ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด แสดงความมั่นใจว่า ผีแดง มีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าหลังตอบรับดึง เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เศรษฐีคนดังชาวเมืองผู้ดีมาร่วมบริหารสโมสรผ่านทางการถือครองหุ้น 25%

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกลงขายหุ้นให้กับ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ อย่างเป็นทางการแล้วแม้แรกทีเดียวตระกูลเกลเซอร์จะประกาศขายทีมตามความต้องการของแฟนบอล แต่สุดท้ายสถานการณ์ค้างเติ่งชนิดที่แทบไม่มีความเคลื่อนไหวกระทั่งส่งผลให้ ชีค ยาสซิม ตัดสินใจถอนตัวจากการเจรจาขอเทคโอเวอร์ ขณะที่มหาเศรษฐีวัย 71 ปีซึ่งเป็นคู่แข่งกับนายธนาคารคนดังจากกาตาร์หันมาติดต่อขอซื้อหุ้นของ ผีแดง แทน

จนในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด แถลงขายหุ้นจำนวน 25% ให้กับ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ อย่างแน่นอนแล้วแลกกับการรับทรัพย์ 1.25  พันล้านปอนด์ (ราว 55,000 ล้านบาท) โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่ของทีมตกลงอัดฉีดเงินอีก 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 10,800 ล้านบาท) ลงทุนกับสโมสรในอนาคตด้วย

"เราดีใจที่ตกลงสัญญากับ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ และ INEOS ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เราประกาศปรับกลยุทธ์เมื่อเดือนพ.ย.2022 เราทุ่มเทต่อการมองหาทางเลือกหลากหลายที่จะช่วยนำพา แมนฯ ยูไนเต็ด มุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จทั้งทีมชาย ทีมหญิง และทีมอะคาเดมี่ของเรา" อาฟราม และ โจเอล เกลเซอร์ แถลงยืนยันถึงกรณีดังกล่าว

"เซอร์จิม และ INEOS มาพร้อมกับประสบการณ์ทางการตลาดเช่นเดียวกับความทุ่มเทที่จะลงทุนกับสโมสร  กับการมี INEOS Sport เข้ามาร่วมเดินทาง  แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีหนทางนำไปสู่ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม"

"แมนฯ ยูไนเต็ด มีบุคลากรที่มีความสามารถมากมายในทีม และเราปรารถนาที่จะพัฒนาในทุกระดับเพื่อช่วยให้แฟนที่ยิ่งใหญ่ของเราได้สัมผัสกับความสำเร็จที่มากขึ้นในอนาคต"