ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » 7 ข้อต้องรู้ ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์! งานนี้ "ช้างศึก" ต้องชนะสถานเดียว!

7 ข้อต้องรู้ ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์! งานนี้ "ช้างศึก" ต้องชนะสถานเดียว!

Posted 20/11/2023 by siamsport



ความสำเร็จในอดีต, สไตล์การเล่น, เฮดโค้ช, ทีมชุดปัจจุบัน, นักเตะเด่น, นักเตะน่าจับตามองและเกร็ดน่ารู้เรื่องอื่นๆ 'SIAMSPORT' ขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับทีมชาติ 'สิงคโปร์' เพิ่มมากยิ่งขึ้น!!

 ทีมชาติไทย พบสิงคโปร์ วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี (หมายเลข 32)

[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต

  สิงคโปร์ คือประเทศที่ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์อาเซียน ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากไทย เพียงชาติเดียวเท่านั้น โดยพวกเขาครองโทรฟี่อันทรงเกียรตินี้ถึง 4 สมัย

   ทว่าในยุคหลังๆ มาตรฐานของขุนพล เมอร์ ไลอ้อนส์ ค่อนข้างจะตกลง เพราะไม่สามารถทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศมาตั้งแต่ปี 2012 เลยทีเดียว

   ส่วนในศึก ซีเกมส์ พวกเขาก็ไปได้ไกลที่สุดเพียงเหรียญเงินเท่านั้น และต้องย้อนไปในทศวรรษที่ 80' อีกต่างหาก

   อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ ก็มีผลงานในระดับทวีปที่น่าภาคภูมิอยู่หนหนึ่ง ในปี 1966 ที่สามารถคว้าอันดับ 4 ของ เอเชียนเกมส์ มาครองได้สำเร็จ ซึ่งหนนั้นจัดแข่งขันกันที่เมืองไทย นั่นเอง


   นอกจากนี้ พวกเขาก็เคยผ่านเข้าไปเล่นใน เอเชียน คัพ ครั้งนึง เมื่อปี 1984 แม้จะจะตกรอบแรก แต่ก็เก็บชัยชนะได้ 1 เกม

[ 2 ] สไตล์การเล่น

   สิงคโปร์ ชุดปัจจุบันเป็นทีมที่เน้นรับเป็นหลัก แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคู่แข่งของพวกเขาจะเป็นใคร เพราะถ้าเป็นทีมที่แรงกิ้งต่ำกว่าหรือใกล้เคียง เมอร์ ไลอ้อนส์ ก็พร้อมจะเปิดหน้าแลกเช่นกัน

   อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มักจะเป็นรองฝั่งตรงข้าม แท็กติกและรูปแบบการเล่นของสิงคโปร์ จึงมักจะออกมาในเชิงตั้งโซนเสียมากกว่า แล้วค่อยหาจังหวะฉาบฉวยจากความผิดพลาดเข้าทำประตู เพราะในแดนบนมีนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยจังหวะเพียงหนเดียว

[ 3 ] เฮดโค้ช

   ทากายูกิ นิชิกายะ อดีตนักเตะสารพัดประโยชน์ในแนวรับชาวญี่ปุ่น ผู้ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติสิงคโปร์ เมื่อช่วงกลางปี 2022

   ก่อนจะผันตนเองสู่ทางโค้ช เขาเคยเล่นให้ทีมใหญ่ใน เจลีก อย่าง นาโกยะ แกรมปัส เอต มาแล้ว ก่อนจะย้ายไป อาวิสปา ฟูกุโอกะ, เวอร์ดี้ คาวะซากิ, เจฟ ยูไนเต็ด และไปแขวนสตั๊ดที่ อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ

   พอมุ่งหน้าสู่การเป็นเทรนเนอร์ เขาก็ผ่านประสบการณ์มาพอสมควรกับหลายสโมสรในลีกรองของญี่ปุ่น กระทั่งมาเป็นกุนซือของสิงคโปร์

   อย่างไรก็ตาม ผลงานของ นิชิกายะ ในฐานะแม่ทัพ เมอร์ ไลอ้อนส์ นั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะมีเปอร์เซ็นต์ชนะเพียง 42.1 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลยที่น้อยเอามากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนเกมที่เขาคุมทีม โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ 2022 ที่ตกรอบแรก ทั้งๆ ที่มี 7 คะแนน

[ 4 ] ทีมชุดปัจจุบัน 

   ผู้เล่นสิงคโปร์ ชุดคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย รอบที่สองยังอุดมไปด้วยนักเตะหน้าเดิมๆ นำโดย ฮาริส ฮารุน กัปตันทีมเจ้าของสถิติรับใช้ชาติ 127 นัด, ฮัสซัน ซันนี่ ผู้รักษาประตูจอมเก๋า ร่วมด้วยก๊วนแข้งที่เล่นใน ไทยลีก อย่าง อีร์ฟาน-อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ และ ไรฮาน สจ๊วร์ต

   นอกจากนี้ยังมี อิลฮาน น้องเล็กแห่งตระกูล ฟานดี้ ที่ค้าแข้งที่เบลเยียม อยู่ในทัพ เมอร์ ไลอ้อนส์ เช่นกัน

   ดังนั้นพวกเขาจะขาดเพียง ชาคีร์ ฮัมซาห์ (กองหลัง) และ ฟาริส รามลี่ (ปีก) เพียงสองรายเท่านั้นในทีมชุดปัจจุบัน

[ 5 ] นักเตะเด่น

   จริงๆ แล้วทีมชาติสิงคโปร์ จะมีความอันตรายทวีคูณ หากว่า อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ อยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อย แต่หัวหอกจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพิ่งจะสลัดอาการบาดเจ็บมาได้ไม่นาน ทำให้พวกเขาต้องหวังพึ่งพา ชาวาล อานัวร์ แนวรุกร่างเล็ก ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในเป็นลำดับ 3 ในทีมชุดนี้

   กองหน้าร่างเล็กวัย 32 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งกาจที่สุดของ เอสลีก ยุคปัจจุบัน กับสกิลการลากเลื้อยที่เยี่ยมยอด บวกด้วยเรื่องของจังหวะสุดท้ายในกรอบเขตโทษที่ทำได้เฉียบขาดเมื่อได้สับไก

   [ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง

   อิลฮาน ฟานดี้ น้องเล็กแห่ง ฟานดี้ แฟมิลี่ ในทีมชาติวิงคโปร์ ผู้โลดแล่นในลีกรองของเบลเยียม กับ ไดน์เซอ และเล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก โดยเฉพาะบทบาทเพลย์เมเกอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัดที่สุด

   เจ้าของรางวัล 'ดาวรุ่งยอดเยี่ยม' ของ เอสลีก มีจุดเด่นในเรื่องวิสัยทัศน์การจ่ายบอลแนวลึกที่สามารถพิฆาตแนวรับได้เพียงเสี้ยววินาที แถมยังมักจะหาพื้นที่ในการยิงไกลได้บ่อยครั้งอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทีมชาติไทย ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด

[ 7 ] เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

- ก่อนหน้านี้ ไทยเคยเผชิญหน้ากับสิงคโปร์ มาทั้งหมด 66 ครั้ง โดยผลการแข่งขันแบ่งเป็น ชนะ 37, เสมอ 18 และแพ้ 11 นัด โดยยิงไปถึง 11 ลูก 

- ครั้งแรกที่ทั้งสองทีมพบกันคือปี 1957 โดยตอนนั้นไทย ถล่มสิงคโปร์ ไปถึง 6-0

- ส่วนปีล่าสุดที่ปะทะกันคือในทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ 2020 (แข่งขันในปี 2021) รอบแรก โดยเป็นไทย ที่ชนะไป 2-0

-  ธีรศิลป์ แดงดา (กองหน้า) คือนักเตะที่อายุมากที่สุดของไทย ชุดนี้ (35 ปี) ส่วนฝั่งสิงคโปร์ คือ ฮัสซัน ซันนี่ (ผู้รักษาประตู) ที่มาพร้อมวัย 39 ปี

- ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (กองหน้า) คือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของไทย ชุดนี้ (21 ปี) ขณะที่สิงคโปร์ เป็น อิลฮาน ฟานดี้ แนวรุกวัยเท่ากัน

- ธีรศิลป์ แดงดา คือดาวซัลโวของฝั่งไทย (64 ประตู) ส่วนทางสิงคโปร์ มี อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ ที่ซัดไป 17 ประตู จาก 33 เกมในนามทีมชาติ

- ทีมชาติไทย ชุดนี้มาจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด จ่าฝูงของ ไทยลีก 2023-24 มากที่สุด ด้วยจำนวน 5 คน

- ขณะที่สิงคโปร์ นั้นมีถึง 10 คน ที่สังกัด ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส รองแชมป์ เอสลีก

- ทีมชาติไทย มีนักเตะ 4 ราย ที่ค้าแข้งต่างแดน ได้แก่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน, เบลเยียม), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย), สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น) และ เอกนิษฐ์ ปัญญา (อุราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส, ญี่ปุ่น)

- ส่วนสิงคโปร์ มี 8 คน ได้แก่ อิลฮาน ฟานดี้ (ไดน์เซอ, เบลเยียม), ซุลฟามี่ อาราฟิน (บาห์ยังการา, อินโดนีเซีย), ยาค็อบ มาห์เลอร์ (มารูดา ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย), ซง อุย-ยง  (เปอร์เซบาญ่า ซูราบาญ่า, อินโดนีเซีย), ซาฟูวาน บาฮารุดิน (เซลังงอร์, มาเลเซีย) และ 3 แข้งจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไล่ตั้งแต่ อีร์ฟาน-อิกห์วาน ฟานดี้ รวมไปถึง ไรฮาน สจ๊วร์ต

- สิงคโปร์ มีนักเตะ 6 คน ที่มีส่วนร่วมกับ ไทยลีก เพราะนอกจาก อีร์ฟาน-อิกห์วาน ฟานดี้ และ ไรฮาน สจ๊วร์ต ที่เล่นกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ ฮัสซัน ซันนี่ (อาร์มี่ ยูไนเต็ด), ซุลฟาห์มี่ อาริฟิน (ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, สมุทรปราการ ซิตี้, สุโขทัย เอฟซี) รวมไปถึง ซง อุย-ยง (หนองบัว พิชญ เอฟซี) ก็เคยมาค้าแข้งบนแผ่นดินสุวรรณภูมิเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »