เป็นเรื่องปกติที่ทุกๆ สโมสรต้องมีการวางแผนล่วงหน้าในการหาทายาทสืบทอดตำแหน่งผู้จัดการทีมเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สโมสรเกิดอาการสะดุด เหมือนตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยไม่ได้มีการวางตัวแทนที่เหมาะสมจนทำให้ "ผีแดง" ยังไม่ฟื้นคืนชีพจนทุกวันนี้

จากเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ทุกๆ ทีมต้องมีการมองเรื่องอนาคตเพื่อหาคนมาสืบทอตตำแหน่งกุนซือ อย่างในกรณีของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้เริ่มมีการวางแผนหาทายาทของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2026 กันแล้ว

ก่อนหน้านี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม คือตัวเก็งเต็งหนึ่งหลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะกุนซือมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ "หงส์แดง" มีเป้าหมายใหม่นั่นก็คือ ชาบี อลอนโซ่ ตำนานมิดฟิลด์ชาวสแปนิช ซึ่งกำลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดในการคุม "ห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล เท่านั้นที่กำลังมองหาทายาทกุนซือ เพราะบรรดาท็อปเซเว่น ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้พร้อม เนื่องจากหากเกิดปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่คิดเรื่องอนาคต มีสิทธิ์จะหลับไม่ฟื้นเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้

อาร์เซน่อล - แจ็ค วิลเชียร์

ตำแหน่งของ มิเกล อาร์เตต้า กับอาร์เซน่อล ยังแข็งแกร่งมากๆ โดยเขาสามารถนำทัพ "ปืนใหญ่" ลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา สำหรับ กุนซือชาวสแปนิช ยังคงมีสัญญาในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม อีกหลายปี

ถ้าหากถึงเวลาที่ อาร์เตต้า ต้องออกไปแตะขอบฟ้าอีกครั้ง นั่นหมายความว่า อาร์เซน่อล จะต้องหากุนซือคนใหม่ และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเลือกโค้ชคนหนุ่มไฟแรง ว่ากันว่าคนๆ นั้นอาจเป็น แจ็ค วิลเชียร์ ซึ่งถือเป็นทายาทที่เพอร์เฟกต์มากๆ

เหตุผลก็เพราะเขาคืออดีตมิดฟิลด์ อาร์เซน่อล เฉกเช่น อาร์เตต้า และย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางของวัฒนธรรมสโมสรเป็นอย่างดี โดยตอนี้ วิลเชียร์ กำลังอยู่ในช่วงก้าวแรกของงานโค้ชให้กับ อาร์เซน่อล ด้วยการคุมทัพ "ปืนใหญ่ รุ่นยู-18 และถ้าเขาทำผลงานได้ดีก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับไม้ต่อจาก อาร์เตต้า เช่นกัน

เชลซี - รูเบน อโมริม

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ค่อยๆ พัฒนาฟอร์มการเล่นของ เชลซี อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่เข้ามารับงานในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ด้วยความเป็น เชลซี มันไม่ได้หมายความว่างานของเขาจะปลอดภัย เพราะอดีตกุนซือของ "สิงห์บลูส์" หลายคนที่เคยทำผลงานได้ดีแต่พอทำพลาดก็โดนปลดทันที

ในกรณีที่ "พอช" โดนอับเปหิออกจากตำแหน่ง งานนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว โดยพวกเขาล็อกเป้า รูเบน อโมริน โค้ชชาวโปรตุกีส เพราะมองว่านี่คือทายาทสืบทอดตำแหน่งที่เพอร์เฟกต์ที่สุดสำหรับสโมสรแห่งนี้

อโมริม สร้างผลงานดีมีคุณภาพกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และตัวเขาก็รู้สึกพร้อมที่จะทดสอบศักยภาพของตัวเองในการคุมงานในลีกชั้นนำของยุโรป และ เชลซี ถือเป็นความท้าทายที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา ขณะที่สโมสรก็ประทับใจผลงานของ อโมริม กับ สปอร์ติ้ง เช่นกัน

ลิเวอร์พูล - ชาบี อลอนโซ่

ดูเหมือนว่าจังหวะเวลาของ ชาบี อลอนโซ่ ที่จะเข้ามาแทนตำแหน่ง คล็อปป์ ถือว่าเหมาะเจาะลงตัวจริงๆ เมื่อนายใหญ่ชาวเยอรมันตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์ โดยเฉพาะถ้า "คุณชาย" สามารถนำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์บุนเดลลีกาได้สำเร็จ

ผลงานของ อลอนโซ่ ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ "เดอะ เร้ดส์" ที่อยากได้ตัวเขา แต่ เรอัล มาดริด ก็เป็นอีกสโมสรที่หมายปองเจ้าตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โค้ชชาวสแปนิช แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะกลับมาอยู่บ้านหลังที่สองนั่นก็คือแอนฟิลด์

สำหรับงานของ อลอนโซ่ กับ เลเวอร์คูเซ่น ต้องยอมรับว่าโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญสไตล์การทำทีมของเขาแบบจะถอดปรัชญาที่เน้นการเล่นเกมรุกแบบดุดันของ คล็อปป์ เลยก็ว่าได้ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บอร์ดบริหารสโมสรจะหมายปองเขาให้เป็นทายาทของ "บอส" ที่สำคัญแฟนบอล "หงส์แดง" ก็อยากได้ ตำนานมิดฟิลด์ของพวกเขากลับคืนสู่เหย้าเช่นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - โรแบร์โต้ เด แซร์บี้

ต้องยอมรับว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอนาคตอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่งานเลี้ยงต้องเลิกลา ทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีชื่อทายาทเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือชาวอิตาเลียน

เด แซร์บี้ กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมหลังจากเข้ามารับงานคุม ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และสามารถนำสโมสรคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ "เดอะ ซีกัลส์" ขณะที่ในฤดูกาลนี้ก็ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีเช่นเคย

เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน เป็นกุนซือที่มีการปรับเปลี่ยนแท็คติกให้เหมาะกับทีมอยู่ตลอดเวลา และด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้รับคำชื่นชอบจากบรรดาเกจิลูกหนัง ขนาด เป๊ป ยังเคยมีข่าวว่าอยากได้ เด แซร์บี้ มาเป็นทายาทในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ยูเลียน นาเกิลส์มันน์

คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าหน้าที่การงานของ เอริค เทน ฮาก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่บนเส้นด้ายแล้ว และด้วยการที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เตรียมจะเข้ามาซื้อหุ้น "ผีแดง" โดยเขามีโปรเจกต์ชัดเจนเรื่องผู้จัดการทีมคนใหม่ แถมผลงานของ กุนซือชาวดัตช์ ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ทำให้เป็นเรื่องชอบธรรมหากจะปลดเขาออกจากตำแหน่ง

ถ้าหากเกิดกรณีนั้นจริงๆ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ โดยเจ้าตัวมีประสบการณ์ในการคุมสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และนำทีมประสบความสำเร็จมาแล้ว และยังเป็นคนหนุ่มไฟแรง ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ "ปีศาจแดง" มองว่าเหมาะสมกับการกอบกู้ความยิ่งใหญ่คืนกลับมา

ปัจจุบัน นาเกิลส์มัน ทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมชาติเยอรมนี ลุยศึกยูโร 2024 ที่เมืองเบียร์ และถ้าหากจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวไม่ว่าทัพ "อินทรีเหล็ก" จะทำผลงานได้ดีหรือไม่ก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือเลือกเขาให้เข้ามาทำงานแทน เทน ฮาก แน่นอน

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด -  คีแรน แม็คเคนน่า

ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ต้องประสบกับฤดูกาลที่ยากลำบากในช่วงปีนี้ ขาเก้าอี้กุนซือของ เอ็ดดี้ ฮาว ยังคงแข็งแกร่ง ถ้าเขาจะอำลาตำแหน่ง ก็มีผู้จัดการทีมที่น่าสนใจหลายคนที่ "เดอะ แม็กพายส์" ล็อกเป้าเอาไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับวงการลูกหนัง

อย่างไรก็ตามคนที่เตะตาบอร์ดบริหาร "สาลิกาดง" นั่นก็คือ คีแรน แม็คเคนน่า ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากการทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ อิปสวิช ทาวน์ โดยเขาสามารถนำทีมเลื่อนชั้นจาก ลีก วัน ขึ้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

แน่นอนว่าดูเหมือน แม็คเคนน่า อาจจะเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างเสี่ยง แต่ นิวคาสเซิ่ล ก็ชอบเสี่ยงอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้การที่พวกเขาเลือกแต่งตั้ง ฮาว ให้เข้ามาคุมทีมก็มีหลายเสียงคัดค้าน และไม่เชื่อฝีมือ แต่สุดท้ายเจ้าตัวพิสูจน์ให้เห็นด้วยการนำทีมติดท็อปโฟร์ และเข้าชิงคาราบาว คัพ (แพ้ แมนฯ ยูฯ) เมื่อฤดูกาล 2022-2023

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ - ไมเคิ่ล คาร์ริค

โอกาสแทบเป็นศูนย์ที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู จะโดนไล่ออกในเร็วๆ นี้ แต่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าอาจจะไม่แน่ ฉะนั้น สเปอร์ส ก็ต้องเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้พร้อม เพื่อที่จะหากุนซือที่สามารถสานต่อแท็คติกลูกหนังที่เน้นเกมบุกเอาไว้ต่อไป

ถ้าคนที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับสโมสรก็คงเป็น ไมเคิ่ล คาร์ริค ซึ่งเขาก็ยังคงเป็นที่รักของแฟนบอล "ไก่เดือยทอง" โดย อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานได้น่าประทับใจในช่วงต้นอาชีพผู้จัดการทีม และถือเป็นกุนซือรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองด้วย

หากถึงเวลาที่ ปอสเตโคกลู ก้าวออกจากตำแหน่ง คาร์ริค ก็น่าจะสะสมประสบการณ์ได้มากพอที่จะสามารถแทนที่ของ โค้ชชาวออสซี่ ได้