อาร์เซน่อล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ทำเอาแฟนบอลผิดหวังไม่เบาเมื่อบุกมาเป็นฝ่ายไล่ตีเสมอ เชลซี 1-1 ทั้งๆที่ทีมเจ้าบ้านเหลือนักเตะสิบรายตั้งแต่ครึ่งแรกจากการได้ใบแดงของ มอยเซส ไกเซโด้ แต่ ปืนโต กลับเสียประตูก่อน และสุดท้ายทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ทำได้แค่ตีเสมอจนต้องยอมแบ่งแต้มให้กับ สิงห์บลูส์ ด้วยผลลัพธ์ 1-1 ในเกมดาร์บี้แมตช์สุดเดือดที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.

1. สิงห์ได้ พาลเมอร์ หายเจ็บนั่งสำรอง

เชลซี ได้รับข่าวดีเมื่อ โคล พาลเมอร์ คีย์แมนคนสำคัญหายเจ็บแล้ว และมีชื่อเป็นตัวสำรองหนแรกนับตั้งแต่ร้างสนามเนื่องจากมีปัญหาที่ขาหนีบ

รวมแล้ว เอ็นโซ่ มาเรสก้า ปรับทัพจุดเดียวจากเกมถล่ม บาร์เซโลน่า 3-0 ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดกลางสัปดาห์โดย ชูเอา เปโดร ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงแทน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ตกไปนั่งข้างสนาม

ด้าน เอสเตเวา เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของ เชลซี ที่ได้ออกสตาร์ตเกม พรีเมียร์ลีก ครบห้านัดในวัย 18 ปี 220 วันรองจาก โจดี้ มอร์ริส (18 ปี 115 วัน)

2. ปืนสะอึกไร้ ซาลิบา เพิ่มอีกราย

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ประสบกับข่าวร้ายเมื่อ วิลเลี่ยม ซาลิบา ปราการหลังคนสำคัญเจ็บขณะซ้อมจนลงเล่นไม่ได้ทั้งๆที่ทีม ปืนใหญ่ เสีย กาเบรียล เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่งอีกรายที่เดี้ยงไปก่อนแล้ว

จากปัญหาดังกล่าวทำให้นายใหญ่สแปนิชโรเตชั่นทีมสามรายจากเกมสยบ บาเยิร์น 3-1 ในถ้วยหูใหญ่โดยต้องใช้งาน คริสเตียน มอสเกร่า กับ ปิเอโร่ อินกาปิเอ้ จับคู่กันคุมเกมรับร่วมกันเป็นแมตช์แรกในเกม พรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ออกสตาร์ตร่วมกันมาแล้วในเกม คาราบาว คัพ นัดพิชิต ไบรท์ตัน 2-0 เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

นอกจากนี้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ซึ่งเดี้ยงตั้งแต่ต้นเกมนัดชนะ เสือใต้ หายไปจากทีมเช่นกัน แต่ทีมเยือนได้ วิคตอร์ โยเคเรส กับ กาเบรียล เชซุส สองหัวหอกฟิตกลับมารับบทตัวสำรอง

3. เกมเดือดตามคาดใบเหลืองว่อนก่อนมีแดง

ในฐานะที่เป็นทีมร่วมเมือง และมีโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ด้วยกันทั้งคู่จึงส่งผลให้การดวลกันระหว่าง เชลซี กับ อาร์เซน่อล เป็นไปด้วยความเผ็ดร้อนตั้งแต่ต้นจากการเข้าบอลแบบถึงลูกถึงคนตัดเกมทำฟาวล์กันแทบทุกจังหวะเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายทำเกมได้ถนัด

และแค่ 6 นาทีแรก มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ก็รับใบเหลืองเป็นรายแรกจากการทำฟาวล์ รีซ เจมส์ ก่อนที่นาทีที่ 12 มาร์ค กูกูเรย่า จะโดนจดชื่อเช่นกันข้อหาอัด บูคาโย่ ซาก้า คว่้ำ

เท่านั้นไม่พอ มอสเกร่า ได้ใบเหลืองอีกรายในจังหวะสกัดใส่ เปโดร กระทั่งนาทีที่ 17 ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ก็มีใบเหลืองติดตัวเมื่อเข้าดึง เจมส์ ในจังหวะเสียบอล

และในที่สุด นาทีที่ 37 มอยเซส ไกเซโด้ ก็ยันใส่ข้อเท้าของ มิเกล เมริโน่ น่าเกลียดโดยแรกทีเดียวท่านเปาชูใบเหลืองก่อน แต่หลังจากมีวีเออาร์ทัก เขาก็เปลี่ยนเป็นใบแดงไล่กองกลางเจ้าบ้านออกอย่างสมควร

ถึงตรงนี้ สิงห์บลูส์ จึงเป็นทีมที่ได้ใบแดงมากที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้สี่ใบแล้วจาก 13 เกมน้อยกว่าตลอดทั้งซีซั่น 2015/16 ของพวกเขาแค่ใบเดียวเท่านั้น (5)

จบ 45 นาทีแรกซึ่งต่างก็ยังทำอะไรกันไม่ถนัด อาร์เซน่อล เหนือกว่าในด้านการครองบอล 54%:46% แต่เป็น เชลซี ที่ได้ยิงมากกว่า 5:2 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนส่งบอลเข้ากรอบได้ดีกว่า 2:1 ครั้ง

4.หมองู(เกือบ)ตายเพราะงู

ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยน การ์นาโช่ ลงเล่นแทน เอสเตเวา และทำให้สตาร์อาร์เจนไตน์เป็นนักเตะละตินอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 100 นัดในวัย 21 ปี 152 วัน

และแม้จะมีนักเตะน้อยกว่า แต่ เชลซี กลับชิงนำหน้าก่อนในนาทีที่ 48 จากลูกเตะมุมที่ เทรโวห์ ชาโลบาห์ โดดโขกเข้าประตูเป็นเหมือนหนามยอกเอาหนามบ่งเนื่องจาก อาร์เซน่อล ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นลูกเซ็ตพีซได้อันตรายที่สุด

อย่างไรก็ดี สิงห์บลูส์ มีทีเด็ดในลูกเซ็ตพีซเช่นกันเนื่องจากพวกเขาได้ประตูจากลูกเตะมุมในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 7 เม็ดแล้วเป็นรอง เดอะ กันเนอร์ส ทีมเดียว (8)

แต่ก็นั่นแหละ 10 คนหรือจะต้าน 11 คน จนในที่สุดนาทีที่ 59 ซาก้า ก็สาดบอลจากด้านขวามาหน้าประตูให้ เมริโน่ โขกไม่เหลือโดยเป็นการแอสซิสต์เม็ดแรกของดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ในเกม พรีเมียร์ลีก รอบหนึ่งปีเต็มพอดีด้วยนับจากเกมบุกไปเยือน เวสต์แฮม วันที่ 30 พ.ย.2024

สำหรับ เมริโน่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์นับเป็นจอมเวหาตัวร้ายเนื่องจาก 10 ประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ของเขาเป็นการสอยตาข่ายด้วยศีรษะมากถึง 7 ตุง

จบเกม อาร์เซน่อล บ้อท่ากิน เชลซี ไม่ลง และเก็บได้แค่แต้มเดียวจากผลเสมอ 1-1 แม้จะมีผลงานการครองบอลเหนือกว่า 62.3%:37.7% แต่กลับได้ยิงน้อยกว่า 11:8 ครั้งโดยทั้งสองทีมส่งบอลเข้ากรอบได้ 4 ครั้งเท่ากัน

5. ออกเจ๊ายุติธรรม

เมื่อพิจารณาฟอร์มการเล่นนัดนี้ของทั้งสองทีมแล้วต้องถือว่าผลเสมอยุติธรรมดีสำหรับทั้งคู่เนื่องจาก สิงห์บลูส์ เล่นได้อย่างแข็งแกร่งเหลือเชื่อจนไม่สมควรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แม้จะมีกำลังพลน้อยกว่าตลอดครึ่งหลัง

ด้าน เดอะ กันเนอร์ส ก็ไม่มีความอันตรายมากพอที่จะเผด็จศึกทีมเจ้าบ้านที่เหลือกันแค่ 10 ชีวิตได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รอดพ้นจากความขายหน้าเมื่อได้ เมริโน่ โขกตีเสมอเก็บหนึ่งแต้มสำคัญกลับออกไป

นอกจากนี้ ทั้ง มาเรสก้า และ อาร์เตต้า ต่างก็เคยเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เช่นกันโดนกุนซือสแปนิชช่วยงานเจ้านายร่วมชาติในทีม แมนฯ ซิตี้ มาก่อนระหว่างปี 2016-2019 ก่อนที่ผู้จัดการทีม อิตาเลี่ยน จะรับงานกับถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ในซีซั่น 2022/23 กระทั่งทั้งสองจะผละออกมาเพื่อขอเติบใหญ่ตามเส้นทางของตัวเอง และต่างพาทีมดังของเมืองกรุงคว้าแชมป์ได้เช่นกัน

กระนั้นก็ดี หากจะว่ากันที่สถิติ เป็นอีกเกมที่ เชลซี ยังเอาชนะ อาร์เซน่อล ไม่ได้โดย 12 นัดหลังที่ทั้งคู่พะบู๊กันใน พรีเมียร์ลีก สิงห์บลูส์ มีชัยหนเดียวเท่านั้น (เสมอ 4 แพ้ 7) แถมไม่เคยชนะเลยในแปดเกมหลัง (เสมอ 3 แพ้ 5) นับตั้งแต่บุกไปไชโยที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อเดือนส.ค.2021

ด้าน เดอะ กันเนอร์ส ชวดคว้าชัยเกม พรีเมียร์ลีก ที่คู่แข่งเหลือ 10 ชีวิตตั้งแต่ครึ่งแรกเป็นครั้งแรกจนได้นับตั้งแต่เดือนส.ค.2010 ซึ่งพวกเขาแบ่งแต้มกับ ลิเวอร์พูล ด้วยผลเสมอ 1-1 เช่นกันแม้ หงส์แดง จะเสีย โจ โคล ที่ได้ใบแดง