อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ เตรียมปรับทีมอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้ 3 เกมติดต่อกัน หลังต้องบุกเยือน เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมนี้

ทัพ "หงส์แดง" ออกไปแพ้นอกบ้าน 2 เกมติดต่อกันในแมตช์เยือน คริสตัล พาเลซ (พรีเมียร์ลีก) และ กาลาตาซาราย (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) โดยไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังเท่านั้น แต่ฟอร์มการเล่นก็ย่ำแย่ำด้วย

สำหรับแมตช์เยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" โค้ชอาร์เน่อ ต้องการนำต้นสังกัดกลับมาเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเรียกขวัญกำลังใจก่อนพักเบรกทีมชาติ และเพื่อยึดตำแหน่งจ่าฝูงลีกเอาไว้ แต่กระนั้น "เดอะ เร้ดส์" มีปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก

 โค้ชอาร์เน่อ ต้องตัดสินใจในทุกตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อนำ ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้ง และการวางแท็กติกอาจมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่มากนัก เพื่อให้ทัพ "หงส์แดง" มีความสมดุลที่สุด

  ผู้รักษาประตู : จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่

 ได้เวลาที่ มามาร์ดาชวิลี่ จะได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองแบบเต็มที่ หลัง อลีสซง เบ็คเกอร์ มีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา และต้องพักหลายสัปดาห์ โดย นายทวารชาวจอร์เจีย ต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างผลงานชั้นยอดออกมาให้ได้ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ "พ่อหมี" กลับมาฟิต อาจไม่ได้สิทธิ์หวนกลับมาเป็นมือ 1 แบบอัตโนมัติเหมือนที่ผ่านมา ที่สำคัญถ้าเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด นั่นจะเป็นเครื่องการันตีว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นทายาทของ โกลชาวบราซิเลียน

 แบ็กโฟร์ : คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

 ตำแหน่งแนวรับแม้จะโดนวิจารณ์อย่างหนักก็ตาม แต่โค้ชอาร์เน่อ ยังคงไว้วางใจ โกนาเต้ ให้ยืนคู่กับ ฟาน ไดค์ เหมือนเดิม ส่วน โจ โกเมซ คงต้องรอโอกาสของเขาต่อไป ขณะที่แบ็กขวาเชื่อว่าการใช้งาน แบรดลี่ย์ ซึ่งเป็นฟูลแบ็กโดยธรรมชาติ น่าจะดีกว่า เนื่องจากนักเตะมีประสบการณ์ในการดวลกับ เชลซี พอสมควร ส่วน เจเรมี่ ฟริมปง ฟอร์มยังไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ สำหรับแบ็กซ้ายตอนนี้ โรเบิร์ตสัน เหมาะกว่า มิลอส เคอร์เคซ เพราะ "ร็อบโบ้" มีทีเด็ดในเรื่องเกมรุก และความนิ่งมากกว่า และมีมิติในการเล่นที่ดุดันกว่า ดาวเตะชาวฮังการี

 คู่กลาง : ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โดมินิค โซโบซไล

 จากผลงานช่วง 2-3 เกมที่ผ่านมา อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังไม่ฟิตเต็มร้อย และฟอร์มไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ ดังนั้นการใช้งาน โซโบซไล คู่กับ กราเฟนแบร์ก น่าจะตอบโจทย์มากกว่าในการสู้กับแผงมิดฟิลด์ที่ดุดันของ เชลซี ที่สำคัญพละกำลัง และความดุดันของ "โซโบ" สามารถเล่นได้ทั้งเกมรับ และเกมรุก ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการเล่นให้กับ "หงส์แดง" มากยิ่งขึ้น

 แนวรุก : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์, โกดี้ คักโป

 แม้ว่า เวียร์ตซ์ จะสร้างผลงานไม่ได้อย่างที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ แต่ผลงานของเขายังคงน่าสนใจในการสร้างเกมรุกให้กับทีม ดังนั้นเชื่อว่า กุนซือชาวดัตช์ ยังคงไว้วางใจให้เขาคอยทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมต่อไป ส่วนทางฝั่งซ้ายสาวก "เดอะ ค็อป" อยากเห็น อูโก้ เอกิติเก้ ลงเล่น แต่นักเตะอาจจะไม่ฟิตมากพอที่จะยืนเป็นตัวจริง ดังนั้นแฟนหงส์คงได้เห็น คักโป ลงทำหน้าที่ต่อไปเหมือนเดิม ส่วนฝั่งขวา ซาลาห์ จะกลับมาประจำการอีกครั้งหลังโดนดร็อปในเกมกับ กาลาตาซาราย และคาดว่า "บังโม" กระสันอยากระเบิดฟอร์มในการดวลกับ เชลซี เต็มที่แล้ว

 หน้าเป้า : อเล็กซานเดอร์ อีซัค

 ณ ตอนนี้คาดว่า อีซัค น่าจะมีแมตช์ความฟิตที่ดีขึ้นแล้ว และพร้อมลงตัวจริงให้กับ "หงส์แดง" ยิ่งตอนนี้ เอกิติเก้ น่าจะยังไม่พร้อมเต็มที่ในเกมกับ เชลซี ฉะนั้น สตาร์ทีมชาติสวีดิช จะได้ออกสตาร์ทในเกมนี้ ขณะที่ เฟเดรีโก้ เคียซ่า ยังคงต้องรอโอกาสของเขาต่อไป แต่หากทีมต้องการการเปลี่ยนแปลงระหว่างเกม เชื่อว่าทั้ง เคียซ่า และ เอกิติเก้ จะถูกส่งสนามแน่นอน