สำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล นั้น แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการที่รู้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของพวกเขาตอนจบฤดูกาล 2023-24 แต่ชีวิตมันก็ต้องเดินหน้าต่อไป และนั่นเริ่มจากวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคมนี้ที่ "หงส์แดง" มีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ เจอกับ นอริช ซิตี้ ทีมจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4

แม้ว่าปัจจุบันชื่อชั้นของทั้ง 2 ทีมจะถือว่าห่างกันเยอะมาก แต่พวกเขาก็ถือเป็นคู่แข่งที่มีประวัติระหว่างกันโชกโชนในระดับหนึ่ง มาดูกันสักหน่อยว่าเกมนี้มีเกร็ดอะไรที่น่าสนใจบ้าง

- การเจอกันเอง

ด้วยความที่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีสภาพดีกว่าบานเบอะ ทำให้มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ในการเจอกัน 18 นัดหลังสุดของทุกรายการนั้น ลิเวอร์พูล ไม่เคยเป็นฝ่ายแพ้เลย แบ่งเป็นการชนะ 16 เกมกับเสมอ 2 หน ทำให้นี่ถือเป็นคู่แข่งที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ให้ติดต่อกันยาวนานที่สุดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ กับการเจอกันในเกม เอฟเอ คัพ 3 หนหลังสุดนั้น นอริช ก็คือทีมที่เป็นฝ่ายตกรอบทั้งหมด โดยครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ที่พวกเขาดวลกันในถ้วย เอฟเอ คัพ คือการแข่งรอบ 5 เมื่อฤดูกาล 2021-22 ซึ่งนั่นต่างกับการเจอกันในถ้วย เอฟเอ คัพ 3 หนแรกระหว่างทั้งคู่ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1909-1951 อย่างสิ้นเชิง เพราะตอนนั้น นอริช เป็นฝ่ายผ่าน ลิเวอร์พูล ได้ทั้งหมด

- การเจอกับทีมจากคนละลีก

12 ครั้งหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล ดวลกับทีมที่มาจากลีกที่ต่ำกว่าพวกเขาในถ้วย เอฟเอ คัพ นั้น "หงส์แดง" มักจะไม่พลาด เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบได้ถึง 11 หนเลยทีเดียว ครั้งเดียวที่ทำไม่สำเร็จคือตอนเดือนมกราคม ปี 2017 ที่พวกเขาแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 คารัง แอนฟิลด์

ในทางตรงกันข้าม 12 เกมหลังสุดที่ นอริช ลงเล่น เอฟเอ คัพ ในฐานะที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุด และต้องเจอกับทีมจากลีกสูงสุดนั้น พวกเขาไม่เคยผ่านเข้ารอบได้แม้แต่หนเดียว โดยครั้งสุดท้ายที่ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ล้มยักษ์ได้นั้นต้องย้อนไปถึงปี 1982 ที่เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0

- ใน แอนฟิลด์ ไม่ค่อยรุ่ง

ปกติแล้วเมื่อทีมไหนก็ตามที่ได้เล่นในบ้านก็มักจะมีผลงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะหากทีมเจ้าถิ่นเป็นทีมจากลีกสูงสุดขณะที่คู่แข่งมาจากลีกที่ต่ำกว่าแล้วนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าบ้านจะถูกมองว่าควรจะเข้ารอบได้แบบสบายๆ

อย่างไรก็ตาม ในเกม เอฟเอ คัพ 8 นัดหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล ได้ต้อนรับทีมที่มาจากลีกระดับ 2 นั้น พวกเขากลับเก็บชัยชนะได้แค่ 2 เกม โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 2 หนกับแพ้ 4 นัด ขณะที่ 4 นัดหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านในเกม เอฟเอ คัพ นั้น มันก็เกิดจากน้ำมือของทีมในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ 3 หนเลยทีเดียว