เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงต้องพยายามเสริมทัพเพื่ออุดรอยรั่วในขุมกำลังของทีม โดยช่วงที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ได้สองกองกลางอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบซไล แต่ดูเหมือนทีมยังต้องการมิดฟิลด์อีกซักคน เช่นเดียวกันตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ "หงส์แดง" ต้องดึงมาร่วมทัพให้ได้ เพื่อทำให้ขุมกำลังสมบูรณ์แบบที่สุด

สำหรับตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องการจะต้องเป็นผู้เล่นสูงใหญ่, แข็งแกร่ง, รวดเร็ว, ถนัดเท้าซ้าย และที่สำคัญสามารถเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้ด้วย

แน่นอนว่ากองหลังในอุดมคติของ คล็อปป์ ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี เพราะช่วงที่ผ่านมา "เดอะ เร้ดส์" ล็อกเป้าแนวรับที่กุนซือเลือดด๊อยท์ช อยากได้เอาไว้แล้ว แต่ประเด็นก็คือทีมจะสามารถคว้าตัวมาร่วมทัพได้หรือไม่

ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีกองหลังที่ไว้วางใจได้เพียงแค่ 2 คนนั่นก็คือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ส่วน โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป ผลงานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไม่สามารถฝากความหวังเอาไว้ได้เลย ด้วยเหตุนี้ทำให้ คล็อปป์ อยากได้กองหลังที่มีประสบการณ์ และเล่นได้อย่างที่เขาต้องการเพื่อทำให้แผงแบ็กโฟร์แข็งแกร่ง

1. ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

สำหรับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มีทุกอย่างที่ คล็อปป์ ต้องการ โดยนักเตะรายนี้อายุเพียง 21 ปีเท่านั้น แต่เต็มไปด้วยประสบการณ์เพราะเป็นแข้งหลักของ แอร์เบ ไลป์ซิก กับทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งเคยทะลุรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ฟุตบอลโลก มาแล้ว

แนวรับจอมแกร่งเจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตรเคยเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก และแบ็กซ้ายให้กับต้นสังกัดกับทีมชาติมาแล้ว ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ลงตัวสำหรับการมายืนคุมแผงหลังให้กับ "เดอะ เร้ดส์"

สำหรับสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือผลงานของ กวาร์ดิโอล โดยนักเตะมีสถิติในการสร้างโอกาสเพื่อทำประตูเฉลี่ย 1.04 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งเหนือกว่าผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กตัวจริงชุดปัจจุบันของลิเวอร์พูล นอกจากนี้ ดาวเตะเลือดโครแอต ยังโดดเด่นในเรื่องการครองบอล พร้อมทั้งมีสถิติการพาบอลขึ้นหน้าเฉลี่ย 1.0 ครั้งต่อ 90 นาที

แน่นอนว่านี่คือกองหลังในฝันสำหรับ คล็อปป์ และสาวก "เดอะ ค็อป" แต่โชคร้ายที่ กวาร์ดิโอล กำลังจะย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร (ราว 3,800 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์นี้

กระนั้นดีลนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะติดปัญหาหลายอย่าง ด้วยเหตุนี้ทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" ยังคาดหวังว่าอาจจะมีปาฎิหาริย์ซึ่งบอกเลยว่าริบหรี่ เพราะด้วยค่าตัวที่ ไลป์ซิก ต้องการ มันมากเกินกวาที่ ลิเวอร์พูล จะจ่ายได้

2. ปิเอโร่ อินกาปี

กรณีของ กวาร์ดิโอล ดูแล้วเปอร์เซนต์ได้ตัวแทบจะเป็นศูนย์ แต่ ลิเวอร์พูล ยังพอมีเป้าหมายที่น่าสนใจอีกรายนั่นก็คือ ปิเอโร่ อินกาปี แนวรับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น โดยนักเตะอยู่ในคอนเซปป์ของ คล็อปป์ นั่นก็คืออายุ 21 ปี ประสบการณ์สูง และเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง

อินกาปี เป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญของ "ห้างขายยา" ยุคที่ ชาบี อลอนโซ่ กุมบังเหียน ซึ่งเขามักใช้ระบบการเล่น 3-4-3 โดยใช้แผงกองกลางที่คล้ายกับ "หงส์แดง" แม้ว่าจะเน้นการเล่นทางข้างจากตำแหน่งวิงแบ็กมากกว่าก็ตาม

กองหลังทีมชาติเอกวาดอร์ สามารถเล่นทั้งตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก หรือวิงแบ็กซ้ายก็ได้ โดยจุดเด่นของนักเตะก็คือการเน้นเกมรุก และบุกโจมตีคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ อยากได้จากนักเตะแนวรับ

ค่าเฉลี่ยในการเล่นของ อินกาปี ก็ไม่ธรรมดาโดยมีสถิติการพาบอลขึ้นหน้า  1.85 ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 0.44 ครั้งต่อ 90 นาที ขณะที่สถิติในการเล่นเกมรับก็แข็งแกร่งสามารถเสียบสกัดคู่แข่งได้ 2.32 ครั้งและป้องกันผู้เล่นฝ่ายรุก 1.38 ครั้งต่อ 90 นาที

ผลงานของ อินกาปี ใกล้เคียงกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โดย ดาวเตะเลือดสกอตแลนด์ เป็นผู้เล่นที่มักจะวิ่งขึ้นไปเติมเกมบุก แต่กระนั้น "ร็อบโบ้" เป็นผู้เล่นที่ตัวไม่สูง ต่างจากแข้งเอกวาดอร์ที่สูง 183 เซนติเมตร ดังนั้นนี่คือออปชั่นที่ทำให้ คล็อปป ต้องพิจารณา

3. นาอิฟ อเกิร์ด

สำหรับอีกหนึ่งออปชั่นที่ ลิเวอร์พูล สนใจนั่นก็คือ นาอิฟ อเกิร์ด แนวรับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยนักเตะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติโมร็อกโกในศึกฟุตบอลโลก 2022

อเกิร์ด เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของ "ขุนค้อน" โดยเฉพาะการช่วยให้ต้นสังกัดรอดจากการตกชั้น และประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

สถิติการเล่นของ ดาวเตะวัย 27 ปี ซึ่งมีความสูงถึง 190 เซนติเมตรน่าสนใจไม่ใช่น้อยโดยเขามีความโดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศ, เน้นการเติมเกมบุก และทำได้สองประตูในเกมพรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุดด้วย

หลังจากเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ อเกิร์ดได้แสดงศักยภาพที่โดดเด่นในตำแหน่งแผงหลังตอนที่อยู่กับ แรนส์ และสร้างชื่อจากการเล่นตำแหน่งนี้ โดยนักเตะมีสถิติในการเล่นเกมรับแข็งแกร่งมากๆ ค่าเฉลี่ยในการป้องกันอยู่ที่ 1.47 ครั้งต่อ 90 นาที และเคลียร์บอลจังหวะอันตราย 4.46 ครั้งต่อ 90 นาที

ผลงานของ อเกิร์ด สามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาเกมรับของ ลิเวอร์พูล ได้ เพราะฤดูกาล 2022/2023 กองหลัง "หงส์แดง" ค่อนข้างเล่นได้หละหลวม แต่การที่นักเตะอายุ 27 ปีแล้ว และไม่เคยเล่นตำแหน่งฟูลแบ็ก อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ คล็อปป์ ตัดใจไม่ดึงตัวมาร่วมทัพ

4. ดาวิด ฮันส์โค

หนึ่งในผู้เล่นแนวรับที่ไม่ค่อยมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล แต่ผลงานน่าสนใจมากๆ นั่นก็คือ ดาวิด ฮันส์โค โดยแข้งรายนี้เป็นหนึ่งในแข้งคีย์แมนของ เฟเยนูร์ด ที่ช่วยนำสโมสรผงาดคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

แนวรับชาวสโลวัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหลังที่แกร่งที่สุดในลีกดัตช์ โดยผลงานของเขาโดดเด่นการ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่เพิ่งย้ายไปเล่นกับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ช่วงซัมเมอร์นี้

ฮันส์โค มีค่าเฉลี่ยสร้างโอกาสยิงประตู 2.13 ครั้ง, การจ่ายบอลขึ้นหน้า 7.44 ครั้ง และการสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง 2.16 ครั้งต่อ 90 นาที ที่สำคัญนักเตะเล่นได้อย่างโดดเด่นทั้งการจ่ายบอลและพาบอลขึ้นหน้า นอกจากนี้ยังขึ้นไปสร้างความอันตรายจากลูกตั้งเตะ และโอเพ่นเพลย์ด้วย

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ ฮันส์โค มีความสามารถในการเปิดบอลยาวที่แม่นยำเหมือน ฟาน ไดค์ และยังมีเทคนิคการเปิดบอลจากริมเส้นคล้ายกับ โรเบิร์ตสัน ด้วย แถมยังเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจังหวะการเสียบที่แม่นยำในกรอบเขตโทษ 

นอกจากนี้ ฮันส์โค ยังเคยเล่นในตำแหน่ง "อินเวิร์ต ฟูลแบ็ค" ทางฝั่งขวา และ "แอ็คแท็คกิ้ง ฟูลแบ็ค" ทางฝั่งซ้าย ให้กับ เฟเยนูร์ด ขณะเดียวกันเขายังสามารถขยับไปยืนคลุมพื้นที่ทางริมเส้นก็ได้ เหมือนกับบทบาทของ โกนาเต้ ที่คอยสนับสนุน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์