หากสังเกตให้ดีจะพบว่าผมไม่ค่อยแสดงความเห็นถึงเรื่องที่ไอ้พวก "เกลเซอร์ส" มันจะขาย แมนฯ ยูไนเต็ด ลงในเพจนี้สักเท่าไหร่

ข่าวคราวความคืบหน้าเป็นอย่างไรก็ไม่รายงาน

ถามว่าทำไม ???

คำตอบคือผมรำคาญพอๆ กับ "ช่างแม่ง" แถมขี้เกียจตาม ขี้เกียจอ่าน ด้วยรู้สึกว่ามันเสียเวลา ถ้ามันตกลงขายแน่นอน และมีการ "เทคโอเวอร์" เรียบร้อยเมื่อไหร่ ค่อยมาคุยกันทีเดียวเลยก็ได้

เหตุเพราะมันอืดอาด ยืดยาด ยืดเยื้อ เยิ่นเย้อ และยุกยิกจนน่ารำคาญ มึงจะขายก็ขาย มึงจะไม่ขายก็เรื่องของมึง เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเชียร์

ที่สำคัญคือผมไม่เคยมีความรู้สึกเลยสิดนิดเดียวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เจ้าของใหม่เป็นกลุ่มทุนจากอาหรับที่มักจะเป็น "ผู้ให้" มากกว่า "ผู้รับ" หรือ "ผู้กอบโกย" จนช่วยให้สโมสรกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนที่มันเกิดขึ้นกับ แมนฯ ซิตี้

ล่าสุดเมื่อมีข่าวว่า ชีค ยาสซิม ถอนตัวจากการขอซื้อสโมสรปีศาจแดงอย่างเป็นทางการ ผมก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ย้อนกลับตอนที่มีข่าวว่าจะขายแน่ๆ ไอ้พวกเจ้าของทีมเฮงซวย มันยังไม่ได้อยากขายจริงๆ หรอกครับ มันแค่อยาก "เช็คราคา" ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีมูลค่าสูงสุด ณ จุดนี้เท่าไหร่

คำตอบคือประมาณ 6,000 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดจริงๆ เกือบ 3 เท่า !!!

ขนาด 6,000 ล้านปอนด์ มันยังไม่ยอมขาย ถามว่าทำไม ???

คิดง่ายๆ ครับ ขนาด แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้กำลังนั่งเบียดกับความตกต่ำ ยังอุตส่าห์มีโคตรมิลเลี่ยนแนร์มาขอซื้อในราคามหาศาลถึง 6,000 ล้านปอนด์

แล้วถ้าพลพรรคปีศาจแดงอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง โดยมีโอกาสสูงที่จะพุ่งเข้าชนและวิ่งเข้าใส่ความสำเร็จ

มูลค่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกระฉูดแตกถึงขนาดไหน - คิดเอา ???

อย่างไรก็ตาม

แมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของไอ้พวกปลิงมะกันที่ไม่รู้เรื่องฟุตบอลคงไม่มีทางกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในเร็ววันนี้แน่

...ว่าแล้วก็คงต้องอยู่กันไปอย่างตายซากแบบนี้จนกว่าไอ้พวกเกลเซอร์ ฟัคกลิ้ง แฟมิลี่ มันจะพอนั่นแหละครับคุณ

ส่วนราชันแห่งทะเลทรายอย่างท่านชีค

หลังยอมยกธงจากการเทียวไล้เทียวขื่อขอซื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ท่านชีคแกอาจไปขอซื้อ ลิเวอร์พูล จากพวก เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป แทน...ก็...เป็น..ได้

ทันใดก็อยากหัวเราะออกมาเป็นภาษาโดธรากี ถถถถ