ลิเวอร์พูล เตรียมเดินทางไปพบกับบททดสอบสำคัญในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 30 กันยายนนี้ โดยข่าวดีสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น่าจะพร้อมกลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังหายเจ็บและกลับมาลงซ้อมได้แล้ว ขณะที่ สเปอร์ส กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มคึกสุดขีด นับตั้งแต่ อังเก้ ปอสเตโคกลู เข้ามากุมบังเหียน ที่สำคัญผลงานของ "ไก่เดือยทอง" ยังคงยอดเยี่ยมแม้ไม่มี แฮร์รี่ เคน อยู่ร่วมทัพก็ตาม ฉะนั้นแมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องเจอกับงานสุดหินหากอยากกลับบ้านพร้อมกับมีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วย

1. "รองเทรนต์" พร้อมกลับลงสนามแล้ว

 ลิเวอร์พูล ไม่ได้ใช้งาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สี่แมตช์หลังสุดในทุกรายการ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาในเกมทุบ แอสตัน วิลล่า 3-0 ต้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตามตอนนี้นักเตะสามารถกลับมาลงซ้อมอย่างเต็มที่กับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวด๊อยท์ช ยังไม่ได้ยืนยันว่า "รองเทรนต์" จะได้ลงเล่นตัวจริงหรือไม่ แต่กระนั้นถ้าหากทีมไม่ต้องการเสี่ยง ก็มีความเป็นไปได้ที่ โจ โกเมซ จะได้รับหน้าที่ยืนประจำแบ็กขวาอีกเกม แน่นอนว่าหากทีมมี อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น่าจะทำให้เกมรุกอันตรายมากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อดีอีกเรื่องก็คือผู้เล่นตัวหลักไม่มีปัญหา พร้อมที่จะลงสนามในแมตช์บุกกรุงลอนดอน อย่างไรก็ตาม สเตฟาน บายเซติช ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บน่องทำให้ไม่พร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ ติอาโก้ อัลกาทาร่า ซึ่งเจ็บโคนขาหนีบ และ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ เดี้ยงเข่า ต้องรอพักฟื้นต่อไปอีกซักระยะ

2. สเปอร์ส ฟอร์มโดดเด่นเหลือเกิน

 แม้ว่าตอนนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่มี แฮร์รี่ เคน ทำหน้าที่ตะบันตาข่าย แต่พวกเขายังคงมีผู้เล่นคุณภาพหลายคนอยู่ในทีม ซึ่งสามารถที่จะสร้างปัญหาให้กับแผงกองหลัง "เดอะ เร้ดส์" ในแมตช์นี้ได้ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเกมรับทีมเยือนอ่อนยวบ และเสียประตูแทบทุกแมตช์

นอกจากนี้ ซน ฮึน-มิน ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังได้รับบทบาทเป็นกัปตันทีมคนใหม่ เจ้าตัวยิ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างดุดัน โดยตะบันไปแล้ว 5 ประตูจาก 6 เกมลีกในฤดูกาลนี้ รั้งรองดาวซัลโว ตามหลัง เออร์ลิง ฮาลันด์ เพียง 3 ลูกเท่านั้น

ที่สำคัญ "อาซน" ถือเป็นของแสลงสำหรับ "เดอะ เร้ดส์" อย่างแท้จริง เพราะเขาซัดไปแล้ว 4 ประตูจาก 5 เกมหลังสุดที่ปะทะกับทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ฉะนั้นนี่คือนักเตะที่ "หงส์แดง" ต้องจับตาเอาไว้อย่างใกล้ชิด เพราะหากเผลอเพียงเสี้ยววินาทีมีสิทธิ์โดนตะบันตาข่ายแน่นอน

ยังไม่หมดแค่นั้น สเปอร์ส ยังมีทีเด็ดจาก เจมส์ แมดดิสัน ซึ่งเพิ่งย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ช่วงซัมเมอร์นี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดโดยเฉพาะการปั้นเกม และการสร้างโอกาสให้กับแนวรุกของทีม ยิ่งไปกว่านั้น แมดดิสัน มีสถิติที่ดีเยี่ยมในการเจอกับ ลิเวอร์พูล เมื่อซัดไป 3 ประตูจาก 8 เกมหลังสุดที่ดวลกับ "หงส์แดง"

3. ซาลาห์ ของแสลง "ไก่เดือยทอง"

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สู้กับหลายๆ สโมสรมากมาย แต่สำหรับทีมที่ทำให้เขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการดวลนั่นก็คือ สเปอร์ส โดยเขาสร้างผลงานดีมีคุณภาพทุกครั้งที่ลงเล่นปะทะ "ไก่เดือยทอง" และแน่นอนว่าแฟนบอล "หงส์แดง" อยากเห็นเขาทำแบบนี้ได้อีกในแมตช์วันเสาร์นี้

"คิง ออฟ อียิปต์" ตะบันไป 9 ประตูจาก 13 เกมที่ดวลกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และตอนนี้ก็เท่ากับ โรเจอร์ ฮันท์ ตำนานดาวยิงชาวอังกฤษ ในฐานะนักเตะ "หงส์แดง" ที่ยิงประตูใส่ สเปอร์ส มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในหน้าประวัตศาสตร์สโมสร

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยิงประตูได้ 17 เกมติดต่อกันในการพบกับ สเปอร์ส ในทุกรายการนับตั้งแต่ที่ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน โดยเกมล่าสุดที่ทั้งสองทีมเสมอกันแบบไร้สกอร์ เกิดขึ้นที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน (สนามเหย้าเดิม) เมื่อเดือนตุลาคม 2015

4. สานต่อผลงานไร้พ่าย ?

ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยพวกเขายังไม่แพ้ใครในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/2024 แต่สถิติของทีมสุดยอดยิ่งกว่านั้นเนื่องจาก คล็อปป์ และลูกทีม ได้ลิ้มรสชาติความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนจากการแข่งขันทุกรายการ

"หงส์แดง" กลายเป็นทีมตายยากในซีซั่นนี้ เพราะพวกเขามักจะโดนยิงนำไปก่อน และสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้ หรือบางเกมตัวผู้เล่นน้อยกว่าเพราะโดนใบแดง ก็ยังสามารถบดขยี้คู่แข่งจนคว้าสามคะแนนสำคัญได้สำเร็จ ฉะนั้นนี่คือเครื่องหมายการค้าของ ลิเวอร์พูล ที่คู่แข่งรู้สึกครั่นคร้ามอย่างมาก

แน่นอนว่าผลงานที่สุดแข็งแกร่งของ ลิเวอร์พูล ทำให้ สเปอร์ส ต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะพิฆาตพวกเขาให้เด็ดขาด เพราะหากเปิดโอกาสให้กับทีมเยือนได้กลับมาสู่เกม งานนี้บอกเลยว่ามีสิทธิ์ที่เจ้าบ้านจะน้ำตาตกต่อหน้าแฟนบอล "น้องไก่"

สำหรับสถิติในเกมพรีเมียร์ลีกนั้น ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใคร 17 เกม โดยชนะ 12 และเสมอ 5 แมตช์ สำหรับทีมสุดท้ายที่คว้ำ "เดอะ เร้ดส์" ได้นั่นก็คือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจัดการถลุงยับลูกทีมของคล็อปป์ด้วยสกอร์ 4-1 เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

5. สนามเหย้าที่แสนหวานของ "หงส์แดง"

นับตั้งแต่ที่ สเปอร์ส สร้างสนามใหม่เมื่อปี 2019 ลิเวอร์พูล ทำจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเอาชนะ 3 จาก 4 แมตช์ที่เดินทางไปดวลกับพวกเขา และเสมอ 1 เกม นั่นทำให้ "เดอะ เร้ดส์" รู้สึกมั่นใจทุกครั้งที่เดินทางไปดวลกับ "ไก่เดือยทอง" ที่กรุงลอนดอน

ขณะที่ทีมของกุนซืออังเก้ ปอสเตโคกลู มีสถิติไม่ค่อยดีเท่าไหร่เมื่อเจอกับ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาเอาชนะ "เดอะ เร้ดส์" ด้วยสกอร์ 4-1 เมื่อเดือนตุลาคม 2017 ซึ่งตอนนั้นแข่งกันที่สนามเวมบลีย์ และเป็นการคว้าชัยแค่เกมเดียวจากจำนวน 23 เกมหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้แฟนบอลสเปอร์ส รู้สึกมั่นใจในทีมรักของพวกเขา ก็คือสถิติของ อังเก้ เพราะเขาไม่แพ้ใครเลย 40 เกมในลีกจากการกุมบังเหียน กลาสโกว์ เซลติก และ สเปอร์ส โดยเป็นชัยชนะถึง 35 แมตช์ และเสมอเพียง 5 เกมเท่านั้น