ฟุตบอลก็แบบนี้แหละครับ บอลเหนือกว่า ยิงนำ 1-0 แต่จบเกมด้วยการไม่ชนะเยอะแยะไป เพียงแต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับทีมชาติไทยของเรา....เราก็แฮปปี้ แน่นอน

ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราได้แต้มอันมีค่าต่อทีมไทย, แฟนบอลและวงการฟุตบอลไทย ในการแบ่งแต้มจากทีมอันดับ 22 ของโลก มันก็คงไม่ใช่เราซะร้อยเปอร์เซนต์ เพราะบอลเล่นกันสองทีม

กระนั้น 90+6 นาที่ที่โซล เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม มันมีจังหวะของเกมที่เป็นใจให้เรา และเป็นโอกาสของเกาหลีใต้ เหมือนกัน

แทกติกของ มาซาทาดะ อิชิอิ คือ 4-2-3-1 แต่พอรับ 4-4-2

GK ;ปฏิวัต คำไหม

4 กองหลัง ; มิเคลสัน, พรรษา, สุพรรณ, ธีราทร

4 กองกลาง ; เจริญศักดิ์, วีระเทพ, พีรดนย์, สุภโชค

หน้าต่ำ ; ชนาธิป

หน้าเป้า ; ศุภชัย

ส่วนฮวาง ซุน ฮง จัดตัวทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกให้โอกาส กองหน้าวัย 33 ปี 333 วันจากอุลซาน ฮุนได ที่ติดทีมชาติครั้งแรก ชู มิน กยู อันเป็นสถิตินักเตะอายุมากสุดเล่นให้ทีมชาติเกาหลีใต้ และไม่ส่ง อี คัง อิน เล่นตัวจริงนัดนี้ และ ซน ฮึง มิน เล่นเบอร์สิบ มีอิสระ ในการเคลื่อนที่หน้าเกมรุก

แผนของ ซุน ฮง คือ 4-2-3-1

GK ; โจ ฮยอน วู

แบ๊กโฟร์ ;โซล ยอง วู, คิม มิน แจ, คิม ยอง กวอน, คิม จิน ซู

2 มิดฟิลด์ ; เพค ซึง โฮ, ฮวัง อิน บอม

3 ตัวรุก ; จง วู ยง, ซน ฮึง มิน, อี แจ ซอง

หน้าเป้า ; ชู มิน กยู

1 อิชิอิ เพรสเร็ว 5 นาทีแรก

การเปิดฉากเพรสซิงแดนบนถึงหน้าบ้านเกาหลีใต้ ที่มี คิม มิน แจ, คิม ยอง กวอน ตัวบิลด์ อัพขึ้นบอลและ ประตู โจ ฮยอน วู ตั้งแต่เขี่ยบอลส่งผลให้ทีมเจ้าบ้านเล่นเกมไม่ได้ ออกลูกสะเปะสะปะ ใหเห็น แถมเกือบโดนทีมไทยยิงนำก่อนด้วยซ้ำ จังหวะ ศุภชัย ใจเด็ด ได้บอลจากจังหวะที่เราเพรสได้ สับไกยิงเต็มข้อ แต่ ฮยอน วู ลอยตัดปัดออก ช่วงนั้นเกาหลีใต้โดนไทยเตะมุมติดๆกัน 3 ครั้งในสามนาที

เกาหลี ตั้งลำไม่ได้ 10 นาทีแรก

จากนั้นไทยถอยมารับลึกหน้าเขตโทษ แบบ 4-4-2 เชปเกมรับ แผงกองกลางทั้งเจริญศักดิ์, วีระเทพ, พีรดนย์ และ สุภโชค ลงมายืนหน้าไลน์เกมรับ มี ชนาธิป กับ ศุภชัย ช่วยกันไล่บอลในแดน ขณะที่เกาหลีใต้ พยายามออกด้านข้าง

2 เกาหลีใต้ ตั้งหลักได้เมื่อผ่าน 30 นาที

อันนี้ต้องยอมรับทีมมาตรฐานสูง พอตั้งลำได้ กำหนดเกมการเล่นของตัวเองได้ สปีดบอล และ การเคลื่อนที่ ต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาคุมเกมไว้หมด บีบไทยรับ แบบไม่ต้องสวนกลับอะไรเลย

เรียกว่านวดเราจน ปฏิวัติ มีเซฟจังหวะสำคัญ อย่างลูกฟรีคิก แฉลบกระดอนพื้นก็ปัดปลายมือออกหลัง

พวกเขานวดทีมไทยจนกระทั่ง นาทีที่ 42 การขึ้นบอลทางซ้ายของพวกเขา มิน แจ แทงให้ แจ ซอง มิดฟิลด์ ริมเส้น เข้าเขตโทษ ถึงเส้นหลัง คัตแบ๊กให้ ซน ฮึง มิน ยืนว่างๆ แปเข้าไปง่ายๆ 1-0 แถมก่อนหมดครึ่งแรกถ้า ปฏิวัติ คำไหม ไม่เซฟ จะโดนลูกสอง

3 เกาหลีใต้ เผลอโดนลงโทษ

จังหวะ 1-1 ต้องยอมรับว่าท่ามกลางผู้เล่นของพวกเขา 6-7 คน ขณะที่เรามี 4คน

สุภโชค เล่นกับ ศุภณัฏฐ์ หน้าไลน์กองหลัง ก่อนตวัดมาให้ มิเคลสัน ที่เติมมาในจังหวะที่ลงล้อค กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไป เสาสอง ศุภณัฏฐ์ จิ้มเข้าไป 1-1 น.61

เพลย์นี้เราเล่นเร็วและแม่น ส่วนเกาหลีใต้ ก็มึนงงกับประตูนี้ไป ทั้งที่มีผู้เล่นในเขตโทษถึง 7 คน ตอนนั้นเราเติมมาเป็น 4 คนในเขตโทษ

4 วินัยเกมรับเยี่ยม

30 นาทีหลังจากเราตีเสมอ มันคือช่วงเวลาที่บีบหัวใจเรา ส่วน เกาหลีใต้ แม้จะส่ง อี คัง อิน และ โจ กยู ซอง ลงมา แต่บทบาทก็มีประมาณหนึ่ง ไม่สามารถเจาะเกมรับทีมไทยที่ยืนกันแน่น และผิดพลาดส่วนตัวน้อย จนถึงช่วงทดเวลา

5 เกาหลีมีลุ้นช่วงทดเวลา

พวกเขามีโอกาสชนะได้ ช่วงทดเวลา นอกจากยิงออกไปเอง จากจังหวะการเล่นบอลชิ่งเร็วในเขตโทษแล้ว ปฏิวัติ ยังช่วยเซฟลูกเผาขนได้อีก ถือว่าเราเกือบโดนยิงประตูนั่นแหละครับ

แต้มหนึ่งที่ได้มามีค่าอย่างยิ่ง.....ไม่ใช่แค่หนึ่งคะแนนธรรมดา หากแต่เป็นหนึ่งแต้มที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นหลายอย่าง

เล่นบอลกับทีมระดับโลกได้แบบไม่โดนต้อนตือ ห่างชั้น

ทำให้ทีมระดับโลกอึดอัดใจได้ในหลายช่วงเวลาของเกม

30 นาทีแรก 30 นาทีท้าย

ความดีความชอบทั้งหลายเหล่านี้ยกให้นักเตะทุกคน

รวมทั้ง มาซามาดะ อิชิอิ ที่ใช้เวลาคุมทีมชาติไทยไม่นาน แต่ผลที่เกิดขึ้นไปทางบวกมากขึ้น

นัดต่อไปที่ราชมังคลากีฬาสถาน 26 มี.ค. เกาหลีใต้ ไม่มีสิทธิ์ประมาททีมไทยได้อย่างแน่นอน และทีมของเราก็จะย่ามใจไม่ได้ รวมทั้งคงต้องเล่นอย่างมีวินัย ละเอียด รอบคอบเหมือนเกมแรก แม้ว่าแบ่งแต้มให้โสมขาวเสียหน้าในบ้านตัวเองมาแล้วก็ตาม