สถานการณ์เรื่องสัญญาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น ลิเวอร์พูล อาจต้องเตรียมแผนสองหากเกิดเหตุไม่คาดฝันหลังจบฤดูกาลนี้

"บังโม" เพิ่งตะบันไป 48 ประตูจากการเล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 90 แมตช์ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะชาวแอฟริกาคนแรกที่ทำสกอร์ได้สูงสุดในหน้าประวัติศาสตร์เกมถ้วยใบโตยุโรป

ซาลาห์ ถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งของ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว หลังมีส่วนสำคัญในการช่วย ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากมายมหาศาล และแน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" อยากให้เขาอยู่กับทีมจนกระทั่งแขวนสตั๊ด

กระนั้นสัญญาปัจจุบันของนักเตะเหลือเพียงแค่ 9 เดือนเท่านั้น และเรื่องการต่อสัญญาใหม่ก็ไม่มีความคืบหน้า นั่นหมายความว่าเขาสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับทีมนอกดินแดนอังกฤษได้ทันทีในวันที่ 1 มกราคม 2025 ทันที

ข่าวลือเรื่องอนาคตของ ซาลาห์ แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จากการที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าอาจอยู่กับทีมเป็นปีสุดท้ายหลังจบแมตช์ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนที่ผ่านมา และถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ บอร์ดบริหารจำเป็นอย่างยิ่งต้องเตรียมแผนสำรอง

งานนี้พวกเขาคงต้องรีบควานหาผู้เล่นที่มีศักยภาพใกล้เคียงหรือเหนือกว่า ซาลาห์ มาร่วมทัพ และจะมีใครที่พอจะเข้ามาทดแทน "คิง ออฟ อียิปต์" ได้บ้าง ลองพิจารณากันได้เลย

1. จาร์ร็อด โบเว่น

สำหรับ "จ่าลอด" เป็นนักเตะที่มีข่าวลือกับ ลิเวอร์พูล มาหลายครั้งหลายหน หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกให้กับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ซัดไป 20 ประตูและ 10 แอสซิสต์จากการเล่น 44 เกมในทุกรายการให้ต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในซีซั่นนี้พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างสม่ำเสมอ

ก่อนหน้านี้เขาถูกยกให้เป็น "ซาลาห์แห่งเวสต์แฮม" นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครที่จะเหมาะสมในการเข้ามาแทนที่ "บังโม" ได้เท่ากับ โบเว่น อีกแล้ว ที่สำคัญ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังเคยชื่นชมเจ้าตัวว่าเป็นนักเตะคนโปรด

อย่างไรก็ตาม การจะดึง โบเว่น มาร่วมทัพคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะ เวสต์แฮม ต้องการค่าตัวประมาณ 80-100 ล้านปอนด์ (ราว 3,520-4,400 ล้านบาท) หากอยากได้ตัวแข้งรายนี้ไปเสริมทัพ เพราะนักเตะเพิ่งจะขยายสัญญาระยะยาวกับสโมสรซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2030

2. ควิชา ควารัตสเคเลีย

แนวรุกสโมสรนาโปลี เป็นอีกหนึ่งในนักเตะระดับท็อปที่ ลิเวอร์พูล ล็อกเป้าเอาไว้เช่นกัน เนื่องจากเขาสร้างผลงานชั้นยอดให้กับต้นสังกัดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา และยังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ จอร์เจีย ในเกมยูโร 2024 ด้วย

ควารัตสเคเลีย ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในปีกที่เก่งที่สุดในยุโรป ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา และอย่างที่บอกเอาไว้ในย่อหน้าแรก เขาเล่นได้อย่างน่าประทับใจให้กับ จอร์เจีย ในศึกยูโร 2024 และทำให้ สเปน ต้องเจองานหนักในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ดาวเตะวัย 24 ปี ย้ายจาก ดินาโม บาตูมี่ มาเล่นกับ นาโปลี เมื่อปี 2022 และลงสนามไปแล้ว 96 เกมให้กับทัพ "อัซซูร์ร่า" พร้อมตะบันไปแล้ว 28 ประตู กับ 28 แอสซิสต์ให้ต้นสังกัด

สตาร์ทีมชาติจอร์เจีย วัย 23 ปี ได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรชั้นนำในยุโรป โดยศักยภาพของเขาทำให้แฟนบอลจำนวนมากตั้งฉายาว่า "ควาราโดน่า" ซึ่งมีรากศัพท์มาจากชื่อของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานกัปตันทีมอาร์เจนตินา และนาโปลี

ถ้าหาก ควารัตสเคเลีย เป็นเป้าหมายของ "หงส์แดง" งานนี้พวกเขาอาจต้องมีการปรับแนวรุกใหม่นิดหน่อย เนื่องจากนักเตะมีแนวโน้มจะทำผลงานได้ดีในการเล่นทางฝั่งซ้ายมากกว่า

3. ราฟินญ่า

ย้อนกลับไปตอนที่เล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2021/2022 ราฟินญ่า สร้างผลงานระดับปรากฎการณ์ให้กับทัพ "ยูงทอง" เมื่อตะบันไปถึง 11 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้เมื่อย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับจำนวนประตูของทีมถึง 55 ลูกจาก 97 เกม

สเปอร์ส และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีข่าวพัวพันกับ ราฟินญ่า มาแล้ว ขณะเดียวกันนักเตะเคยปฏิเสธโอกาสย้ายไปเล่นให้ เชลซี และ 2 สโมสรในศึกซาอุดี โปร ลีก ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้

ลิเวอร์พูล สนใจ สตาร์ชาวบราซิเลียน มานานแล้ว เนื่องจากเขามีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกับ ซาลาห์ ทั้งถนัดเท้าซ้ายแต่เล่นแนวรุกฝั่งขวา และชอบที่จะเลี้ยงตัดเข้าในก่อนจะตะบันประตูด้วยเท้าข้างถนัด

ถ้าหาก "เดอะ เร้ดส์" ได้ตัว ราฟินญ่า มาร่วมทัพ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแท็กติดอะไรทั้งนั้น แต่การจะเซ็นสัญญากับเขาไม่ง่ายแน่นอน เพราะเจ้าตัวค่อนข้างรัก บาร์ซ่า แต่ถ้าหากกล้าทุ่มเงินมหาศาล "เจ้าบุญทุ่ม" ก็อาจยอมปล่อยตัว เพราะพวกเขาต้องการแก้ปัญหาการเงินอยู่แล้ว

4. โยฮัน บากาโยโก้

นี่คือหนึ่งในปีกที่เล่นได้อย่างน่าตื่นเต้นของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และเคยมีข่าวกับ ลิเวอร์พุล มาตลอดช่วงซัมเมอร์ล่าสุด ที่สำคัญผู้อำนวยการกีฬาของทีมยังยอมรับว่านักเตะรายนี้คงจะไม่ได้เล่นให้กับพีเอสวี เพราะฟอร์มที่โดดเด่นแบบนี้ทีมชั้นนำอยากได้มากมาย

ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนใจคว้าตัว บากาโยโก้ ในช่วงเวลานั้น และแน่นอนว่าด้วยศักยภาพของเขามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นออปชั่นที่ดีในการนำมาแทนที่ ซาลาห์ ส่วนค่าตัวก็ไม่แรงแค่ 42 ล้านปอนด์ (ราว 1,848 ล้านบาท) เท่านั้น

ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม วัย 21 ปี ตะบันไปแล้ว 14 ประตูกับ 14 แอสซิสต์ให้กับ ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่จะได้โอกาสติดทัพบ้านเกิดไปโชว์ของในศึกยูโร 2024

บากาโยโก้ ได้ลงเล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ และซัดไป 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จากการเล่น 9 เกมในทุกรายการ แต่กระนั้นชื่อของนักเตะอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของ "เดอะ เร้ดส์" ในตอนนี้

5. เฟเดริโก้ เคียซ่า

จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล ก็เตรียมความพร้อมมาแล้ว ด้วยการเซ็นสัญญากับ เคียซ่า ช่วงซัมเมอร์นี้ แต่แน่นอนว่าด้วยปัญหาบาดเจ็บของเขา ทำให้หลายคนไม่ค่อยเชื่อว่านักเตะจะสามารถทดแทน ซาลาห์ ได้

อย่างไรก็ตาม หาก เคียซ่า เรียกความฟิตได้เต็มที่ ศักยภาพของเขาถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว และที่สำคัญนี่คือนักเตะที่มีความหลากหลายอย่างแท้จริง โดยเฉพาะความสามารถในเกมรุก

จากสถิติของ Transfermarkt  เว็บไซต์ชื่อดัง ระบุว่า สตาร์ชาวอิตาเลียน เป็นผู้เล่นที่เล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก และผลงานก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ซึ่งนั่นคือจุดเด่นของเจ้าตัว

ปีกขวา : 93 นัด 33 ประตู 14 แอสซิสต์

หน้าต่ำ : 69 นัด 15 ประตู 10 แอสซิสต์

ปีกซ้าย : 61 นัด 11 ประตู 13 แอสซิสต์

มิดฟิลด์ฝั่งขวา : 37 นัด 9 ประตู 8 แอสซิสต์

หน้าเป้า : 17 นัด 3 ประตู 4 แอสซิสต์

มิดฟิลด์ฝั่งซ้าย : 11 นัด 4 ประตู 3 แอสซิสต์

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญก็คือ เคียซ่า จะยืนระยะยาวได้ไหม !!??