พ่ายโทษ! “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ทำเต็มที่แล้วดวลลูกโทษพ่าย ทีมชาติอิรัก 5-4 สกอร์รวม 7-6 พลาดแชมป์คิงส์คัพสมัยที่ 16 ส่ง อิรัก คว้าแชมป์สมัยแรก

การแข่งขันศึก ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 นัดชิงชนะเลิศ ที่ จ.เชียงใหม่ ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 66 เป็นการแข่งขันระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก ที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น. แต่เลื่อน 30 นาที มาเตะ 21.00 น.โดยเกมนี้ ทีมชาติไทย สวมชุดสีน้ำเงิน ส่วน อิรัก ส่วมชุดขาว โดยเกมคู่นี้ไม่มี VAR

11 คนแรกของทีมชาติไทย : 1 ฉัตรชัย บุตรพรม (GK)3 ธีราทร บุญมาทัน (C) 4 พรรษา เหมวิบูลย์ 5 กฤษดา กาแมน 6 สารัช อยู่เย็น 7 สุภโชค สารชาติ 10 ธีรศิลป์ แดงดา 11 บดินทร์ ผาลา 12 นิโคลัส มิคเกลสัน 14 เอเลียส ดอเลาะ 22 วีระเทพ ป้อมพันธุ์

เริ่มครึ่งแรกนาทีที่ 7 ทีมชาติอิรัก มาได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะทุ่มบอลไกลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนผู้เล่น ไทย จะสกัดกันไม่ขาดมาเข้าทาง อายเมน กลัดบัน เก็บตกจากความผิดพลาดยิงสวนด้วยขวาหนีมือ ฉัตรชัย บุตรพรม เข้าไป อิรัก ออกนำ ไทย 1-0

ต่อมานาทีที่ 15 ทีมชาติไทย มีโอกาสได้ลุ้นประตูตีเสมอจากความพยายามของ บดินทร์ ผาลา ที่ลากตัดเข้าในแหวกวงล้อมผู้เล่นอิรัก ก่อนจะกดด้วยขวาเต็มข้อจากนอกกรอบบอลเหินข้ามคานไปไกล

จากนั้นนาทีที่ 37 ทีมชาติไทย มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะเปิดบอลด้วยซ้ายของ ธีราทร บุญมาทัน จากริมเส้นฝั่งซ้ายไปให้ แบ็คขวาอย่าง นิโคลัส มิคเกลสัน วิ่งมาโหม่งผ่านมือประตูอิรักเข้าไปแบบสุดสวย ทีมชาติไทย ตามตีเสมอ อิรัก 1-1 หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 60 ทีมชาติอิรัก เกือบได้ประตูออกนำอีกครั้งจากจังหวะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ และไทย สกัดไม่ขาดเหมือนเดิมมาเข้าทาง ผู้เล่นอิรัก ได้เก็บตกบอลจากในกรอบเขตโทษที่ไทย สกัดพลาด แต่ยิงด้วยขวาคราวนี้บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

ต่อมานาทีที่ 65 ทีมชาติอิรัก มาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากจังหวะขึ้นเกมมาทางฝั่งขวา ก่อนจะแตะบอลหนี กองหลังไทย และปาดเข้าในมาให้ อัมเยด คาดฮิม ได้แปจ่อๆ คนเดียวโล่งๆ สวนตัว ฉัตรชัย บุตรพรม เข้าไป ทีมชาติอิรัก ออกนำ ไทย อีกครั้ง 2-1

จากนั้นนาทีที่ 80 ทีมชาติไทย มาได้จุดโทษจากจังหวะผู้เล่นอิรักทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษและเป็น ธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่สังหารแต่ยิงไม่เข้ายิงไปติดเซฟนายด่านอิรักเซฟไว้ได้

หลังจากนั้นนาทีที่ 82 ทีมชาติไทย มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาของ สุภโชค สารชาติ ก่อนจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น บดินทร์ ผาลา ตั้งคอรอโหม่งสวยไปที่เสาสองผ่านมือนายด่าน อิรัก เข้าไป ไทย ตามตีเสมอ อิรัก 2-2 หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบเกมในเวลาปกติเสมอกัน 2-2 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกโทษตัดสิน

ก่อนจะเป็น ทีมชาติอิรัก ดวลโทษเอาชนะ ทีมชาติไทย 5-4 สกอร์รวม 7-6