กลางรับต้องมาทั้ง 2 ทีม ! เจาะ 5 ข้อ เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล เกมแรกซีซั่น 2023/2024
Posted 14/08/2023 by siamsport
ลิเวอร์พูล เปิดฤดูกาล 2023/2024 ด้วยการบุกเสมอ เชลซี 1-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ "หงส์แดง" ใช้สองผู้เล่นใหม่อย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล ลงเป็นตัวจริงซึ่งทั้งคู่ทำผลงานได้น่าประทับใจเลยทีเดียว ขณะที่เจ้าบ้านฟอร์มดุดันเหลือเกิน และสร้างโอกาสได้ดี แต่จังหวะจบสกอร์ไม่ค่อยคมเท่าไหร่ โดยรวมแล้วทั้งสองทีมเล่นได้สูสี ฉะนั้นเกมนี้การแบ่งแต้มถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว
1. อลีสซง เซฟแต้มให้ทีม
ถ้าจะมองหาผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดของ ลิเวอร์พูล บางคนอาจจะมองไปที่ หลุยส์ ดิอาซ หรือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แต่หลายคนยกให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ โกล์ชาวบราซิเลียน ที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมกลับบ้านพร้อม 1 คะแนน
"พ่อหมี" แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่นิ่งมากๆ และยังคงมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วในการเซฟจังหวะอันตรายทำให้ทีมไม่เสียประตู โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่เซฟลูกยิงของ นิโกล่าส์ แจ็คสัน รวมทั้งการอ่านเกมที่เฉียบคมในจังหวะที่ มิไคโล มูดริค หลุดเข้าไปในเขตโทษ
นอกจากนี้ นายทวารทีมชาติบราซิล ยังสามารถจัดการกับลูกโด่งได้หมด ส่วนการสร้างเกมจากแดนหลังก็ทำได้ดีไม่มีที่ดี และการออกมาตัดบอลช่วยแบ่งเบาภาระของกองหลังได้ดีเยี่ยมมากๆ
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงยังคงไว้วางใจ อลีสซง ให้ทำหน้าที่มือ 1 อย่างต่อเนื่อง ส่วน ควีวิน เคลเลเฮอร์ โกลอนาคตไกล ต้องอดทนและศึกษาฟอร์มการเล่นของรุ่นพี่อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองไปอีกซักพักใหญ่ๆ
2. แนวรุก ลิเวอร์พูล ยังอันตราย
จะว่าไปแล้วสาวก "เดอะ ค็อป" คงสงสัยไม่น้อยที่ คล็อปป์ ตัดสินใจจับ ดีโอโก้ โชต้า ลงเล่นเป็นหน้าเป้า โดยมี หลุยส์ ดิอาซ ยืนฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แน่นอนว่าผลงานของ โชต้า ในแมตช์นี้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ แต่สำหรับ ดิอาซ กับ "บังโม" ต้องบอกว่ายอดเยี่ยม โดยทั้งสองคนมีส่วนในการช่วยให้ทีมได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 18
จังหวะการผ่านบอลที่เฉียบคมของ ซาลาห์ และการวิ่งเข้าชาร์จบอลอย่างแม่นยำถือเป็นการเล่นเกมรุกที่สมบูรณ์แบบจากทั้งสองคน ที่สำคัญฟอร์มของ ดิอาซ ยังอันตรายทุกครั้งที่มีโอกาสกระชากลากเลื้อย ขณะที่ "บังโม" ก็เกือบมีชื่อทำประตูเพราะซัดไปชนคานครั้งหนึ่ง และอีกครั้งยิงเข้าไปแล้วแต่โดน "วีเออาร์" ริบคืนเพราะล้ำหน้า
ขณะที่ในครึ่งหลัง ดาร์วิน นูนเญซ ที่ลงเป็นตัวสำรองแม้จะพลาดทำหมูหกจังหวะจับบอลลั่นหน้าประตู แต่เขาก็โชว์ให้ทักษะที่แข็งแกร่ง และเกือบซัดประตูชัยให้ทีมในช่วงท้ายเกมได้เช่นกัน
สำหรับตอนนี้ คล็อปป์ คงต้องกลับไปทบทวนเรื่องตำแหน่งของ กัคโป กับ โชต้า เพราะรายแรกดูเหมือนจะไม่เหมาะกับการยืนตรงกลาง ขณะที่รายหลังน่าจะสวทบทซูเปอร์ซับมากกว่าลงตัวจริง !
3. สองแข้งตัวใหม่ทำผลงานโดดเด่น
ลิเวอร์พูล ยกเครื่องแดนกลางใหม่หมดสำหรับฤดูกาลนี้ โดยการส่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล ลงตัวจริง ขณะเดียวกันก็เลือกใช้งาน โคดี้ กัคโป ประจำการในตำแหน่งมิดฟิลด์ฝั่งซ้าย
แมตช์นี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซโบซไล สอบผ่านฉลุย แต่สำหรับ กัคโป ยังคงต้องปรับตัวอีกเยอะสำหรับการเล่นในตำแหน่งนี้ และ คล็อปป์ คงมองเห็นแล้วว่าการจับเขายืนแดนกลางถือเป็นการลดประสิทธิภาพของนักเตะไปพอสมควร
ขณะที่ จอมทัพทีมชาติอาร์เจนตินา ที่จำเป็นต้องทำหน้าที่เป็นโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ถือว่าผลงานยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ทั้งการคุมจังหวะเกม, ครองบอล และสร้างโอกาสในเกมรุก โดยเฉพาะจังหวะได้ประตูนักเตะแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการเล่น และการวางบอลที่แม่นยำให้ โม ซาลาห์ จนนำไปสู่ประตูขึ้นนำ
ส่วน โซโบซไล มีส่วนในการช่วยในการเชื่อมเกม และยังมีความขยันในการไล่บี้แดนกลาง "สิงห์บลูส์" ไม่ให้เล่นได้ถนัด ขณะที่ช่วงท้ายเกมนักเตะถูกจับไปยืนตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้าย และก็สร้างความปั่นป่วนให้กับกองหลังเจ้าบ้านเช่นกัน
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ และสตาร์ชาวฮังการี ไม่ได้เล่นเกมรุกแบบเต็มสูบ เนื่องจากทีมยังขาดกองกลางตัวรับ ฉะนั้น คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องหาผู้เล่นในตำแหน่งนี้มาเสริมทัพให้ได้ เพื่อจะได้ใช้งานนักเตะทั้งสองคนได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่านี้
4. เอ็นโซ่ ฟอร์มสมราคา
ไม่มีใครสงสัยเรื่องค่าตัว 106.8 ล้านปอนด์ (ราว 4,485.6 ล้านบาท) ที่เชลซีทุ่มซื้อ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มาร่วมทัพเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเขาโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจทั้งๆ ที่ทีมผลงานย่ำแย่นับตั้งแต่ที่ย้ายมาร่วมทัพ
ฟอร์มการเล่นของ สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ วัย 22 ปี ในแมตช์นี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่านี่คือนักเตะที่เล่นได้คุ้มเม็ดเงินอย่างแท้จริงๆ เพราะเขาถือเป็นผู้เล่นที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในแมตช์รับมือ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานในครึ่งหลังที่โดดเด่นเกินห้ามใจจริงๆ
จากสถิติแสดงให้เห็นว่านักเตะผ่านบอลได้แม่นยำถึง 90 เปอร์เซนต์, ผ่านบอลทะลุพื้นที่สุดท้าย 17 ครั้ง, สร้างโอกาส 2 ครั้ง, สามารถเรียกฟาวล์ได้ 2 ครั้ง และเอาชนะการดวลแบบตัวต่อตัวได้ 100 เปอร์เซนต์ เป็นต้น
ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งของ เอ็นโซ่ ทำให้ เชลซี สามารถไล่บดขยี้ ลิเวอร์พูล อย่างหนักในช่วงครึ่งหลัง และทำให้แดนกลางของพวกเขาโชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าทีมเยือนอย่างชัดเจน
จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่ เอ็นโซ่ ได้ครองบอลเขาสามารถเอาตัวรอดจากการไล่บี้ของนักเตะลิเวอร์พูลได้ตลอด และพยายามที่จะคุมจังหวะการเล่น รวมทั้งสร้างโอกาสให้แนวรุกได้ลุ้นทำประตู
นี่แค่น้ำจิ้มสำหรับผลงานของนักเตะในยุคเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เชื่อว่า เอ็นโซ่ น่าจะได้โชว์ศักยภาพมากกว่านี้ เมื่อได้กุนซือที่รู้ว่าจะดึงฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาออกมาได้ยังไง !!
5. ทั้งสองทีมต้องเสริมกลางรับ
หลังจบเกมนี้หนึ่งสิ่งที่ ลิเวอร์พูล และ เชลซี ต้องรีบเร่งทำทันทีนั่นก็คือการหากองกลางตัวรับมาเสริมทัพก่อนตลาดพ่อค้าแข้งช่วงซัมเมอร์จะเปิดตัวลงในวันที่ 1 กันยายนนี้
ผลงานของทั้งสองทีมแม้จะเล่นกันได้ดีก็ตาม แต่การที่ทั้ง "หงส์แดง" และ "สิงห์บลูส์" ไม่มีกลางรับทำให้บางจังหวะทีมต้องสุ่มเสี่ยงกับการโดนโจมตีจากแผงมิดฟิลด์ และมีหลายครั้งที่พวกเขาเกือบเสียประตูด้วย
สำหรับตอนนี้รายชื่อของนักเตะที่ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ต้องการนั่นก็คือ โรเมโอ ลาเวีย กับ มอยเซส ไกเซโด้ โดยพวกเขาต้องซื้อคนใดคนหนึ่งมาร่วมทัพให้ได้ เพื่อมาอุดช่องโหว่ในแดนกลาง
ด้วยผลงานของ ลาเวีย และ ไกเซโด้ เชื่อว่าน่าจะช่วยพัฒนาแดนกลางของ ลิเวอร์พูล และ เชลซี ได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งสองคนจะย้ายไปเล่นกับทีมไหนคงต้องลุ้นกันอีกสักพัก แต่น่าจะก่อนปิดตลาดซัมเมอร์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
3 รายสอบไม่ผ่าน! ตัดเกรดนักเตะ ลิเวอร์พูล เกมบุกเจ๊า เชลซี
เป็นเกมเปิดซีซั่น พรีเมียร์ลีก ที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องลุ้นกันหนักพอสมควรเพราะแม้ หงส์แดง จะบุกไปยิงนำ เชลซี ได้ก่อนจากฝีเท้าของ หลุยส์ ดิอาซ ในนาทีที่ 18 แต่พวกเขามาเสียประตูคืนให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 37 จากการเช็กบิลของ อั๊กเซล ดีซาซี่ กองหลังตัวใหม่ของทีมเงินถังแต้มเดียวไม่พอ ! โปเช็ตติโน่ ยก เชลซี เล่นเหนือกว่าควรคว้าชัย
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ของ เชลซี เปิดใจทัพ "สิงห์บลูส์" ควรได้อะไรมากกว่านี้หลังผลงานโดยรวมทำได้ดีกว่า ลิเวอร์พูล ในแมตช์เสมอ 1-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมเปิดฤดูกาล 2023/2024 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมาปลื้มฟอร์มแข้งใหม่! เจอร์เก้น คล็อปป์ ชมเปาะสองสตาร์พร้อมแจงประเด็น มอยเซส ไกเซโด้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกปากชมฝีเท้าของสองนักเตะใหม่ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่นที่ หงส์แดง บุกมาเสมอกับ เชลซี 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ส.ค. พร้อมเอ่ยถึงความคืบหน้าในการพยายามล่าตัว มอยเซส ไกเซโด้ มิดฟิลด์ทีม ไบรท์ตันกัปตันโอเค! เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รับได้ ลิเวอร์พูล โดน เชลซี บี้แบ่งแต้ม
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล เปิดปากชี้ไม่ใช่เรื่องน่าผิดหวังที่ หงส์แดง บุกมาเสมอกับ เชลซี 1-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ส.ค. แม้จะเป็นฝ่ายบุกมายิงประตูนำเจ้าบ้านได้ก่อนก็ตาม
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
นโยบายล่อตา!โรนัลโด้ อาสาดึง เป๊ป คุมบราซิล หากได้เป็นบิ๊กส.บอล
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์