แฟนหงส์ตั้งคำถามว่า..."เราควรจะคิดมากมั้ย ต่อความพ่ายแพ้ ตูลูส 3-2"

นั่นสิ...

ในมุมของนักวิเคราะห์ "ไม่คิดมากแต่คิดลึก"

จากที่ถล่มตูลูส 5-1 สบายเท้ากลับมาแพ้ 3-2 ด้วยชุดผู้เล่นไม่ต่างกันมาก คือยังเป็นชุดผสม ซึ่งมุมนี้ไม่ใช่ข้ออ้างแต่มันแสดงให้เห็นว่า "ชุดผสม" ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือนักเตะทีมชุดใหญ่ จะมีเด็กอย่าง เบน โดค คนเดียวเท่านั้นที่สอดแทรก ยังคงเป็นชุดที่หาความต่อเนื่องไม่ได้

บอลชนะ 5-1 แล้วแพ้ 3-2 คงไม่แปลกแน่หากมองว่านี่คือทีมที่กำลังพัฒนาไม่ใช่ด้อยพัฒนา

กระนั้น....การโดนยิง 4 ลูกในสองเกมจากทีมเดียวกันเนี่ย...น่าเป็นห่วงแน่นอน

ทำเป็นเล่นไปเฉพาะ "ยรป" 4 นัด เด็กหงส์โดนล่อเป้า 5 ลูกครับ

อันนี้มองข้ามไม่ได้เมื่อตัวเลขเกมรับออกมาเสียประตูมากกว่าจำนวนนัดที่ลงสนาม

แม้ชนะรวดมา 3 นัด แต่พอขึ้นนัดที่สี่แพ้แถมโดนยิงซะสามลูก ผิดสังเกตและคงต้องปรับปรุงเรื่อง "การป้องกัน" อย่างเร่งด่วน

เหลืออีกสองเกม ดูไม่ใช่งานยาก ในการรับมือ LASK จากออสเตรีย ก่อนออกไปเยือน แซงต์ ชิลลัวส์ แต่เมื่อไปเพิ่มโอกาสให้ตูลูสมากขึ้นกว่าเดิม นั่นก็ทำให้ทีมไม่มีสิทธิ์ประมาท LASK เกมหน้า

แม้ เฮด ทู เฮด ได้เปรียบตูลูส จากผลรวมสองนัดล่าสุดของสองทีม แต่แต้มที่ห่างกันแค่ 2 แต้มมันมีโอกาสพลิกผัน อย่างน้อยที่สุดการที่  LASK, กระทั่งชิลลัวส์ ยังมีโอกาสลุ้นจบที่สอง เพื่อ "เพลย์ออฟ" หากพวกเขาทำแต้มสูงสุดแข่งกับ ตูลูส ได้

งานที่ดูเหมือนง่ายจะกลายเป็นยากเอาดื้อๆ

จะไปเสียเวลาเตะเพลย์ออฟทำไมกันในเมื่อเป็นที่ 1 ชัวร์ๆ

นี่แหละครับท่านผู้ชม.....

โอเค...โดยมาตรฐานหากจัดชุดใหญ่เต็มทีมหงส์แดงไม่น่าพลาดในสองนัดสุดท้าย เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ "คิดลึก" มากๆ ตอนนี้คือการป้องกันและนักเตะกองหลังบางตำแหน่ง

การไม่มี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน อีกสองเดือน "ตัวแทน" ณ จุดนี้ ก็ยังไม่มีใครแทนได้ดี

ซิมิกาส ออกทะเล เกมล่าสุด โดนเปลี่ยนตัวออกทันที การลงมาของ เทรนต์ เพื่อโยก โกเมส ไปเล่นแบ๊กซ้าย ก็โดนอีกหนึ่งลูกเป็น 2-0 ใน 58 นาทีแรก บวกลูกที่สาม เท่ากับหนักเลย

เมื่อมองย้อนไปแมตช์เสมอลูตัน ทาวน์ บอลทางแบ๊กซ้ายขึ้นไม่ได้เลย โกเมส เอียงขวาตลอด แถมพอเสียบอล โดนตลบหลังวิ่งกันน้ำบาน

แบ๊กซ้ายมีปัญหาแน่ๆ ยิ่ง เจเค เปลี่ยน ซิมิกาส หลังจบครึ่งแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา ยิ่งชัดเลยว่า "ไม่ไว้ใจ"

บอลระดับนี้จะเล่นแบบนอนยังไม่ตื่น สะลึมสะลือ คงไม่ได้

ฉายา "กรีก สเก๊าเซอร์" ตอนนี้ยับเลย

เห็นใจครับ....แต่บอลระดับอาชีพสูงสุดอย่างนี้ ไม่มีที่ว่างให้ความผิดพลาดง่ายๆ

เมื่อเราดูแบ็กโฟร์ หงส์แดง ที่ใช้ต่อจากนี้ เทรนต์, โกนาเต้, ฟานไดจ์ ดูทรงแล้ว โกเมซ กับ ซิมิกาส คงต้องแย่งตำแหน่งกันแต่ไม่ว่าเป็นใครในสองคนนี้

"น่าเป็นห่วง"

เมื่อบวกกับ แผงกองกลางที่เป็นอีกหนึ่งหน่วยช่วยป้องกันเกมรับ เจเค ยังไม่อาจวางใจ เอนโด้ ถึงขั้นต้องให้ แมคก้า ถอยกลับมาเล่นในครึ่งหลัง แต่สุดท้ายก็โดนไปอีกสองลูกล่าสุด

เมื่อเล่น ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ หลังดันเกือบครึ่งสนาม...ทุกการเสียบอลแดนบนและแดนสอง จะต้องมีด่านหน้าคอยบลอค หรือไล่แย่งบอล ไม่ใช่ ไฟเขียวผ่านตลอด มาถึงข้างหลังก็เหนื่อยแล้วในเมื่อนักเตะเกมรับของหงส์แดงเวลานี้ ไม่ "เนี้ยบ" เหมือนช่วงเวลาที่คว้าแชมป์ 3 ซีซั่นก่อน

ช่วงนั้นหลายจังหวะหลุดจากการเสียบอลมาทั้ง ฟานไดจ์ , เทร้นต์ ยังพอเอาอยู่

ช่วงนี้...หลุดมาเป็นโดนล่อทันที

ในมุมนักวิเคราะห์....ย่อมเป็นห่วงเกมรับของทีมอย่างยิ่ง

โอเค...ภาพรวมการป้องกันยังมีกลุ่มนักเตะที่ต้องเล่นกับเบรนต์ฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 12 พ.ย. นี้  โดยเฉพาะกลุ่มชุดใหญ่ที่เล่น 45 นาทีหลัง ทั้ง เทร้นต์, โกเมส แมคก้า, โซโบ , ซาลาห์, โชต้า มีเติม ฟานไดจ์ กับ โกนาเต้ ลงมา แต่ก็นั่นแหละ ชุดใหญ่จริงๆ ในแนวรับเล่นพรีเมียร์ลีก 11 นัด "คลีน ชีต" 3 เกมเอง

ปกติ เบรนต์ฟอร์ด  เล่นนอกบ้านกับทีมใหญ่เน้นรับเหนียวแน่น รอสวนกลับ ยิ่ง ลูตัน ทาวน์ เกือบเอาชนะหงส์แดงได้จากเกมลักษณะอย่างนี้ ยิ่งทำให้ โทมัส แฟรงค์ มีช่องทางเล่นงานลิเวอร์พูลในแอนฟิลด์ ได้อยู่

ปีนี้ออกตัวเล่นในบ้านชนะรวด 5 นัด เสีย 2 ลูก (นอกบ้านเสีย10 ลูก)

การโดนตูลูสและลูตัน สอยตาข่ายได้ไม่ยาก น่าจะกระชากสติสตัง ของเด็กหงส์รวมทั้ง เจเค ในการรับมือการเกมสวนกลับ, ลูกเตะมุม, ทุ่มไกล ที่สุดอันตรายของ เบรนฟอร์ต

การป้องกันอย่าพลาดง่าย....อย่าหลวม

หากถึงขั้นโดนยิงประตูก่อนเหมือนหลายๆเกม นั่นจะทำให้แทกติกที่วางเอาไว้เล่นยากขึ้น

อ้อ....อเล็กซิส แมก อลิสเตอร์ โดนแบนจากใบเหลืองสะสม 5 ใบพอดี... คงไม่มีทางเลือกอื่นต้องใช้ วาตารุ เอนโด้ เล่น แล้วลุ้นกันว่าจะปรับตัวได้ดีขนาดไหนกับแผงมิดฟิลด์ ที่เหลือและการป้องกันหน้าไลน์เกมรับ รวมทั้งการบลอคเกมสวนกลับของเบรนท์ฟอร์ด

ทำเป็นเล่นไป ถ้าหากแนวป้องกันไม่รัดกุมเหมือนหลายๆเกม มาเจอเบรนต์ฟอร์ด ที่ฟื้นคืนฟอร์มกลับมาแล้ว

เด็กหงส์ชุด JK2.0 มีสิทธิ์ "คาบ้าน" ได้เลย