โชเซ่ มูรินโญ่ ระบุ นึกเสียใจที่เคยปฏิเสธจะอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อไป รวมถึงตอนที่เลือกอยู่กับ โรม่า ต่อ พร้อมบอกว่าทุกวันนี้คนเป็นโค้ชมีความสำคัญน้อยลง

โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ เฟเนร์บาห์เช่ เปิดเผยว่าสิ่งที่ตนมานึกเสียใจย้อนหลังมากที่สุดคือการปฏิเสธที่จะอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อไป และการที่เลือกจะคุม อาแอส โรม่า ต่อ

มูรินโญ่ เคยอยู่กับ เรอัล มาดริด ระหว่างปี 2010-2013 ก่อนที่จะกลับไปรับงานกับ เชลซี ส่วนตอนกุมบังเหียน โรม่า เขาแยกทางกับทีมไม่สวยเท่าไหร่เพราะโดนปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนมกราคม ปี 2024 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 3 ของเขากับทีม หลังจากเจ้าตัวเคยนำทีมได้แชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในฤดูกาล 2021-22 และเป็นรองแชมป์ของ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในซีซั่น 2022-23

มูรินโญ่ เผยว่า "อันหนึ่งที่ผมมานั่งนึกเสียใจย้อนหลังมากที่สุดคือการตอบปฏิเสธ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ตอนนั้นเขาบอกกับผมว่า -อย่าเพิ่งออกจากทีมเลย นายพาทีมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้แล้ว และช่วงที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึงเลยนะ- ผมรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนั้นผมอยากกลับไปคุม เชลซี มากๆ หลังจากได้เจอกับความท้าทายที่ยอดเยี่ยมเป็นเวลา 3 ปีในการทำงานที่ สเปน"

"ผมต้องพูดถึงเกมที่ บูดาเปสต์ ด้วย (หมายถึงเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศของฤดูกาล 2022-23 ที่ โรม่า ของ มูรินโญ่ แพ้ เซบีย่า ในช่วงดวลจุดโทษ) ไม่ใช่จากประเด็นความสับสนกับกรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ หรอกนะ แต่เป็นเรื่องที่ว่าผมไม่ยอมออกจากทีมทันที ตอนนั้นผมควรจะออกจาก โรม่า ทันที ซึ่งผมไปฝืนอยู่ต่อและมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด"

"การบอกลา โรม่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ แต่ถ้านับตั้งแต่ที่ผมได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อนน่ะมันก็ถือว่าผมเติบโตขึ้นเยอะและได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ในทุกวัน ซึ่งความยอดเยี่ยมของคนเป็นโค้ชอยู่ที่ความจริงใจ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ ทุกวันนี้โค้ชมีความสำคัญน้อยลงเรื่อยๆ และต้องฝากฝังอนาคตเอาไว้กับโครงสร้างรวมถึงคนที่มักจะไม่ค่อยมีความพร้อมเป็นหลัก ในทุกระดับมันต่างไปจากเดิม"

"ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ผมได้สัมผัสกับรอบชิงชนะเลิศถึง 3 รายการ (ในฟุตบอลถ้วยยุโรป) แบ่งเป็น 1 ครั้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ 2 หนกับ โรม่า ซึ่งผมก็รู้สึกสนุกและภูมิใจกับมันนิดๆ เพราะเมื่อคุณทำแบบนั้นได้กับสโมสรที่ไม่เคยได้แชมป์ในถ้วยยุโรปมาก่อน (หมายถึง โรม่า) แล้วล่ะก็ มันก็จะทำให้คุณรู้สึกว่าคุณทำเรื่องที่พิเศษขึ้นมาได้"