ความหวังแชมป์ที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวในฤดูกาลนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง เอฟเอ คัพ ยังคงมีชีวิตอยู่ เมื่อพวกเขาบุกไปเฉือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 และนี่คือสิ่งที่อยากจะบอก

1. ก่อนแข่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เจ็บไปอีกคนจนต้องเอา โซฟิยาน อัมราบัต ไปเล่นแบ็คซ้ายจำเป็น

ตรงกลาง "ไอ้หนู" ค๊อบบี้ ไมนู ได้พักน่อง เพื่อให้ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงตัวจริงบ้าง เช่นเดียวกับ อันโตนี่ ที่ได้โอกาสลงตัวจริงอีกครั้ง

เห็น "ไลน์อัพ" แล้วก็ทำใจล่วงหน้า

2. ปีศาจแดงครองบอลบุกได้มากกว่าในช่วงแรก แบบว่าหลัง "คาบ้าน" มา พวกเขาดูมีความกระเหี้ยนกระหายกันมากขึ้น

กระทั่งผ่าน 15 นาทีแรกไปก็เริ่มเหมือนเดิม คือจ่ายบอลกันขาดๆ เกินๆ ครองบอลคุมเกมรุกไม่ได้ และหาจังหวะทำลายตาข่ายไม่ค่อยเจอ

โชคดีอีกแล้วที่เจ้าถิ่นมีอัตราความ "อู๊ดดี้" สูงมาก จึงยิงทิ้งยิงขว้าง แถมยิงยังไงก็ตรงตัว อองเดร โอนาน่า

3. ทั้ง 2 ทีมเล่นกันได้น่าเบื่อมาก คุณภาพการต่อบอลเข้าขั้นบัดซบและตบชักอย่างจงหนัก

แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการประสานงานกันระหว่างผู้เล่น ต่อเมื่อต่างคนต่างเล่นก็เล่นกันไม่ค่อยฉลาดอีก

ยกตัวอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ข้างหน้าคู่แข่งยืนขวาง 3 คน มึงเลี้ยงเข้าไปให้มันติดดื้อๆ

อันโตนี่ อาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีประโยชน์เหมือนเดิม

มาร์คัส แรชฟอร์ด พยายามวิ่งมากขึ้น หลังถูกด่าอย่างหนัก เห็นแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลย

แบ็คซ้ายที่ต้องเอามิดฟิลด์ตัวรับไปเล่นกลายเป็นจุดอ่อน

ตกลงมึงชนะได้ไงเนี่ยยยย ????

4. ประตูชัยมาจากลูกเซ็ตพีซที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกยัดเข้ามาแบบเร็วแรง ก่อน กาเซมิโร่ จะทิ้งตัวโขกเปลี่ยนทางตุงตาข่าย

จังหวะไหนทำกันได้ดีก็ต้องชมบ้าง

เพียงแต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไรสักเท่าไหร่ ไอ้ที่มีชัย เพราะคู่แข่งคือทีมมาตรฐานต่ำที่คุณภาพต่ำกว่าตัวเองนั่นแหละ

5. ทะลวงผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้วก็จริง แต่ความสำเร็จนั้นยังห่างไกล

ด้วยฟอร์มกระท่อนกระแท่นแบบนี้ แถมทีมระดับพญายักษ์อย่าง แมนฯ ซิตี้, เชลซี และลิเวอร์พูล ต่างพาเหรดกันเข้ารอบเช่นกัน

โอกาสคว้าแชมป์มันยากมากก็จริง ทว่าในเมื่อมันยากมากนัก ในเมื่อตัวเองอาจไม่ได้ก็อย่าทำให้บางทีมเขาได้แล้วกัน หยุดเขาให้ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว 5555555555