ต้นซีซั่นพอไหวไหม? 5 สิ่งที่เห็นจาก ลิเวอร์พูล หลังผ่านไป 8 เกมพรีเมียร์ลีก
Posted 14/10/2023 by siamsport
ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทฤดูกาล 2023-2024 ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หากมองจากภาพรวมทั้งหมด โดยทั้งฟอร์มการเล่นร่วมกันเป็นทีม และผลงานของนักเตะแต่ละคนที่ต้องบอกเลยว่าน่าประทับใจพอสมควร ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญทำให้พวกเขาติดอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์
"หงส์แดง" เก็บได้ 17 คะแนนจากทั้งหมด 24 แต้มในการเล่น 8 แมตช์ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ แถมพวกเขาอาจจะทำผลงานได้ดีกว่านี้ก็ได้หากไม่เกิดเหตุดราม่า "วีเออาร์" ในแมตช์แพ้ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
สำหรับเรื่องการลุ้นแชมป์ลีกต้องบอกเลยว่ายังอีกไกลเนื่องจากมีอีกหลายแมตช์ที่ยังต้องลงชิงชัย แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่แสดงให้เห็นนั่นก็คือฟอร์มการเล่นของทีมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และแข็งแกร่งมากกว่าเดิม นับตั้งแต่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการยกเครื่องหลายตำแหน่งโดยเฉพาะในแผงมิดฟิลด์
ในช่วงพักเบรกทีมชาติแม้อาจทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะทีมกำลังทำผลงานติดลมบน แต่อย่างน้อยหากคิดในมุมบวก ก็ถือเป็นการทบทวนสิ่งที่แฟนบอลได้เห็นในเกมลีกจนกระทั่งถึงตอนนี้ งานนี้ก็เลยขอเลือก 5 สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นกับ "เดอะ เร้ดส์" ในช่วง 8 เกมแรก
1. แชมป์เก่าก็โดนสอยร่วงได้
หลายๆ คนมักจะมองว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ล้มยาก และมีทรัพยากรมากมายให้เลือกใช้งาน รวมทั้งยังมีงบประมาณสำหรับใช้เสริมทัพแบบยืดหยุ่น นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาเป็นทีมที่หาใครที่จะก้าวขึ้นมาทัดเทียมได้
สิ่งนี้ ลิเวอร์พูล รู้ซึ้งเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาสามารถคว่ำทัพ "เรือใบสีฟ้า" ออกจากบัลลังก์วังทองในฤดูกาล 2019-2020 และยังเคยขับเคี่ยวชิงชัยกับ แมนฯ ซิตี้ จนถึงวันสุดท้ายของเกมลีกมาแล้ว 2 ครั้งภายใต้การฟาดฟันกันด้วยกึ๋นระหว่าง คล็อปป์ กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า แมนฯ ซิตี้ ก้าวไปไกลกว่า "หงส์แดง" แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีกเหมือนเมื่อก่อน เพราะล่าสุดพวกเขาต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากในการแพ้ 2 แมตช์ติดต่อกันให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีของทีมเลยทีเดียว
ประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่ายังไม่มีทีมไหนที่สามารถชูโทรฟี่แชมป์ลีกได้ 4 สมัยติดต่อกันในอังกฤษ ส่วนสถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ แค่แต้มเดียวเท่านั้นในช่วง "ฟีฟ่า เดย์" ทั้งๆ ที่โปรแกรมในช่วงต้นซีซั่นของทีมยากกว่า "เรือใบสีฟ้า" ซะอีก
แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล มีศักยภาพที่จะสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นนี้ หลังพวกเขาแสดงให้เห็นถึงผลงานชั้นยอด และสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งในการปะทะกับ เชลซี, สเปอร์ส, ไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิ่ล มาแล้ว
2. ตำแหน่งเบอร์ 6 ยังไม่ลงตัว
ลิเวอร์พูล พลาดคว้าตัว มอยเซส ไกเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย ช่วงซัมเมอร์นี้ โดยสุดท้ายพวกเขาเบนเข็มไปเซ็นสัญญากับ วาตารุ เอ็นโด จาก สตุ๊ตการ์ท แต่ดูเหมือนว่ากัปตันทีมชาติญี่ปุ่นยังไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจนั่นทำให้นักเตะได้ลงเล่นตัวจริงเกมลีกแค่แมตช์เดียวเท่านั้น
ปัจจุบัน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เติมเต็มในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่ดูเหมือนหลายคนรู้สึกว่าการจับนักเตะไปยืนในตำแหน่งนั้นเป็นการใช้งานที่ผิดที่ และไม่เหมาะสมเลยเมื่อเทียบกับศักยภาพที่เขามีอยู่ในตัว
มีบางคนเชื่อว่า ไรอัน กราเฟนแบร์ก อาจจะเข้ามาตอบโจทย์ในการเล่นตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 6 ได้ แต่กระนั้น นายใหญ่ชาวเยอรมัน เลือกที่จะเซ็นสัญญากับ สตาร์ชาวดัตช์ ก็เพราะมองว่าเขาเหมาะอย่างยิ่งกับบทาทกองกลางเบอร์ 8 หรือ "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์"
ฉะนั้นคำถามในเวลานี้ก็คือ ลิเวอร์พูล จะเอาใครมาเล่นตำแหน่งเบอร์ 6 โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทีม หรือจะควักกระเป๋าเสริมทัพใหม่ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมนี้ เพราะถ้าฝืนใช้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ต่อไปมีแต่จะทำให้ทีมเสียประโยชน์ไปเปล่าๆ
ตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" มีรายงานว่ากำลังจับตามอง อันเดร สตาร์ดังฟูลมิเนนเซ่น และมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกระชากตัวนักเตะมาร่วมทัพในช่วงตลาดแข้งฤดูหนาว ซึ่งหากทำสำเร็จน่าจะช่วยให้ทีมพัฒนาผลงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
3. ยูโรปา ลีก โอกาสดาวรุ่ง
นี่ไม่ใช่เป้าหมายที่ ลิเวอร์พูล ตั้งเอาไว้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ในเมื่อทีมไม่สามารถทำอันดับติดท็อปโฟร์ได้ การต้องลงไปเล่นในฟุตบอลถ้วยรองยุโรปก็น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับ นายใหญ่ชาวด๊อยท์ช ที่ได้ใช้ขุมกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดลงสนาม
ทุกๆ คนคงจะเห็นกันแล้วว่า คล็อปป์ มีการสลับสับเปลี่ยนขุมกำลังระหว่างทีมที่ใช้ในพรีเมียร์ลีก และการโรเตชั่นชุดใหญ่สำหรับโปรแกรมกลางสัปดาห์ทั้งในศึกคาราบาว คัพ และยูโรปา ลีก ยกตัวอย่าง กราเฟนแบร์ก กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ รวมทั้งนักเตะอีกหลายคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้
โอกาสที่พวกนักเตะดาวรุ่งและแข้งสำรองจะได้ลงสนามมีค่อนข้างยากตอนที่ "หงส์แดง" เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่สำหรับซีซั่นนี้การเล่นใน ยูโรปา ทำให้ทีมสามารถใช้งานพวกนักเตะเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีกั๊ก
"บอส" อาจเลือกทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อทะลุเข้าไปในรอบลึกๆ แต่ในรอบแบ่งกลุ่มการให้โอกาสผู้เล่นอย่าง เบน โด๊ค, จาเรลล์ ควอนซาห์ และ โจ โกเมซ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะทำให้ผู้เล่นได้พัฒนาฝีเท้าแล้ว ยังเป็นการเก็บความสดพวกตัวหลักด้วย
4. กองหลังเปราะบางเหลือเกิน
สิ่งที่ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลค่อนข้างรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก ก็คือการที่พวกเขามักจะเสียประตูเร็วในฤดูกาลนี้ และนั่นทำให้ทีมต้องเจอกับงานที่สุดแสนยากลำบากในการผิดสถานการณ์เพื่อจะคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการให้ได้
"หงส์แดง" มักจะต้องเจอสถานการณ์ตกเป็นรองคู่แข่งหลายแมตช์ ตั้งแต่เกมพบ บอร์นมัธ, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ วูล์ฟส์ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจของนักเตะลิเวอร์พูลที่พร้อมจะสู้อย่างเต็มที่ และกลับมาขว้างชัยชนะได้สำเร็จ
สำหรับในเรื่องเกมรุกยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม แต่เกมรับต้องบอกเลยว่าเปราะบางเหลือเกินซึ่งเป็นมาต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาล 2022-2023 และแน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะบางครั้งการเจอกับทีมในระดับเดียวกันมันก็ยากที่จะพลิกสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมก็ถือว่าทีมยังคงสร้างมาตรฐานได้ดี แต่การต้องออกไปเป็นทีมเยือน และโดนยิงนำไปก่อนย่อมเป็นงานยากพอสมควรเลยทีเดียว ฉะนั้นในช่วงพักเบรกทีมชาติถือเป็นโอกาสดีที่ คล็อปป์ จะได้ทำการวิเคราะห์เกมรับ และหาทางปรับจูนเพื่อทำให้ทีมเสียประตูยากขึ้น
5. แนวรุกสุดโหด
แม้ว่าเกมรับจะเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข แต่สวนทางกับเกมรุกเพราะทีมเล่นด้วยความดุดัน และสามารถสร้างโอกาสได้มากมาย ที่สำคัญพวกเขายิงประตูคู่แข่งได้เป็นว่าเล่น และแน่นอนว่านี่คือจุดเด่นที่ ลิเวอร์พูล ต้องรักษาเอาไว้
เมื่อเร็วๆ นี้ โคดี้ กัคโป โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่โชคดีที่ไม่ได้เจ็บหนักมาก ฉะนั้นต้องบอกเลยว่าซีซั่นนี้ คล็อปป์ มีตัวเลือกในเกมรุก 5 ราย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะนั่นทำให้เขาสามารถปรับเปลี่ยนแท็กติกได้หลากหลาย และเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละเกม
จุดเด่นเรื่องเกมรุกของ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากการที่พวกเขาสามารถยิงได้ 18 ประตูมากกว่า "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 กับ 3 ตามลำดับ ขณะเดียวกันยังยิงได้เท่ากับ สเปอร์ส ทีมจ่าฝูงด้วย
นอกจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องแล้ว เขายังกลายเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมหลายครั้ง โดยปัจจุบัน "บังโม" ซัดไปแล้ว 6 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จากการเล่นในทุกรายการ ขณะที่ ดีโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ กัคโป ก็สามารถช่วยทีมได้จนทำให้ "เดอะ เร้ดส์" ซัดรวมไปแล้ว 26 ลูก
ขณะเดียวกันทีมยังมีผู้เล่นพรสวรรค์เรื่องเกมรุกอย่าง โดมินิค โซโบซไล ที่คอยรอจังหวะตะบันประตูจากแถวสอง หรืออาจจะช่วยแอสซิสต์ให้ทีม ทั้งหมดนี้ถือเป็นทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมมากๆ ที่ทำให้ "หงส์แดง" สร้างโอกาสยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อันเดร จะเข้ามาช่วย ลิเวอร์พูล ได้จริงมั้ย ?!
คัดคำถามที่น่าสนใจในตัว อันเดร มิดฟิลด์บราซิเลี่ยน ของ ฟลูมิเนนเซ่รวมพลังกัน!เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เร้าแข้ง พรีเมียร์ลีก ผนึกกำลังต้านโปรแกรมชุก
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลัง ลิเวอร์พูล ระบุ เหล่าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ควรจะร่วมด้วยช่วยกันในการทำให้ตารางการแข่งขันมันดีกว่านี้ โดยบอกว่าต่อให้จะได้รับค่าเหนื่อยเยอะแต่มันก็ไม่คุ้มเมื่อพิจารณาถึงสุขภาพลิเวอร์พูล ไม่ปลื้มสิ่งนี้! แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เดี้ยงเกม สกอตแลนด์ แพ้ สเปน
ลิเวอร์พูล ส่อแววงานเข้าซะแล้วเมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ มีปัญหาเจ็บไหล่จากเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือกนัดบุกไปพ่าย สเปน 2-0 ที่ เซบีย่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.จนน่าจะต้องร้างสนามไประยะหนึ่งคนนี้ใช่เลย! อดีตแบ็กลิเวอร์พูล แนะ "หงส์แดง" ซื้อสตาร์นาโปลีหากขาย โม ซาลาห์
สตีเฟ่น วอร์น็อค อดีตฟูลแบ็ก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แนะทางสว่างต้นสังกัดเก่าให้คว้าตัว ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกมหัศจรรย์แห่งนาโปลี มาร่วมทัพหากทีมต้องปล่อย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สตาร์ชาวอียิปต์
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์