วันอาทิตย์นี้แฟนบอลทีมชาติอังกฤษ ตั้งความหวังเอาไว้สูงมากว่าจะเห็นทัพ "สิงโตคำราม" ปราบ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2024 ได้สำเร็จ เพราะพวกเขารอคอยความสำเร็จระดับชาติมานานเกือบ 6 ทศวรรษ

 แกเร็ธ เซาธ์เกต และ ขุนพล สิงโตคำราม อาจจะไม่ได้โชว์ฟอร์มหรูหราอะไรมากนัก ถ้าเทียบกับผลงานของทัพ "กระทิงดุ" ที่สำคัญพวกเขาเสี่ยงจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายอยู่แล้ว แต่มาได้ความมหัศจรรย์ของ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่จักรยานอากาศตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเจ็บ ก่อนที่ แฮร์รี่ เคน จะยิงดับ สโลวาเกีย 2-1 ช่วงต่อเวลาพิเศษ

 ก่อนที่จะผ่าน สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการชนะจุดโทษ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และปราบ เนเธอร์แลนด์ ในรอบตัดเชือก โดยนี่คือการทะลุเข้าสู่รอบชิงยูโร 2 สมัยติดต่อกันของทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" แต่พวกเขาจะโดนตอกย้ำให้ช้ำชอกอีกครั้ง หรือสุขสมอารมณ์หมาย อีกไม่นานก็คงรู้กัน

แล้วถ้า อังกฤษ คว้าแชมป์ ยูโร 2024 ได้สำเร็จ มันจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ลองไปไปดูกัน

1. แชมป์ระดับชาติครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1966

 ประเด็นแรกที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ อังกฤษ ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์ทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ระดับประเทศเลย นับตั้งแต่ที่พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ซึ่งตอนนั้น อังกฤษ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพด้วย

  ความสำเร็จที่ เซอร์ อัล์ฟ แรมซี่ย์ และลูกทีมของเขามอบให้กับแฟนบอลทั่วประเทศ เป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มคำว่า "ต้นกำเนิดของฟุตบอลสมัยใหม่" และทำให้พวกเขาเดินเฉิดฉายในฐานะชาติมหาอำนาจแห่งวงการลูกหนังได้อย่างภาคภูมิใจ

  อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไป 58 ปี "สิงโตคำราม" ไม่มีโอกาสได้ประสบความสำเร็จในระดับชาติอีกเลย กระนั้นในยุคของ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน พวกเขาไปไกลถึงรอบตัดเชือก ในศึกเวิลด์ คัพ 1990 แต่แพ้จุดโทษ เยอรมันตะวันตก (เยอรมนี) หลังจากนั้นก็ไม่มีลุ้นอะไรมากนัก

 จนกระทั่งในยุคของ เซาธ์เกต ต้องยอมรับว่า อังกฤษ มีลุ้นความสำเร็จหลายครั้งตั้งแต่ทะลุรอบรองฯ เวิลด์ คัพ 2018 ตามด้วยเข้าชิง ยูโร 2020 จากนั้นก็ทะลุรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 และเข้าชิง ยูโร 2024

 สำหรับครั้งนี้ถ้าหากพวกเขาทำสำเร็จนี่จะถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับชาวอังกฤษ และแฟนบอล "ทรี ไลอ้อนส์" ทั่วโลก ที่สำคัญมันจะเป็น "ฟุตบอล คัมมิ่ง โฮม" ของแท้ที่ใช้เวลารอคอยเกือบ 6 ทศวรรษเลยทีเดียว

2. เคน ได้แชมป์ครั้งแรกในชีวิต

 หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจมากๆ นั่นก็คือการที่ แฮร์รี่ เคน จะหลุดพ้นจากคำว่า "ราชันไร้มงกุฎ" ซะที หลังจากที่เขาต้องแห้วความสำเร็จมาตลอดทั้งในระดับสโมสร และทีมชาตินับตั้งแต่ที่ก้าวขึ้นมาเล่นฟุตบอลอาชีพ

 หลังจากเป็นลูกหม้อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และถูกดันขึ้นเลยชุดใหญ่ในปี 2009 เคน สร้างผลงานได้อย่างสุดยอดคว้ารางวัลส่วนตัวมากมาย อาทิเช่น ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก, แข้งยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ หรือรองเท้าทองคำฟุตบอลโลก เป็นต้น

 อย่างไรก็ตาม เคน ไม่เคยได้สัมผัสโทรฟี่แชมป์ร่วมกับ "ไก่เดือยทอง" เลย ขนาดย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งผูกขาดความสำเร็จในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี แต่เมื่อเขาย้ายมาสวมชุด "เสือใต้" ทีมแห้วทั้งแชมป์ลีก, เดเอฟเบ โพคาล และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

 ดังนั้นถ้า อังกฤษ ผงาดคว้าแชมป์ยูโร 2024 จะเป็นการปลดล็อกความสำเร็จของ เคน ทันที และดีไม่ดีการคว้าแชมป์ระดับสโมสรอาจหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ที่สำคัญจะทำให้เขาหลุดพ้นจากคำว่า "อาถรรพ์เคน" ซะที

3. อังกฤษ แก้เผ็ดบนแผ่นดินเยอรมนี

 สิ่งที่แฟนบอล "สิงโตคำราม" อยากเห็นมากๆ นั่นก็คือการคว้าแชมป์ยูโร 2024 บนแผ่นดินเยอรมนี เพราะนี่คือชาติที่ทำให้พวกเขาเจ็บล้ำระกำใจมาแล้วหลายครั้งหลายหนในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ

 อังกฤษ เคยชนะทัพ "อินทรีเหล็ก" ในรอบชิงเวิลด์ คัพ 1966 แต่หลังจากนั้นพวกเขาต้องพบกับความเจ็บช้ำมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงหลายๆ ทั้งในฟุตบอลโลก 1990 และ ยูโร 1996 เยอรมนี ทำแสบกับพวกเขาอย่างมาก

 เวิลด์ คัพ 1990 ที่ประเทศอิตาลี "ทรี ไลอ้อนส์" ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ และต้องพบกับ เยอรมนี ซึ่งบทสรุปก็คือเสมอกัน 120 นาทีด้วยสกอร์ 1-1 และมาพ่ายการดวลจุดโทษ 3-4 แถม เยอรมนี ยังก้าวไปคว้าแชมป์ในครั้งนั้น

 ขณะที่ในศึกยูโร  96 พวกเขาได้เป็นเจ้าภาพ และเหมือนสวรรค์ขีดเส้นให้ทั้งสองชาติต้องพบกันอีกครั้งในรอบตัดเชือก แถมยังเสมอกัน 1-1 ตลอด 120 นาที และบทสรุปก็เหมือนเดิมเมื่อ อังกฤษ แพ้จุดโทษ 5-6 ยิ่งไปกว่านั้นคู่อริร่วมชาติยังคว้าแชมป์ยูโรบนแผ่นดินผู้ดีด้วย

 สำหรับตอนนี้ อังกฤษ มีโอกาสที่จะจารึกประวัติศาสตร์ของพวกเขาในการคว้าแชมป์ยูโรสมัยแรก และเกิดขึ้นบนแผ่นดินเยอรมนี ซึ่งแน่นอนว่านี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยลบรอยแผลแห่งความผิดหวังในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

4. รถแห่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ

 ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ อังกฤษ มีความเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ในการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกรณีที่ อังกฤษ นำโทรฟี่ "อองรี เดอ โลเนย์" กลับสู่เมืองผู้ดี เพราะแน่นอนว่าคงจะมีประชาชนเพื่อนร่วมชาติจะต้องออกมาแสดงความยินดีมากมายมหาศาล

 หลังกรุยทางเข้าไปชิงชนะเลิศกับ สเปน ได้สำเร็จ มีรายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ พร้อมจัดให้มีวันหยุดประจำปีเพิ่มในวันจันทร์นี้หากทีม "ทรี ไลอ้อนส์" ได้แชมป์รายการใหญ่เป็นครั้งแรกถัดจากการครองแชมป์ ฟุตบอลโลก ปี 1966

 ขณะที่ สมาคมฟุตบอล (เอฟเอ) กำหนดพิธีฉลองแชมป์ ยูโร 2024 เอาไว้แล้วโดยจะจัดพิธีแห่โทรฟี่เอาไว้เช่นกันในวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พร้อมจัดเหล่านักเตะและทีมงานทุกคนขึ้นรถบัสเปิดประทุนแล่นไปในย่านกลางกรุงลอนดอน และเริ่มเคลื่อนขบวนจากศาลาว่าการไปยัง ทราฟัลการ์ สแควร์ จนถึงพระราชวัง บัคกิ้งแฮม พาเลซ

 นอกจากนี้ สมาชิกทีมชาติ อังกฤษ จะได้เข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่สามด้วย รวมทั้งเจ้าชาย วิลเลี่ยมส์ ในฐานะที่ทรงดำรงตำแหน่งประธาน เอฟเอ

 ลองนึกภาพผู้คนมากมายมหาศาลที่จะออกมาต้อนรับเหล่าวีรบุรุษของชาติในการนำความสำเร็จที่รอคอยมานานหลายทศวรรษ และพร้อมระเบิดความอัดอั้นอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ชาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน ต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด

5. พระราชทานยศ เซอร์ ให้กับ เซาธ์เกต

 ก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนักในอังกฤษ รายงานว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะได้รับพระราชทานยศท่านเซอร์ ไม่ว่า อังกฤษ จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ยูโร 2024 หรือหากทัพ "สิงโตคำราม" ไปไม่สุดทางก็ตาม

 นั่นหมายความว่า เซาธ์เกต คงจะได้รับพระราชทานยศอัศวิน ไม่ว่าผลการแข่งขันกับ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ จะออกมาเป็นแบบไหน แต่มันคงจะสมศักดิ์ศรีถ้าบทสรุปสุดท้าย อังกฤษ คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่

 ถ้าหาก เซาธ์เกต ได้รับพระราชทานยศเซอร์ นั่นจะทำให้เขาได้เข้าไปอยู่ในทำเนียบบุคคลในวงการกีฬาของสหราชอาณาจักรที่ได้ยศดังกล่าว อาทิเช่น เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน , เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน , เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช, เซอร์ แอนดี้ มาร์รีย์ และ เซอร์ คริส ฮอย เป็นต้น