ต้อนรับ มาร์เซโล่ เข้าก๊วน! 4 แข้งที่เคยฟาดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วย โกปา ลิเบร์ตาดอเรส
Posted 06/11/2023 by siamsport
แม้ว่าจะเคยได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาก่อนถึง 5 สมัยกับ เรอัล มาดริด แต่ มาร์เซโล่ เปิดใจว่าการได้แชมป์ โกปา ลิเบร์ตาดอเรส ประจำปี 2023 กับ ฟลูมิเนนเซ่ มันถือเป็นแชมป์ที่มีความหมายกับเขามากกว่าซะอีก เพราะนี่คือทีมที่เขาเคยอยู่ด้วยตั้งแต่สมัยเยาวชน
ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ มาร์เซโล่ ถือเป็นนักเตะคนที่ 14 ที่เคยได้ทั้งแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ลิเบร์ตาดอเรส ในฐานะนักเตะ อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะคนที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะค่อยได้ไปจุมพิตถัวยแชมป์ระดับสโมสรรายการใหญ่ของทวีปอเมริกาใต้แล้วล่ะก็ มาร์เซโล่ ถือเป็นคนที่ 5 ที่ทำอย่างนั้นได้ และวันนี้เราจะมาย้อนกันว่า 4 คนก่อนหน้าเขามีใครบ้าง
- ดาวิด ลุยซ์
ในฤดูกาล 2011-12 ดาวิด ลุยซ์ ถือเป็นแกนหลักคนหนึ่งของ เชลซี โดยเขาได้ลงเล่นในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปทั้งหมด 11 เกม และทำได้ 1 ประตู ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในตัวจริงที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วย ก่อนที่จะมีส่วนพาทีมได้แชมป์ในครั้งนั้น
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปี 2021 ลุยซ์ ตัดสินใจกลับไปเล่นที่บ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก้ และเมื่อฤดูกาล 2022 เขาก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส หลังจากได้ลงเล่นไป 9 นัด ซึ่งเป็นในฐานะตัวจริงทั้งหมด โดยเขาได้เป็นตัวจริงในนัดชิงดำเช่นกัน
- รามิเรส
รามิเรส ก็อยู่ใน เชลซี ชุดที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011-12 เหมือนกับ ลุยซ์ โดยตอนนั้นเขาได้ลงเล่นไป 10 เกม พร้อมกับทำได้ 3 ประตู เพียงแต่ในซีซั่นนั้นเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในนัดชิงดำเพราะติดโทษแบน
ในปี 2019 รามิเรส กลับไปเล่นที่ พัลเมยรัส ซึ่งในซีซั่น 2020 เขาได้ลงเล่นในถ้วย ลิเบร์ตาดอเรส เป็นจำนวน 7 เกม และถึงแม้เขาจะยกเลิกสัญญากับ พัลเมยรัส ด้วยความยินยอมร่วมกันในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 หรือก็คือก่อนหน้าที่ พัลเมยรัส จะไปชนะ ซานโตส 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศของ ลิเบร์ตาดอเรส ในวันที่ 30 มกราคม ปี 2021 แต่ในทางการแล้วเขายังถือว่าได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส ประจำฤดูกาล 2020 อยู่
- ราฟินญ่า
ในฤดูกาล 2012-13 ราฟินญ่า ไม่ได้ถือเป็นแกนหลักของ บาเยิร์น หลังได้ลงเล่นไป 17 นัดในทุกรายการ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการลงสนามในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก แค่ 2 นัด แต่เขาก็ยังได้สัมผัสกับถ้วยบิ๊กเอียร์หลังจาก "เสือใต้" เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในนัดชิงชนะเลิศ
ในปี 2019 ราฟินญ่า ตัดสินใจเก็บข้าวของบินจาก เยอรมนี ไปเล่นให้ ฟลาเมงโก้ ซึ่งเขาก็เป็นแกนหลักให้ทีมได้ทันทีจนได้ลงเล่นเกม ลิเบร์ตาดอเรส ไปทั้งหมด 7 นัด โดยรวมถึงเกมชิงดำที่ ฟลาเมงโก้ เฉือนชนะ ริเวอร์ เพลท 2-1 ด้วย
- โรนัลดินโญ่
ก่อนจะมาเริ่มค้าแข้งในทวีปยุโรปกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2001 โรนัลดินโญ่ เคยเล่นให้ทีมในทวีปอเมริกาใต้กับ เกรมิโอ แค่ทีมเดียว แถมเป็นช่วงระหว่างปี 1998-2001 ด้วย ทำให้ช่วงนั้นเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับแชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส ก่อนที่ในฤดูกาล 2005-06 เขาจะได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ บาร์เซโลน่า ด้วยผลงานอันสุดยอดจากการลงเล่นไป 12 เกมพร้อมกับทำได้ 7 ประตู
หลังย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า แล้วไปเล่นให้ เอซี มิลาน กับ ฟลาเมงโก้ แล้วนั้น โรนัลดินโญ่ ก็มาลงหลักปักฐานกับ อัตเลติโก มิเนยโร่ ในปี 2012 และพอถึงฤดูกาล 2013 เขาก็มีส่วนช่วยให้ทีมได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส แบบสุดระทึก เพราะในนัดแรกของรอบชิงชนะเลิศ อัตเลติโก มิเนยโร่ แพ้ โอลิมเปีย ทีมจากปารากวัยไปก่อน 0-2 แต่ในนัดสองทีมจาก บราซิล เอาชนะด้วยสกอร์เดียวกันได้จนทำให้ต้องวัดกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และมันก็ลากยาวไปถึงช่วงดวลเป้าก่อนที่ อัตเลติโก มิเนยโร่ จะเป็นฝ่ายได้เฮ จนทำให้พวกเขาได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
บ้านพัก โรนัลโด้ ที่ ซาอุฯ อย่างกับ สุลต่าน | ตัวเทพฟุตบอล
บ้านพัก โรนัลโด้ ที่ ซาอุฯ อย่างกับ สุลต่าน | ตัวเทพฟุตบอลสะดุดจนได้! มาดริด กระสุนด้านเปิดรังเจ๊า บาเยกาโน่ ตามหลัง คิโรน่า 2 แต้ม
"ราชันชุดขาว" ผลงานขัดใจแฟนบอลทั้งที่ฟอร์มในบ้านสุดแกร่งเฮมา 5 นัดรวดแต่เกมนี้กระสุนด้านโอกาส จบสกอร์ เกิน 20 ครั้งแต่ปิดไม่ลงทำได้เพียงเปิดรังเจ๊า "ราโย บาเยกาโน่" 0-0 เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนรั้งอันดับ 2 ตามหลัง คิโรน่า ทีมจ่าฝูง 2 แต้มแล้วมาดริด พบ ราโย! จู๊ด เบลลิงแฮม แรงนำทัพราชันยืดจ่าฝูง-ฟันฉับสกอร์
ลา ลีกา คืนวันอาทิตย์นี้มีดาร์บี้แมตช์เมืองหลวง เรอัล มาดริด เปิดรังต้อนรับ ราโย บาเยกาโน่ โดยสถิติพบกันช่วงหลังค่อนข้างสูสี แต่ถ้าเป็นในบ้าน "ราชันชุดขาว" กินเรียบนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาแกร่งจริง! 6 สโมสรในลีกชั้นนำยุโรปที่ยังสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็น
ถึงตอนนี้ 5 ลีกชั้นนำยุโรป ซึ่งประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, บุนเดสลีกา เยอรมนี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส เดินทางมาได้ราวๆ 1 ใน 4 ของฤดูกาล 2023-24 แล้ว และหลังจากที่ บาร์เซโลน่า แพ้ เรอัล มาดริด คาบ้าน 1-2 ในศึก "เอล กลาซิโก" เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เท่ากับว่าตอนนี้เหลือแค่ 6 สโมสรเท่านั้น ที่ยังไม่แพ้ใครในลีกของตัวเอง ว่าแล้วเราไปเช็คกันอีกครั้งว่ามีสโมสรอะไรบ้าง
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์