ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ควงมาร์ค เกฮี ซัลโวคนละเม็ดพา คริสตัล พาเลซ บุกปราบ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 มีเพิ่มเป็น 24 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 14 แทน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หล่นมาอยู่อันดับ 15 ส่วน "จิ้งจอกสยาม" แพ้ในลีก 6 เกมติดรั้งรองบ๊วยของตารางมี 14 คะแนน

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองบ๊วยอันดับ 19 ของลีก เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ อันดับ 15

โดยเกมครึ่งแรก จิ้งจอกสยาม เป็นฝ่ายครองเกมและเปิดเกมรุกเข้าใส่มากกว่า นาที 18 เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง วาร์ดี้ ได้โอกาสซัดในกรอบแต่บอลยังไม่ผ่านเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน ก่อนครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 52 กลายเป็น คริสตัล พาเลซ ที่บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0 จากจังหวะที่ อิสไมล่า ซาร์ ลากบอลขึ้นมาตรงกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แตะบอลหลบนายด่านจิ้่งจอกก่อนยิงเข้าไปง่ายๆ

นาที 78 แฟนจิ้งจอกเศร้าอีกหลังทีมรักมาเสียเม็ดที่สองในทีมจากจังหวะฟรีคิกที่ เอเบเรชี่ เอเซ่ ตักเข้าไปในกรอบให้ มาร์ค เกฮี เติมมาซัดยัดมุมแคบเข้าไปอย่างเด็ดขาดพา พาเลซ นำห่าง 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือ "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้ คริสตัล พาเลซ 0-2 ทำให้ จิ้งจอกสยาม รั้งรองบ๊วยอันดับ 19 เหมือนเดิม มี 14 คะแนน ส่วน "ดิ อีเกิ้ลส์" เพิ่มสถิติไร้พ่าย 5 นัดติดทุกรายการ เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 24 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 14 แทน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หล่นมารั้งอันดับ 15 แทน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : ยาคุบ สโตลาร์ซี้ค - เจมส์ จัสติน, เว้าท์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, วิคตอร์ คริสเตียนเซ่น - แฮร์รี่ วิงค์ส, บูบาการี่ ซูมาเร่ - ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้, บิลัล เอล คันนูส, สเตฟี่ มาวิดิดี้ - เจมี่ วาร์ดี้

คริสตัล พาเลซ (3-4-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน - คริส ริชาร์ดส์, มักซ็องซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี - ดาเนียล มูนญอซ, เจฟเฟอร์สัน เลร์ม่า, วิลล์ ฮิวส์, ไทริค มิตเชลล์ - อิสไมล่า ซาร์, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, เอเบเรชี่ เอเซ่