตบอล
*ถูกพักการเข้าร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทยทุกชุด เป็นเวลา 6 เดือน

ล่าสุดจากเหตุการณ์ดังกล่าว สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC ได้เข้ามาพิจารณาเพื่อลงโทษผู้ก่อเหตุ ซึ่งล่าสุดบทลงโทษออกมาแล้ว ปรากฎว่ามีผู้ที่ถูกลงโทษซ้ำและเพิ่มเติม ดังนี้

ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช (นักฟุตบอล) แบน 6 นัด
ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท (นักฟุตบอล) แบน 6 นัด
ธีรภักดิ์ เปรื่องนา (นักฟุตบอล) แบน 6 นัด
โสภณวิชญ์ รักญาติ (นักฟุตบอล) แบน 6 นัด ปรับ 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,670 บาท)
ประสบโชค โชคเหมาะ (โค้ชผู้รักษาประตู) แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,670 บาท)
มายีด หมัดอะด้ำ (เจ้าหน้าที่ทีม) แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,670 บาท)
ภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก (เจ้าหน้าที่ทีม) แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,670 บาท)
บำรุง บุญพรม (สต๊าฟฟ์โค้ช) แบน 6 นัด
ปรับเงินสมาคมฯ 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 346,700 บาท)
คาดโทษทั้งหมด หากก่อเหตุลักษณะเดิมอีก

รวมปรับเงินทั้งสิ้น 485,380 บาท

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะส่งบทลงโทษให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ตามหนังสือที่ส่งให้สมาคมฯ ลงโทษผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม และคาดว่าจะมีการมอบเงินโบนัสให้กับนักฟุตบอลที่ไม่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป